ด้านคนที่กำลังเดินไปเข้าห้องน้ำ ถึงกับตกใจเมื่อเดินผ่านห้องรับแขกไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกกระชากแขนจากด้านหลังอย่างแรง
“อ๊ะ! ปล่อยนะพี่คิน” วรันยาบอกคนที่ยืนทำหน้าบูดบึ้งพร้อมกับสะบัดแขนออกจากการจับกุม แต่ก็ไม่เป็นผล!
“แต่งหน้าทำไม” ภาคินถามด้วยน้ำเสียงตึงๆ
“น้าดาเป็นคนแต่งให้ไวน์” วรันยาถอนหายใจกับท่าทางชวนหาเรื่องของอีกฝ่าย
“ชุดมีเป็นร้อยๆ ชุด ทำไมไม่หาชุดที่มันมิดชิดมาใส่ แต่งตัวอย่างกับ...” คนที่หึงจนหน้ามืดเอ่ยค้างแล้วเหลือบมองสาวเจ้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
“อะไร” วรันยารู้สึกโกรธกับสายตาเหยียดๆ ของคนตรงหน้า
“ไปเปลี่ยนชุด แล้วก็ไปล้างหน้าซะ” ภาคินออกคำสั่งพร้อมกับชี้ไปที่ชั้นสอง เพื่อให้สาวเจ้าขึ้นไปจัดการตัวเองใหม่
“จะบ้าหรือไง ปล่อยไวน์เดี๋ยวนี้นะ” วรันยาสะบัดมือหนาที่ยังคงจับแขนของเธอออก
“อย่าให้พี่ต้องโมโห” คนที่ถูกอารมณ์หึงหวงครอบงำเอ่ยเตือนด้วย สายตาดุๆ
“ฮึก...ถ้าหากไวน์ทำให้พี่คินไม่พอใจ ไวน์กลับก็ได้” วรันยาบอกอย่างทนไม่ไหว ที่อยู่ๆ ก็ถูกหาเรื่อง
“พี่ไม่ให้กลับ” ภาคินหัวใจกระตุกวูบ เมื่อเห็นหยดน้ำใสๆ ไหลอาบแก้มของสาวเจ้าเป็นทาง
“นี่มันอะไรกัน คินทำอะไรน้องไวน์” ดาหลาเอ่ยถามอย่างตกใจที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์เข้า
“ฮึก...น้าดาช่วยไวน์ด้วยค่ะ” วรันยาหันไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ พร้อมกับแกะมือหนาออก แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยน้องเดี๋ยวนี้นะคิน!” ดาหลาหันไปสั่งบุตรชายที่ไม่รู้ว่าเมาหรือถูก ผีเข้าสิงร่าง ถึงได้ทำตัวบ้าๆ แบบนี้
“ผมก็แค่จะพาน้องไปเปลี่ยนชุดเท่านั้น” ภาคินยอมปล่อยมือจากสาว
“เปลี่ยนทำไม?” ดาหลาถามอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะดึงเด็กสาวที่น้ำตานอง้หน้าเข้ามากอดอย่างรู้สึกสงสาร
“ก็ชุดนี้มันโป๊ แม่ไม่เห็นเหรอว่าผู้ชายทั้งงานพากันจ้องน้องไวน์ตาเป็นมัน” ภาคินต่อว่ามารดาที่ชอบจับวรันยาแต่งตัวเกินวัย
“ฮึก...พี่คินบอกให้ไวน์ไปล้างหน้าด้วยค่ะน้าดา ฮือๆๆ” วรันยาเงยหน้าขึ้นฟ้องก่อนจะปล่อยโฮออกมาอย่างรู้สึกเจ็บใจที่โดนบีบบังคับ
“คิน! นี่มันจะเกินไปแล้วนะ” ดาหลาบอกอย่างรับไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าทำไมบุตรชายจะต้องมีปัญหาทุกครั้งที่เธอจับเด็กสาวแต่งตัวสวยๆ
“เกินไปตรงไหนครับ ก็ผมไม่ชอบให้น้องไวน์แต่งหน้า มันดู...” ภาคินเอ่ยยังไม่ทันจบก็ถูกขัดจังหวะเข้าเสียก่อน
“มีอะไรกัน อ้าว! น้องไวน์ร้องไห้ทำไมลูก” กังศมาที่เดินมาเข้าห้องน้ำเอ่ยถามอย่างตกใจ
“ก็ตาคินน่ะสิคะ จะลากน้องไวน์ไปเปลี่ยนชุดกับล้างหน้า” ดาหลาหันไปบอกมารดา
“เป็นบ้าไปแล้วเหรอฮะเรา” กังศมาต่อว่าหลานชายตัวดี ก่อนจะเข้าไปกอดปลอบเด็กสาว
“ยายกับแม่ไม่รู้หรอกว่าผู้ชายในงานพูดถึงน้องไวน์ยังไง” ภาคินตอกกลับอย่างไม่สบอารมณ์
“ฮึก...ไวน์ขอกลับไปนอนที่รีสอร์ตนะคะคุณมาร์” วรันยายกมือขึ้น ปาดน้ำตาทิ้งอย่างรู้สึกสะใจ ที่เห็นจอมหาเรื่องถูกผู้ใหญ่เอ็ด
“โธ่! น้องไวน์” ดาหลารู้สึกแน่นที่หน้าอกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“นอนนี่แหละลูก” กังศมาลูบแผ่นหลังบางเบาๆ อย่างรู้สึกสงสารที่อีกฝ่ายต้องมาเจออะไรแบบนี้
“ไวน์จะให้พี่นารีมารับค่ะ นะคะ” วรันยาบอกเสียงอ่อน
“เฮ้อ...ก็ได้จ้ะ” กังศมากัดฟันขานรับคำขอ เพราะต้องการดัดนิสัยของหลานชายตัวดีที่ชอบใช้อารมณ์
“ยาย!” ภาคินมองผู้เป็นยายอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะยอมปล่อยให้วรันยากลับไปนอนที่รีสอร์ต ทั้งๆ ที่รู้ว่าสินชัยไม่อยู่
“ทำไม? ถ้าน้องนอนที่นี่ เดี๋ยวเราก็หาเรื่องน้องอีก” กังศมาสวนกลับ เพราะรู้ว่าหลานชายจะไม่ยอมหยุด หากวรันยาไม่ทำตามความต้องการของตัวเอง
“ใช่ครับ! ผมมาขอดูบอล พอดีที่ไร่เสียงดังมาก ดูไม่รู้เรื่องเลยครับ” ภาคินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง หลังจากที่หนีไปสงบสติอารมณ์มาได้พักใหญ่ๆ
“คุณคินเดินมาเหรอคะ” นารีขยับหลบให้อีกฝ่ายเข้ามาในบ้าน
“ครับ! เอ่อ...พอจะมีเบียร์เย็นๆ สักกระป๋องไหมครับ” ภาคินเอ่ยถามขณะที่สายตาจับจ้องไปยังสาวที่สวมชุดนอนสีชมพูหวาน ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังนารี
“ไวน์ขึ้นไปนอนก่อนนะคะพี่นา” วรันยาบอกจบก็สะบัดหน้าเดินหนีขึ้นห้องไปทันทีทันใด ‘หึ! อีตาบ้านี่จะตามมาหาเรื่องเราอีกหรือไงนะ’
“ค่ะ เดี๋ยวพี่นาตามไป” นารีขานรับก่อนจะเดินไปหยิบเบียร์ในตู้แช่มาส่งให้กับชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับ พี่นาขึ้นไปนอนเถอะ ที่เหลือผมจะจัดการเอง” ภาคินยิ้มก่อนจะหยิบรีโมทมากดเปิดโทรทัศน์
“ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” นารียิ้มก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปอย่างรู้สึกขำกับข้ออ้างของชายหนุ่มที่บอกว่ามาดูบอล ทั้งๆ ที่วันนี้ไม่ได้มีบอลแข่งเลยสักคู่
ทันทีที่ประตูห้องนอนเปิดออก วรันยาก็รีบเอ่ยถามอย่างร้อนใจ“เอ่อ...คนบ้านั่นยังอยู่เหรอคะพี่นา”
“อยู่ค่ะ น้องไวน์มีอะไรหรือเปล่าคะ” นารีค่อยๆ ปิดประตูห้องอย่างเบามือ
“ไม่มีค่ะ แค่ไม่ชอบเท่านั้น” คนที่ยังโกรธบอกก่อนจะล้มตัวลงนอน
“แหม...คุณคินคงจะเป็นห่วงน้องไวน์ ก็เลยมาเฝ้าน่ะค่ะ” นารีบอกอย่างพอจะเดาสถานการณ์ออก
“จะมาทำไมก็ไม่รู้ บ้านตัวเองจัดงานออกใหญ่โต เพื่อนฝูงก็มากันตั้งเยอะแยะ” วรันยาบ่นพร้อมกับคว้าหมอนข้างเข้ามากอด
“หึๆ พี่นาว่าเราเข้านอนกันเถอะค่ะ” นารีเอ่ยชวนเพราะพรุ่งนี้เธอจะต้องไปคุมงานและตรวจงานแทนผู้เป็นนายแต่เช้า
“ค่ะ ฝันดีนะคะพี่นา” วรันยาหลับตาลงอย่างรู้สึกง่วงและอ่อนเพลีย
“ฝันดีค่ะน้องไวน์” นารีเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียง จากนั้นก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปแทบจะทันทีทันใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)