เมื่อเห็นโจรเฒ่ากระโดดขึ้นลงบนกำแพงเมืองด้วยความโอหังอย่างถึงที่สุด
ในใจของซือหม่าชิงอวิ๋นก็เกิดความเคียดแค้นยิ่งนักจนแทบจะควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่
ไม่เพียงแต่ซือหม่าชิงอวิ๋นที่เกือบควบคุมตัวเองไม่อยู่ แม้แต่ทหารชั้นสูงของทัพเยียนทั้งกองทัพก็เริ่มสบถด้วยความหัวเสียกันแล้ว
“แม่ทัพใหญ่บุกเข้าไปเลยสิ สังหารโจรสุนัขคนนี้เสีย !”
“แม่ทัพใหญ่ยังรออะไรอยู่เล่า ข้ายินดีพาทัพบุกเข้าไปเป็นทัพหน้าเพื่อตัดหัวของโจรเฒ่าผู้นี้เสีย !”
“โอ้โฮ เจ้าโจรเฒ่านี่ชักจะรังแกกันเกินไปแล้วนะ !”
“เจ้าโจรสุนัขสารเลว กล้าท้าทายพวกข้าถึงเพียงนี้ ไม่เห็นทัพนับแสนของข้าอยู่ในสายตาเลยสักนิด !”
“.......”
คราวนี้เรียกได้ว่าจี้จงชิงจี้จุดของคนทั้งกองทัพ เล่นเอากองทัพเยียนพากันหยุดนิ่งมิได้
ทว่า
ซือหม่าชิงอวิ๋นยังคงระมัดระวัง
ที่เขายกทัพมาอยู่หน้าเมืองเช่นนี้ก็เพียงเพื่อกดดันอีกฝ่าย พร้อมทั้งสังเกตการณ์อีกฝ่ายอย่างละเอียดอีกครา
เพราะถึงอย่างไรการรบก็มิใช่เรื่องเล่น ๆ หากว่าจี้จงชิงซ่อนทัพใหญ่ไว้ในเมืองเล่า เกิดพวกเขาบุกเข้าไปในเมืองโดยประมาท เกรงว่าผลลัพธ์ที่ตามมาคงยากเกินคาดคิด
เพียงแต่เจ้าโจรสุนัขตัวนี้ชักจะรังแกกันมากเกินไป
ชวนให้คนเกลียดจนต้องกัดฟันทน !
ในเวลานี้เอง
เมื่อจี้จงชิงที่อยู่บนกำแพงเมืองมองเห็นทัพเยียนเริ่มเกิดความระส่ำระสายก็แอบขมวดคิ้วอยู่ตามลำพัง
ถ้าเกิดเจ้าพวกนี้บุกเข้ามาเลยจะทำเช่นไรดีเล่า ?
เช่นนั้นก็คงไม่ได้การน่ะสิ !
จี้จงชิงคิดว่าการที่หลี่จุ่นให้ตนเองใช้ ”กลยุทธ์เมืองว่าง” ก็เพื่อประวิงเวลา เพราะตอนนั้นเจ้าเด็กนั่นบอกให้ตัวเองด่าทัพเยียนให้เต็มที่ ให้คอยข่มขวัญพวกเขาไว้ เอาให้พวกเขาไม่กล้าบุกเข้าเมือง
ถึงแม้จะไม่ได้บอกไว้ชัดแจ้งว่าต้องการให้จี้จงชิงถ่วงเวลาเอาไว้ แต่การกระทำเหล่านี้ก็เพื่อข่มขวัญทัพเยียน มิให้เจ้าพวกนั้นบุกเข้ามาโจมตีเมืองเร็วเกินไปมิใช่หรือ ?
จี้จงชิงรู้สึกได้ว่าหลี่จุ่นต้องมีแผนสำรองอะไรซ่อนเอาไว้อยู่เป็นแน่ เพียงแต่ต้องใช้เวลาในการเตรียมตัว เพราะการที่ให้เขาไปส่งสัญญาณลับว่าลมอะไรนั่นให้แก่หวังเซิ่งและจื่อหนิง เพียงแค่มองรู้ว่าเป็นแผน
ซือหม่าชิงอวิ๋นขมวดคิ้ว นิ่งนึกอยู่เนิ่นนาน
ครั้นเมื่อมองดูคนบนกำแพงเมืองที่ยังคงยั่วยุด้วยท่าทีโอหังไม่หยุดหย่อน แม่ทัพใหญ่แห่งทัพเยียนก็ถึงกับโกรธจนตัวสั่น
แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็สั่นหัว หรี่ตาลงมองแล้วยิ้มเยาะขึ้น
“ไม่หรอก ! เจ้าโจรจี้นี่ใช้กลยุทธ์ถอยเพื่อรุก มันทำทีเป็นยั่วให้พวกเราบุกเข้าเมือง ที่จริงแล้วก็แค่แกล้งทำเป็นไม่กลัวพวกเราก็เท่านั้น ข้าคิดว่ามันน่าจะกำลังถ่วงเวลาอยู่ จริง ๆ แล้วมันกลัวว่าทัพเราจะบุกเข้าไปตอนนี้ต่างหากเล่า !”
เมื่อเอ่ยจบ ซือหม่าชิงอวิ๋นรู้สึกทันทีว่าตนเองนั้นอ่านขาดความคิดของเจ้าโจรเฒ่านี้ได้จนหมด
แต่น่าเสียดาย
ซือหม่าชิงอวิ๋นไม่ได้ฉลาดเท่าที่จี้จงชิงประเมินไว้ จึงดูไม่ออกถึงความหมายสุดท้ายที่จี้จงชิงต้องการจะสื่อ หากแต่เห็นแค่เพียงความหมายผิวเผินเท่านั้นว่า...
ที่จริงข้ากลัวเจ้าบุกโจมตีเมืองต่างหาก !
จี้จงชิงคิดไปว่าซือหม่าชิงอวิ๋นคงไม่คิดว่าตนเองจะใช้วิธีชั้นต่ำเช่นนี้ในการยั่วยุ แต่แล้วกลับกลับตาลปัตรไปหมด กลายเป็นว่าจี้ถูกจุดของจี้จงชิงพอดี
ที่จริงแล้วสิ่งที่เขาต้องการสื่อก็คือ...
ข้าไม่กลัวว่าเจ้าจะบุกเข้าเมืองมาหรอก !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...