เย่ซิวเดินไปหาลู่เสวี่ยเอ๋อร์โดยไม่สนใจคำเตือนของหวังเฟย
การกระทำนี้ทำให้ความเย็นชาในดวงตาของหวังเฟยยิ่งทวีขึ้นไปอีก
แต่เขาก็ไม่ได้ระเบิดอารมณ์ออกมาเสียเดี๋ยวนั้น
เขามักจะแสดงรูปลักษณ์ที่อ่อนโยนและสง่างามต่อโลกภายนอกซึ่งเป็นวิธีการที่สำคัญมากสำหรับเขาในการจีบสาว
โดยผิวเผินแล้ว เขาคงไม่สามารถทำอะไรกับเย่ซิวได้ แต่เขาแอบคิดไว้แล้วว่าจะจัดการกับเย่ซิวอย่างไร
เพื่อนนักศึกษาชายคนอื่น ๆ ก็รีบเข้ามาด้วยเช่นกัน ทำให้หวังเฟยรู้สึกรำคาญมากยิ่งขึ้น
มีคนมากมายหลั่งไหลเข้ามา จนไม่มีทางหยุดพวกเขาได้แล้ว
ในเวลานี้ เย่ซิวเดินไปลู่เสวี่ยเอ๋อร์
รูปร่างของเธอช่างสูงจริง ๆ โดยเฉพาะเรียวขางามของเธอที่เรียวและตรง เรียกได้ว่าตั้งแต่คอลงมา ขาของเธอถึงเป็นจุดนำสายตาที่สุด
เธอไม่จำเป็นต้องทำอะไร ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน ก็จะเป็นจุดสนใจของฝูงชนได้อย่างแท้จริง
“สวัดดี คุณคือลู่เสวี่ยเอ๋อร์ใช่รึเปล่า?”
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่กำลังพูดคุยอยู่กับเพื่อนสนิทของเธอหันกลับมาเห็นเย่ซิวที่มีหน้าตาสดใส ประกอบกับดวงตาที่ใสสะอาดยืนอยู่ตรงหน้า
เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มอย่างสุภาพ “ใช่ ฉันเอง นายมีธุระอะไรเหรอ?”
เธอแปลกใจเล็กน้อย เมื่อก่อนเวลามาที่ห้องซ้อมเต้นจะไม่มีผู้ชายคนอื่นนอกจากหวังเฟยเข้ามาได้เลย แล้วทำไมวันนี้ถึงมีผู้ชายเข้ามาเยอะกว่าเดิมได้แบบนี้?
ก่อนที่เย่ซิวจะได้พูดอะไร เพื่อนสนิทของเธอที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “จะอะไรเสียอีกล่ะ เขาก็คงจะมาขอวีแชทเธอ ไม่ก็สารภาพรักแน่ ๆ”
เนื่องจากเป็นจุดสนใจของฝูงชน สถานที่แห่งนี้จึงดึงดูดความสนใจของทุกคนได้อย่างรวดเร็ว
เย่ซิวดูสงบ “คุยที่นี่ไม่เหมาะ เราไปหาที่เงียบ ๆ คุยกันได้ไหม?”
เรื่องของไข่มุกราชาแห่งยาสำคัญเกินกว่าที่เขาจะพูดในที่สาธารณะ
“ขอโทษที อีกสักพักฉันต้องไปเรียน ฉันเลยไปกับนายไม่ได้ ถ้ามีอะไรจะพูดก็พูดตรงนี้ได้เลยแล้วกัน”
เธอไม่รู้ว่ามีคนจีบเธอกี่คนตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก และตอนนี้เธอก็คิดไปเองแล้วว่าเย่ซิวเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่อยากจะจีบเธอ
และเธอก็เห็นอะไรแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว
เพื่อนสนิทที่อยู่ถัดจากลู่เสวี่ยเอ๋อร์แซวว่า “เสวี่ยเอ๋อร์น่ะจีบยาก แล้วเธอก็มีมาตรฐานที่สูงมาก มาจีบฉันสิ ฉันจีบง่ายกว่านะ”
เย่ซิวตกตะลึงเล็กน้อย “พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อจีบเธอ ผมมีเรื่องด่วนจริง ๆ”
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยังคงยิ้มต่อไป
บ้านของเธอสอนมาดี จึงมีนิสัยที่อ่อนโยนและไม่ค่อยโกรธใคร
เธอมักจะปฏิเสธอย่างสุภาพต่อคนที่มาจีบเหล่านั้นและไม่เคยพูดจารุนแรงกับใครเลย
เป็นเพราะเหตุนี้เองที่ทำให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ได้รับความนิยมอย่างมากในมหาลัย และเด็กสาวทุกคนก็ชอบเธอ น้อยคนนักที่จะคิดอิจฉาเธอ
หวังเฟยเข้ามาพูดกับเย่ซิว “เพื่อนนักศึกษา เสวี่ยเอ๋อร์ปฏิเสธนายอย่างชัดเจนแล้ว ดังนั้นก็อย่าทำให้เธอลำบากใจเลย ออกไปเถอะ”
เย่ซิวมองไปยังเพื่อนนักศึกษาหลายคนที่อยู่รอบตัวเขา พลางคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าและพูดกับลู่เสวี่ยเอ๋อร์ “ถ้างั้นก็เจอกันคราวหน้า”
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีที่จะพูดคุยด้วยจริง ๆ แต่ถึงยังไงเขาก็รู้แล้วว่าลู่เสวี่ยเอ๋อร์หน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีเวลาเหลืออีกมาก
เขาหันหลังเดินออกจากห้องซ้อมเต้นไป
หวังเฟยมองลู่เสวี่ยเอ๋อด้วยสีหน้าเสน่หา “เสวี่ยเอ๋อร์ ฉันจองร้านอาหารตะวันตกไว้ สเต็กที่นั่นอร่อยมาก ไปกินด้วยกันหลังเลิกเรียนเถอะ”
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ส่ายหัวปฏิเสธ “ขอโทษนะ วันนี้ฉันมีธุระ อีกอย่าง เพื่อนนักศึกษาหวัง อย่าเสียเวลาเสียเงินกับฉันเลย เราไม่เหมาะกันหรอก”
ท่าทางของหวังเฟยยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “เสวี่ยเอ๋อร์ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเห็นเธอ ในชีวิตนี้ฉันก็สาบานกับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่แต่งงานกับใครอีกนอกจากเธอ ฉันจะพยายามต่อไป ไม่ว่าจะหนึ่งเดือนหนึ่งปี สิบปีหรือยี่สิบปี ฉันก็จะรอแต่เธอเสมอ”
เด็กสาวหลายคนที่อยู่รอบ ๆ รู้สึกประทับใจอย่างมากหลังจากได้ยินประโยคนี้
“ว้าว เพื่อนนักศึกษาหวังเฟยช่างน่ารักจริง ๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โคตรคนยอดปรมาจารย์