องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 739

ตลอดระยะทางที่เหลือ หม่าหยวนฮั่นมิได้เอ่ยถึงเรื่องที่หลี่จุ่นจะตั้งใจรบกับโจวชิงหรือไม่อีกต่อไป

ไม่ถึงสองชั่วยาม พวกของหลี่จุ่นก็มาถึงบริเวณจุดมุ่งหมาย

เพียงแต่ว่า

ด้านหน้านั้นเป็นเขาที่มีความสูงชัน

ส่วนระยะทางสามสิบลี้นั้นอยู่หลังจากเขาสูงชันลูกนี้ไป เพียงยืนบนเนินเขาก็สามารถมองเห็นทางเดินออกอ่านของชายแดนตะวันตกได้หมด อีกยังสามารถมองเห็นไปถึงจวนชายแดนตะวันตกอันยิ่งใหญ่ได้อีกด้วย !

เห็นแม้กระทั่งด่านฝานหลง

“พวกเจ้าสองสามคนไปสืบดูสถานการณ์ทัพแคว้นฉู่ในตอนนี้แถวด่านฝานหลงที จากนั้นให้คนอีกยี่สิบคนตามข้ามา”

ใต้ตีนเขานั้น หลี่จุ่นกำชับให้ทุกคนลงจากม้า แล้วผูกม้าไว้ข้างทาง

เมื่อส่งคนออกไปสืบทัพศัตรูแล้ว ก็ให้คนที่เหลือส่วนใหญ่รออยู่ที่เดิม จากนั้นจึงพาหม่าหยวนฮั่นและทหารอีกยี่สิบนายเดินขึ้นไปบนเขา

ภูเขาลูกนี้ไม่เล็กเลย บนภูเขาไม่มีเส้นทางให้เดิน จึงทำได้แค่สร้างเส้นทางด้วยตัวเอง

พวกเขาใช้เวลาเดินอยู่กว่าหนึ่งชั่วยามจึงค่อยเดินถึงยอดเขา

ในตอนนี้เอง

ตะวันได้ตกดินทางเขาตะวันตกแล้ว แสงอาทิตย์อัสดงส่องสว่างยังทางเดินออกด่าน ราวกับเคลือบครีมสีทองอร่ามไว้ เล่นเอาคนบนเนินเขาต่างพากันมองนิ่งอึ้งไป

หลี่จุ่นมองออกไปยังเส้นทางออกด่านตลอดเส้นทาง

ที่อยู่ไกลออกไปนั้นคือจวนชายแดนตะวันตกที่ยิ่งใหญ่ แม้จะมองจากตรงเนินเขาก็เห็นได้ถึงความโอ่อ่ารโหฐาน !

เพราะเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นในราชวงศ์ก่อน ใช้ทรัพยากรไปจำนวนมาก จึงสร้างออกมาได้ใหญ่โตงดงามเช่นนี้

ได้ยินมาว่าฮ่องเต้ราชวงศ์ก่อนสร้างขึ้นเพื่อข่มขวัญบรรดาแคว้นเล็กโดยรอบ รวมถึงแคว้นหลาง

ทางตะวันตกนั้นเป็นเมืองหน้าด่านและด่านฝานหลงที่ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก

เมื่อมองจากตรงนี้จึงมีขนาดเล็กเพียงเมล็ดงา

อีกทั้งยังเป็นไปตามที่เขาคิด

ทั้งสี่ทิศของเส้นทางใหญ่นี้ล้วนล้อมรอบไปด้วยเขาสูง อีกยังมีผาสูงชัน นอกจากเข้าไปในด่านกับเข้าจากทางด่านฝานหลงแล้ว ต่อให้ปีนเขาข้ามไปก็ลงไปไม่ได้อยู่ดี จึงทำให้การตั้งด่านฝานหลงนี้มีความพิเศษนัก

มีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์อย่างเต็มที่

จะรุกหรือรับก็ย่อมได้ !

“ที่แห่งนี้วิเศษจริง ๆ มิน่าเล่า ตอนนั้นเจ้าลัทธิอาวุโสจึงได้คิดจะปักหลักที่นี่ ภายหลังจวนชายแดนตะวันตกสร้างด่านฝานหลงขึ้นด้านหน้าก่อน เขาถึงได้ล้มเลิกความคิดนี้ แล้วเลือกเทียนซานที่ไกลออกไปอีก”

หม่าหยวนฮั่นเองก็อดคิดไม่ได้เช่นกัน

“พี่หม่าไม่เคยมาที่นี่หรือ ?”

หลี่จุ่นนึกสงสัยยิ่งนัก

“สมแล้วกับที่เป็นจิ่งอ๋อง เป็นราชากวีแห่งราชวงศ์อู่จริง ๆ” หม่าหยวนฮั่นถึงกับสำทับ

หลี่จุ่นนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะใช้มือลูบจมูกไปมา

เมื่อครู่นี้เขาเผลอท่องกลอน แต่คิดไม่ถึงว่าจะทำให้พวกหม่าหยวนฮั่นตกตะลึงเสียได้

ประมาทเกินไปเสียแล้วสิ

หลี่จุ่นจึงเอ่ยขึ้น “อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อยพวกนี้เลย ครั้งนี้พวกเรามาเพื่อสำรวจพื้นที่จริง ตอนนี้ได้เวลาลงมือทำงานแล้วละ”

ว่าแล้วหลี่จุ่นก็เดินนั่งลงบนหินก้อนหนึ่งที่ด้านข้างโดยไม่สนใจเหล่าทหารอีก จากนั้นก็พิจารณาภูมิศาสตร์ด้านล่างอย่างละเอียด

ทางออกด่านนี้มีแม่น้ำใหญ่อยู่สายหนึ่ง คลื่นน้ำเงียบสงบ

หลี่จุ่นรู้ว่าแม่น้ำสายนี้แยกมาจากทางแม่น้ำต้าเฉิน ไหลผ่านเมืองหลวงแล้วจึงลงมาทางออกด่านและสุดท้ายจะไปบรรจบกับแม่น้ำเส้นหนึ่งภายในชายแดนทางแคว้นใต้

จากนั้นจะตรงไปยังทางใต้และลงสู่มหาสมุทรกว้าง

ตอนนี้ยังไม่ถึงช่วงฤดูน้ำหลาก คลื่นน้ำที่เห็นในแม่น้ำจึงยังค่อนข้างสงบ อีกทั้งยังไม่ลึกมาก

เมื่อหลี่จุ่นพินิจดูต่อไปก็พบได้ว่ามีเนินเขาเล็ก ๆ ที่ทางค่อนข้างราบเรียบ

เมื่อเห็นดังนี้ หลี่จุ่นก็นึกดีใจจนตบเข่าดังฉาด

ได้การแล้วสิ !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน