ในจดหมายที่ส่งผ่านนกพิราบมานี้เขียนอะไรเอาไว้อย่างนั้นหรือ?
มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น นั่นก็คือบอกกับหลี่จุ่นว่า เนื่องจากเสิ่นจิงหงสมคบคิดกับศัตรูต่างแคว้นบุกเข้ามายังคุกหลวง สุดท้ายดันถูกหลี่เจิ้งจับขังในคุกหลวง ให้หลี่จุ่นไปช่วยนาง!
หากไม่มีเรื่องเกินจำเป็นละก็ คงมีเพียงเรื่องง่าย ๆ เช่นนั้นเรื่องเดียว
ในใจของหลี่จุ่นพลันเย็นชาขึ้นมาในทันใด
เสิ่นจิงหงเป็นบุตรสาวของผู้ใดกัน?
เป็นบุตรสาวของเสิ่นคั่วไท่ฟู่แห่งราชวงศ์ผู้สง่า!
ในนามเขากับเสิ่นจิงหงแยกทางกันแล้ว ทั้งสองคนไม่เกี่ยวข้องต่อกันอีกต่อไป เหตุใดเสิ่นคั่วจึงยังทำเรื่องเกินจำเป็นถึงขั้นส่งข่าวนี้มาให้เขาอีกเล่า?
เขาเป็นถึงไท่ฟู่แห่งราชวงศ์ ตัวเองช่วยไม่ได้หรืออย่างไร?
ไม่ต้องพูดก็เห็นได้ชัดเจน
นี่เป็นเจตนาของหลี่เจิ้ง!
อยากจะช่วยเสิ่นจิงหง มีแค่เขาหลี่จุ่นเท่านั้นที่ช่วยได้!
เหตุใดจึงมีแค่เขาหลี่จุ่นที่ช่วยได้เล่า?
เพราะเขามีดินปืนดำอย่างไรล่ะ!
ตอนนี้ยังมีเครื่องโยนหินเพิ่มขึ้นมาอีก...
เจตนาที่เสิ่นคั่วอยากจะแสดงออกมาไม่มีอะไรมากไปกว่านี้หรอก
อยากให้เสิ่นจิงหงออกจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย เช่นนั้นเขาจึงต้องส่งมอบส่วนผสมของดินปืนออกมา!
หลี่จุ่นคาดการณ์เอาไว้ตั้งนานแล้ว
จากนั้นก็แค่รอให้หลี่เจิ้งออกกระบวนท่า อยากจะดูสิว่าเขาจะออกกระบวนท่าแบบไหน เพื่อเอาส่วนผสมของดินปืนไปจากมือของตน!
หลี่จุ่นถึงขั้นรอคอยอยู่เล็กน้อย
แต่นึกไม่ถึงเลยว่า หลี่เจิ้งจะงัดวิธีการที่เลวทรามต่ำช้าขนาดนี้ออกมา ใช้ผู้หญิงมาบีบบังคับ!
ส่วนผู้หญิงคนนี้ โดยผิวเผินแล้วไม่ได้มีความสัมพันธ์กับตัวเขาอย่างลึกซึ้ง
ฉะนั้นเขาหลี่เจิ้งเองก็ไม่จำเป็นต้องแบกรับชื่อเสียงนี้!
ที่เขาจับเสิ่นจิงหงขังคุกหลวง ไม่ใช่เพราะอยากได้ส่วนผสมของดินปืน ทว่าเสิ่นจิงหงสมคบคิดกับศัตรูต่างแคว้นบุกเข้ามายังคุกหลวง ฉะนั้นก็เลยจับนางขังคุกหลวง
หลี่เจิ้งสมแล้วที่เป็นหลี่เจิ้ง!
ในขณะเดียวกันหลี่จุ่นก็รู้สึกเดือดดาลขึ้นมา ในใจเองก็อดไม่ยกย่องไม่ได้ ฮ่องเต้สุนัขผู้นี้ช่างใช้เคล็ดผู้เป็นราชาถึงขั้นสูงสุดเลยจริง ๆ!
ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ก็ไม่สามารถประเมินเขาต่ำได้ หากประเมินเขาต่ำไปนั่นก็เท่ากับรนหาที่ตาย!
“มีอะไรหรือ? ในจดหมายไท่ฟู่ว่าอย่างไรหรือ?”
“ท่านอาหวัง!”
หลี่จุ่นรีบเปลี่ยนหัวข้อบทสนทนาในทันที เขามองไปที่แผนที่แล้วเอ่ยขึ้นว่า
“ตอนนี้เรื่องศึกทางชายแดนตะวันตกได้จบสิ้นลงแล้ว แต่ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็ยังเป็นทัพใหญ่สี่ห้าแสนนายของแคว้นจ้าวนั่น!”
เมื่อพูดถึงเรื่องสำคัญ สีหน้าของเหยียนอ๋องผู้เฒ่าก็พลันจริงจังขึ้นมา เขาพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้นว่า
“ตามการคาดการณ์ในตอนนี้ เกรงว่าทัพใหญ่ของแคว้นจ้าวนั่นยังมีไม่ต่ำกว่าสี่แสนกว่านาย แต่ทางเจิ้นเป่ยอ๋องเกรงว่าจะมีกำลังพลเพียงแค่หนึ่งแสนกว่านายเท่านั้น อาจจะไม่ถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นนายเสียด้วยซ้ำ และทางเรามีหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย รวมกันแล้วก็อาจจะไม่เกินสามแสนนาย ยังห่างกันตั้งหนึ่งแสนกว่านายเลยทีเดียว”
“ทัพใหญ่ของแคว้นจ้าวอยู่บนแผ่นดิน ก็ได้ชื่อว่าองอาจห้าวหาญชำนาญการรบ ทหารแต่ละนายล้วนเหมือนกับกองทัพพิทักษ์อุดร หากสองทัพต้องมาเผชิญหน้ากัน เกรงว่าราชวงศ์อู่ของเราจะพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!”
หลี่จุ่นพยักหน้า
ทั่วทั้งแคว้นจ้าวยกทัพมาตีราชวงศ์อู่ ไม่แน่ชัดว่ามีเป้าหมายอะไร แต่แน่นอนว่าคงไม่ยอมแพ้และจบลงด้วยดีง่าย ๆ เช่นนี้เป็นแน่ เป็นไปได้มากว่าจะสู้จนถึงที่สุด!
ฉะนั้นศึกสุดท้ายนี้ จึงเป็นศึกที่ยากที่สุด!
และบนผืนผ่นดิน อยากรบชนะทัพใหญ่ที่มีกองกำลังมากกว่าตนหนึ่งแสนนาย แม้หลี่จุ่นจะคิดหาวิธีมากมาย ทว่าในเวลาเพียงชั่วครู่ก็ยังไม่สามารถคิดหาวิธีที่สามารถจัดการได้สำเร็จลุล่วงออก!
ศึกนี้ต้องปรึกษาและวางแผนกันให้ดีก่อน
เหยียนอ๋องผู้เฒ่าเอ่ยขึ้นว่า
“ไม่ว่าอย่างไร พวกเราก็ต้องเดินทัพไปหลงหู่ไถภายในสองวันก่อน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...