องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 783

แม้โจวชิงจะยอมจำนนแล้ว แต่ใครจะรับประกันได้ว่าเขาจะไม่หักหลังขึ้นมาอย่างกะทันหัน?

ด้วยเหตุนี้จึงต้องโยกย้ายกองกำลังออกมาส่วนหนึ่ง คอยเฝ้าทัพใหญ่เกือบสองหมื่นนายของโจวชิงเอาไว้

และด้วยเหตุนี้หลังจากที่หลี่จุ่นกับเหยียนอ๋องผู้เฒ่าปรึกษากันแล้ว ก็ให้สองพ่อลูกเหยียนอ๋องผู้เฒ่านำกองกำลังหนึ่งหมื่นนายแห่งเขาเฟิงโหยวนั่นมาคอยคุ้มกันที่นี่ ในขณะเดียวกันก็ยังหลงเหลือกองกำลังเกือบสองหมื่นนายของแคว้นหลางเอาไว้

ตอนนี้ให้พวกเขาฟังการโยกย้ายของเหยียนอ๋องผู้เฒ่า คอยเฝ้าดูทหารเชลยศึกจากแคว้นฉู่เหล่านี้

ฉะนั้นสุดท้ายแล้ว หลี่จุ่นก็นำกองกำลังไปเพียงหนึ่งแสนสามหมื่นนายเท่านั้น!

วันต่อมาระหว่างยามรุ่งอรุณ หลี่จุ่นนำหม่าหยวนฮั่น พร้อมด้วยแม่ทัพใหญ่หวังเซิ่ง และจงจื่อหนิงรีบมุ่งหน้าไปยังหลงหู่ไถอย่างเร่งรีบโดยไม่หยุดพัก!

ต้องกรีธาทัพผ่านเมืองหลินซุ่น

ใกล้ถึงช่วงเวลาระหว่างยามเที่ยง ทัพใหญ่ยิ่งใหญ่เกรียงไกร หลี่จุ่นมองเห็นเมืองหลินซุ่นที่นับตั้งแต่ตนข้ามเวลามา ก็มักจะขัดเขาไปทุกเรื่องอยู่ไกล ๆ

ในใจพลันมีความทอดถอนใจขึ้นมาเล็กน้อย

ไม่นึกเลยว่าเมืองที่มีแหล่งที่มาที่ไปอันลึกซึ้งกับตัวเองเมืองนี้ ครั้งแรกที่พบจะต้องมาพบด้วยวิธีการนี้

เมืองหลินซุ่น หรือที่เรียกว่าเมืองซุ่น

ประชาชนในพื้นที่คุ้นชินกับการเรียกมันว่าเมืองซุ่น เนื่องจากค่อนข้างคล่องปาก กระทั่งในพงศาวดารท้องถิ่นบางที่ยังบันทึกมันว่าเมืองซุ่นแทน

ทว่าการบันทึกและเรียกขานของทางการ ส่วนใหญ่ยังยึดชื่อว่าเมืองหลินซุ่นสามพยางค์เป็นหลัก

เมืองหลินซุ่น เป็นอำเภอหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดเหยียนโจว

เป็นหนึ่งในเก้ามณฑล เป็นที่ที่ว้าวุ่นที่สุดแห่งหนึ่ง

พื้นที่ผืนใหญ่แห่งนี้ ถูกเรียกรวม ๆ ว่าชายแดนทางตะวันตกไปแล้ว!

ที่แห่งนี้โจรผู้ร้ายโหดเหี้ยมและกำเริบเสิบสาน ทุกปีจะมีโจรก่อจลาจล ทำให้เหล่าราษฎรไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข กระทั่งสิ่งที่บ้าคลั่งที่สุดก็คือ พวกโจรขี่ม้าที่คลุกคลีอยู่ในชายแดนทางตะวันตกเหล่านี้ นอกจากจะปล้นแล้ว ยังกล้าลงมือกับศาลาว่าการของทางการอีกด้วย

นายอำเภอแทบจะทุกคนเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นานเท่าไร ก็จะประสบกับการโจมตีของโจร นายอำเภอแต่ละคนเมื่อรับตำแหน่งแล้วมาที่นี่ โดยเฉลี่ยมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสามเดือน!

ราชสำนักปวดหัวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก บนโต๊ะทำงานของหลี่เจิ้ง ฎีกาที่เกี่ยวกับเรื่องโจรผู้ร้ายของชายแดนทางตะวันตก แต่ละฎีกากองพะเนินเทินทึก หลี่เจิ้งเองก็อึดอัดใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ทุกครั้งมักจะต้องเต้นเร่า ๆ ด้วยความโกรธ

ความอื้อฉาวของที่นี่ ตอนแรกตอนที่หลี่จุ่นเดาว่าหลี่เจิ้งอาจจะใช้ให้เขามาจัดการที่นี่ ก็ตรวจสอบไปได้พอประมาณแล้ว

ต่อมาเขาจึงให้อวี้เซียงมาตั้งกองบัญชาการของสมาคมเทียนตี้อยู่ที่นี่

เพื่อเป็นทางหนีทีไล่ของตัวเอง

ถึงอย่างไรยิ่งวุ่นวายก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อตัวเขา แน่นอนว่าความวุ่นวายประเภทนี้ก็ต้องควบคุมให้อยู่ภายในขอบเขตที่แน่นอน

แต่จะชะล่าใจเกินไปไม่ได้

ถึงอย่างไรกองบัญชาการของสมาคมเทียนตี้ก็ตั้งอยู่ที่นี่!

อืม!

อวี้เซียงมานานขนาดนี้แล้ว หากที่นี่ยังปิดบังเรื่องอะไรที่ตัวเขาไม่รู้ เช่นนั้นอวี้เซียงก็คงจะตรวจสอบออกมาได้อยู่แล้ว

ถึงอย่างไรอวี้เซียงในตอนนี้ก็เป็นถึงหัวหน้าของสมาคมเที่ยนตี้!

และตัวเขาก็เป็นคนบ่มเพาะสมาคมเทียนตี้มากับมือ ด้านข้อมูลข่าวสาร เทียบได้กับหน่วยข่าวกรองดั้งเดิมของโลกใบนี้เลยก็ว่าได้

“ท่านจอมทัพ พวกเราควรไปทางอ้อมหรือไม่?”

หวังเซิ่งขี่ม้ามา ก่อนจะเอ่ยปากถามหลี่จุ่น

ที่นี่มีสองเส้นทาง เส้นทางแรกคือผ่านเมืองหลินซุ่น อีกเส้นทางหนึ่งคืออ้อมไปเส้นทางภูเขา ไม่รบกวนราษฎรในเมือง

หลี่จุ่นหรี่ตา มองหม่าหยวนฮั่นทีหนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ไม่ต้องไปทางอ้อม เข้าไปในเมืองเลย!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน