ในที่สุด ตามคำร้องขออย่างจริงใจของเถ้าแก่ เย่ซิวก็ยอมรับซองสีแดงมูลค่าสองพันหยวนมา
ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้กินอาหารฟรี แถมยังได้เงินสองพันหยวน
เย่ซิวยืนขึ้น เขากินจนเกือบจะอิ่มแล้ว และก็พร้อมที่จะไปทักทายลู่เสวี่ยเอ๋อร์แล้ว
แต่ทันทีที่เขาลุกขึ้น เขาเห็นหวังเฟยผลักประตูเข้าไปในห้องส่วนตัวที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และเพื่อนอยู่
ในห้องส่วนตัว หลี่เยี่ยนคีบอาหารให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์อย่างกระตือรือร้น ในตอนที่เธอไม่ได้สนใจ เธอจึงโยนยาเม็ดเล็ก ๆ ลงในชาม และยาก็ละลายทันที
“เสวี่ยเอ๋อร์ ลองนี่ดูสิ อร่อยนะ”
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กินเข้าไปพลางสงสัยเล็กน้อย “ทำไมฉันรู้สึกว่าวันนี้เธอแปลก ๆ?”
“ไม่หรอก เธอคิดมากไปแล้ว รีบกินเร็วเข้า อร่อยนะ”
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์สับสนและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นสิ่งใด
เธอหยิบชามและตะเกียบขึ้นมาแล้วอยากจะกินเนื้ออีกชิ้น
แต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกอ่อนแรงจนตะเกียบตกจากนิ้ว
ปึง! ปึง!
ในขณะเดียวกันนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
หลี่เยี่ยนลุกขึ้นไปเปิดประตู และพาหวังเฟยเข้ามา
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ดีในใจ แต่เธอก็ยังคงสามารถรักษาสติของเธอเอาไว้ได้ “เพื่อนนักเรียนหวังเฟย นายมาที่นี่ได้ยังไง?”
“ผ่านมาน่ะ” หวังเฟยมองลู่เสวี่ยเอ๋อร์ด้วยสายตาที่ไร้ยางอาย
เธอมีรูปร่างที่ยอดเยี่ยม ขนาดที่แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันยังอดอ้าปากค้างไม่ได้
หวังเฟยอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
ไม่ใช่แค่วันสองวันที่เขาโลภอยากได้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เช่นนี้
เมื่อก่อนไม่กล้า เพราะมีปรมาจารย์คอยปกป้องลู่เสวี่ยเอ๋อร์อย่างลับ ๆ มาเสมอ
แต่เมื่อไม่นานมานี้เขาได้รับข่าวว่าคนคนนั้นจากไปด้วยเหตุบางอย่าง
นี่ทำให้เขามีโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เป็นผู้หญิงหัวโบราณ
ตราบใดที่เขาได้ครอบครองเรือนร่างของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการ เธอก็ทำได้เพียงกลั้นใจแต่งงานกับเขาเพียงเท่านั้น
ไม่เพียงได้ตอบสนองความต้องการของตัวเอง แต่เขายังจะได้แต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์กับตระกูลลู่อีก เมื่อถึงเวลา ความแข็งแกร่งและสถานะของตระกูลหวังก็จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากอย่างไม่ต้องสงสัย
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ตื่นตระหนกเล็กน้อย เธอพบว่าหวังเฟยแตกต่างไปจากปกติอย่างสิ้นเชิง ราวกับหมาป่าที่ถอดชุดแกะออก
ในที่สุดเธอก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ พลางมองไปที่หลี่เยี่ยน
“เธอวางยาในอาหารของฉันเหรอ?”
เธอยอมรับตรง ๆ “ใช่ นายน้อยหวังเป็นคนดีมากและเขาก็หลงรักเธอ เธอสองคนเป็นคู่ที่ลงตัวกันมาก ฉันแค่จะช่วยเธอเท่านั้น”
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ทั้งกังวลและโกรธ น้ำเสียงสะอื้น “เธอทำแบบนี้ได้ยังไง? ฉันคิดว่าเราเป็นเหมือนพี่น้องกันด้วยซ้ำ ทำไมเธอถึงต้องทำร้ายฉันด้วย?”
หลี่เยี่ยนยิ้มอย่างเย็นชาและไม่ได้ตอบ แต่มองไปที่หวังเฟย “นายน้อยหวัง มาจัดการเรื่องนี้ที่นี่กันดีกว่า ฉันจะช่วยเฝ้าหน้าประตูไว้ให้ คุณตกลงไหม?”
หวังเฟยหัวเราะเสียงดัง “ฉันยินดี”
หลังจากพูดจบ เขาก็รอที่จะถอดเสื้อคลุมแล้วเดินไปหาลู่เสวี่ยเอ๋อร์แทบไม่ไหว
“อย่าเข้ามานะ...ไปให้พ้น...ฉะ...ฉันจะร้องให้คนช่วย...”
เสียงของลู่เสวี่ยเอ๋อร์อ่อนแรงมาก ในร่างกายเธอไม่มีกำลังเหลือแล้ว เสียงเล็ก ๆ เช่นนี้ไม่อาจไปถึงหูคนภายนอกได้เลย
หวังเฟยดูตะกละตะกลาม “ร้องเลยสิ! ยิ่งเธอร้อง ฉันก็ยิ่งตื่นเต้น ฮ่าฮ่าฮ่า!”
หวังเฟยดึงเสื้อคลุมของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ออกด้วยแรงมหาศาล
เธอทรุดตัวลงบนเก้าอี้
ดวงตาเป็นสีแดงก่ำ กอปรกับความกลัวจับขั้วหัวใจ
“อย่า...ได้โปรดอย่าทำแบบนี้”
ยิ่งลู่เสวี่ยเอ๋อร์อ้อนวอนมากเท่าไร หวังเฟยก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น
“ที่รัก ฉันตามจีบเธอมานานแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยแยแส แต่ในที่สุดเธอก็ตกมาอยู่ในเงื้อมือของฉันแล้ว มาดูกันว่าฉันจะจัดการกับเธอยังไง!”
ทันใดนั้นเขาก็ยื่นมือจะไปจับหน้าอกของลู่เสวี่ยเอ๋อร์
ลู่เสวี่ยเอ๋อร์หลับตาด้วยความสิ้นหวัง
เธอรู้ว่าวันนี้มันจบแล้วและเธอคงจะถูกขืนใจจนมีมลทินติดตัวอย่างแน่นอน
ปึง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: โคตรคนยอดปรมาจารย์