องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 629

ยามราตรี

ฉินเหยียนกำลังเตรียมเสวยมื้อค่ำ

เหล่านางกำนัลในพระราชวังตระเตรียมอาหารในห้องเครื่องเรียบร้อยแล้วก็ยกออกมาจัดวางเอาไว้ มีนางกำนัลคนหนึ่งทำน้ำซุปเลอะโต๊ะเพราะความตื่นเต้น

จ้าวจีเอ๋อร์จ้องเขม็งแล้วต่อว่านาง “ซุ่มซ่ามจริงๆ ไปรับโทษซะ”

นางกำนัลคำนับ “เพคะ”

นางกำลังจะเดินไป แต่ฉินเหยียนก็เรียกนางเอาไว้ “รอเดี๋ยวก่อน”

นางกำนัลคุกเข่าลงอย่างหวาดผวา นางก้มศีรษะแล้วร่างกายสั่นคลอนไปหมด

ฉินเหยียนเดินไปเบื้องหน้าของนาง “เงยหน้าขึ้นมา”

นางกำนัลเงยหน้าแต่ไม่กล้าสบตากับฉินเหยียน

จ้าวจีเอ๋อร์เข้าใจผิดคิดว่าฉินเหยียนถูกใจนางกำนัลที่มีรูปลักษณ์งดงาม นางกำลังจะสั่งให้คนพานางกำนัลผู้นี้ไปชำระกายให้สะอาด

แต่ฉินเหยียนกลับพูดว่า “ข้าความจำดีมาก ก่อนหน้านี้ข้าพบเจ้าหลายครั้ง เมื่อก่อนเจ้าพบข้าก็ไม่ได้ผวาข้ามากเช่นนี้ เหตุใดวันนี้จึงกระวนกระวายเช่นนี้แถมยังทำอาหารหกเลอะโต๊ะ หรือว่า......ในอาหารมีอะไร?”

จ้าวจีเอ๋อร์อึ้งไป เมื่อมองนางกำนัลแล้ว นางตกใจจนสีหน้าซีดเซียว เห็นได้ชัดว่ามีอะไรแน่ๆ นางไม่พูดมากความรีบหยิบตะเกียบเงินบนโต๊ะขึ้นมาคีบอาหารมาจัดการแล้วตั้งใจมอง ตรงปลายตะเกียบเป็นสีดำไปจริงๆ

“บังอาจ นี่เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงวางยา ทหาร!”

“ช้าก่อน”

จ้าวจีเอ๋อร์กำลังจะออกคำสั่งแต่กลับถูกฉินเหยียนห้ามเอาไว้ เขานั่งลงตรงหน้าของนางกำนัลที่ตัวสั่นแล้วถามเสียงเบาว่า

“เจ้ากระวนกระวายมากเช่นนี้คงเป็นครั้งแรกที่ทำการวางยาสินะ มีใครบังคับเจ้าใช่รึไม่ บอกความจริงข้ามา ข้าสามารถช่วยเจ้าได้”

นางกำนัลรู้ว่าไม่อาจควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว นางกัดฟันแน่นแล้วพูดอย่างเกลียดชังว่า

“ไม่มีผู้ใดบังคับข้าทั้งนั้น และไม่มีใครสั่งให้ข้าทำ ข้าทำทั้งหมดนี้ด้วยตัวข้าเอง ข้าต้องการสังหารเจ้า!”

เมื่อเห็นว่านางเด็ดขาดเพียงนี้ ฉินเหยียนก็อดสงสัยไม่ได้ “ข้าไม่มีความแค้นอะไรกับเจ้า เหตุใดจึงวางยาข้า?”

“ไม่มีความแค้นรึ หึๆ!” นางกำนัลใช้สายตาที่โกรธเกรี้ยวจ้องมองฉินเหยียน

“เป็นเจ้าที่วางแผนทำลายอาณาจักรของเรา เจ้าส่งเฉินหย้วนหย้วนเข้ามาในพระราชวังเพื่อสร้างความโกลาหลภายใน วางแผนให้อู๋ซานกุ่ยก่อกบฏ เข่นฆ่าชาวเมือง ทำให้ทุกคนไร้ที่อาศัย ทั้งหมดเพราะเจ้า ยังกล้าพูดว่าไม่มีความแค้นงั้นรึ!”

เพียงแต่จ้าวจีเอ๋อร์เข้าใจฉินเหยียนผิดแล้ว เขาไม่ได้สนใจเรื่องชื่อเสียงเสียเลย สิ่งที่เขาห่วงคือชาวเมืองอาณาจักรจ้าวรู้ว่ามันเป็นฝีมือของเขา งั้นการกระทำต่อไปนี้ก็ไม่มีค่าอะไร สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการเปลี่ยนกลยุทธ์และใช้แนวทางที่แตกต่างออกไป

“สั่งให้แม่ทัพสือ สือหย่ง หลี่ชาง และทูตประจำการของอาณาจักรฉินมาเข้าเฝ้า”

แล้วก็พยุงจ้าวจีเอ๋อร์ให้ลุกขึ้น “อย่าเอะอะก็คุกเข่า ข้ากลายเป็นคนเลวและไม่ได้คิดจะทำผู้คนนับถือด้วย รู้ว่าเป็นฝีมือของข้าก็ไม่เป็นไร เพียงแต่ต้องเปลี่ยนแผนหน่อยเท่านั้น”

ไม่นานเหล่าสมาชิกขุนนางอาณาจักรฉินก็เข้ามาในส่วนลึกพระราชวัง เพื่อเจรจาวางแผนกับฉินเหยียน จ้าวจีเอ๋อร์ รวมถึงจ้าวหรงจีอย่างละเอียด ทุกคนตั้งใจรอฟังอ๋องเหยียนพูดอย่างใจเย็น

แต่ฉินเหยียนกลับไม่พูดอะไรและเดินไปเดินมาอยู่ในตำหนักจินหลวน เขาครุ่นคิดชั่งน้ำหนักผลประโยชน์และผลเสีย หลังจากผ่านไปสิบห้านาทีจึงจะพูดขึ้นว่า

“เอาเช่นนี้ก่อน กระจายคำสั่งออกไปให้เหล่าตระกูลขุนนางอาณาจักรจ้าวมาเข้าเฝ้าทันที ข้าจะเจรจากับพวกเขาให้เรียบร้อย หากสามารถปลุกระดมให้ทหารของพวกเขาก่อการกบฏได้ ความโกลาหลของชาวเมืองก็ไม่น่ากลัว เรื่องนี้เร่งด่วนนัก ต้องให้เร็วที่สุด ไปจัดการทันที ข้าต้องการพบพวกเขาวันพรุ่งนี้”

“พ่ะย่ะค่ะ” แผนกอื่นๆต่างประสานมือคารวะ

ต้าหย่งถามขึ้นเสียงเบาว่า “อ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ หากตระกูลขุนนางไม่ยอมเข้าเฝ้า เราต้องล้างบางพวกมันรึไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

ฉินเหยียนตั้งใจครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ฆ่าคนไม่อาจแก้ปัญหาทั้งหมดได้ เรื่องใต้หล้ามีหลายวิธีที่ได้ผลดีกว่าการฆ่าคนทิ้งไป”

ฉินเหยียนโยนทองบนโต๊ะ “มีเงินจะปลุกผีขึ้นมาโม่แป้งให้ก็ยังได้ ต่อหน้าของผลประโยชน์ที่มากพอ แม้แต่ผีสางเทวดาก็ต้องฟังความข้า นับประสาอะไรกับคนธรรมดาอย่างตระกูลขุนนาง!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์