ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่) นิยาย บท 39

ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงเรียกเข้าของมือถือดึงความสนใจของคนที่กำลังร้องไห้ให้หันไปมอง พอเห็นชื่อของสิงขร เธอจึงรีบกดรับสายมือไม้สั่น

[สวัสดีครับคุณภา]

[ฮึก...สวัสดีค่ะ] ลัมภาขานรับและพยายามกลั้นเสียงสะอื้น

[คุณคินให้ผมโทรมาบอกว่า...ขอยุติความสัมพันธ์ทุก ๆ อย่างและจะโอนเงินให้คุณสองล้านบาท โดยแลกกับการที่คุณต้อง...ไม่-ให้-สัมภาษณ์-กับ-นักข่าว คุณยินดีจะรับข้อเสนอนี้ไหมครับ] คนที่ทำหน้าเป็นสื่อกลางเอ่ยถาม

[ปะ...แปลว่าหลังจากนี้คุณคินจะไม่มาหาภาอีกแล้ว] ลัมภาถามขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้มเป็นทาง

[ครับ ส่วนคอนโดที่คุณอยู่ คุณคินให้เวลาย้ายออกภายในสามเดือน] สิงขรเอ่ยรับพร้อมกับบอกกำหนดการ

[ภาทำอะไรผิดคะ ฮือๆๆ] ลัมภาปล่อยโฮออกมาอย่างเก็บอาการไม่อยู่ เพราะรูปที่หลุดออกไป เธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

[ในสัญญาระบุเอาไว้นะครับว่าหากความสัมพันธ์ถูกเปิดเผย ทุกอย่างก็จะยุติลงทันที มันอยู่ในข้อที่ 5 วรรค 2] คนที่ทำหน้าที่ร่างสัญญาบอกด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

[แต่ภาไม่ได้เป็นคนปล่อยภาพนั้นนะคะ] ลัมภาตอกกลับอย่างรู้สึกจุกและเจ็บไปทั้งหัวใจ

[คุณคินรู้แล้วครับว่าคุณไม่ได้ปล่อยภาพ ถึงได้ยื่นข้อเสนอนี้ให้ สรุปคุณจะรับหรือเปล่าครับ?]

[ฮึก...ค่ะ] ลัมภาเอ่ยรับเสียงอ่อน แม้หากแลกได้...เธอขอแลกเงินสองล้านบาทกับการได้เป็นคนรัก ที่ไปไหนมาไหนแบบมีตัวตนแค่สักหนึ่งวันก็พอ แต่มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้

[โอเคครับ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายเอาเอกสารเข้าไปให้คุณเซ็นพร้อมกับ เงินสด] สิงขรสรุป

[ค่ะ] ลัมภาขานรับอย่างจำใจ ก่อนจะกดวางสายแล้วร้องไห้ให้กับภาพ คืนวันเก่าๆ ที่เคยมีร่วมกับภาคิน

คนที่นั่งฟังการสนทนาอยู่เงียบๆ เอ่ยถามหลังจากที่คนสนิทกดวางสาย“ใครเป็นคนปล่อยภาพครับพี่สิงห์”

“อันนี้ผมไม่ทราบครับ เหมือนคนที่ปล่อยภาพน่าจะวางแผนมาดี” สิงขรบอกพร้อมกับถอนหายใจอย่างเพลียๆ สองวันมานี้เขาตามเช็กหลายอย่าง แต่ก็เหมือนจะเจอทางตัน เพราะเพจต้นเรื่องที่ปล่อยภาพ ก็ปิดเพจหนีหายเข้ากลีบเมฆไป ในของส่วนลัมภาเอง เขาก็ให้คนเช็กทั้งมือถือและแฮ็กเฟซบุ๊กกับไลน์ เพื่อตรวจสอบข้อมูลในการสื่อสาร ซึ่งพบแค่ข้อความจากเพื่อนๆ ที่ส่งมาถามเรื่องของภาคิน

เจ้าตัวแค่เปิดอ่าน ไม่ได้พิมพ์ตอบใดๆ จึงคิดว่าคนที่ปล่อยภาพไม่ใช่ลัมภา แต่อาจจะเป็นใครอีกคนที่ตามสืบความเคลื่อนไหวของภาคินอยู่เงียบๆ ซึ่งตอนนี้เขาก็กำลังให้คนตามสืบหาเบาะแสต่างๆ เพื่อจะย้อนศรคืนกลับไปยังต้นทาง

“ยายเป็นไงบ้างครับ” ภาคินถามถึงผู้เป็นยายที่คิดว่าน่าจะเดินทางกลับจากการไปทำบุญและทราบข่าวของตนแล้ว

“เดือดยิ่งกว่าน้ำต้มไก่ครับ” สิงขรอมยิ้ม เพราะเมื่อวานตอนบ่ายตนเพิ่งจะถูกกังศมาเรียกไปสอบถามและต่อว่ามาชุดใหญ่ พอตอนกลางคืนก็ถูกนารีพาลด่าจนต้องรีบแกล้งหลับ

“! ผมไม่อยากกลับไร่แล้วสิ” ภาคินบอกอย่างรู้สึกเสียวสันหลังนิดๆ

“เอ่อ...แล้วคุณไวน์เป็นไงบ้างครับ” สิงขรถามอย่างรู้สึกเป็นห่วง

“น้องไวน์ร้องไห้จนตาบวมเลยครับ คงจะเสียใจและผิดหวังในตัวผมมาก” ภาคินบอกเสียงเศร้าเมื่อนึกไปถึงตอนที่สาวเจ้าเดินมาเปิดประตูให้ตน

“แล้วคุณคินจะบินกลับไปหาคุณไวน์อีกเมื่อไหร่ครับ”

“อีก 2-3 วันครับ ผมว่าจะพายายไปด้วย” ภาคินถอนหายใจรู้สึกเพลียๆ ที่สุดท้ายแล้วก็ต้องขอให้ผู้เป็นยายออกหน้าช่วย

“หึๆๆ” สิงขรหัวเราะได้เพียงครู่ เสียงเรียกเข้าของมือถือก็ดังขึ้น พอหันไปมองก็เห็นชื่อของนายหญิงซานเตียนโน่โชว์ขึ้นที่หน้าจอ “เอ่อ...คุณดาหลาโทรมาครับ”

“เฮ้อ...” ภาคินถอนหายใจก่อนจะกดรับสายของมารดา ที่คาดว่าน่าจะโทร. มาสอบถามเรื่องที่เป็นข่าว

[สวัสดีครับคุณดาหลา]

[ตลกเหรอ? เล่าเรื่องแม่นั่นมาเดี๋ยวนี้เลย]

[ก็ตามที่ให้สัมภาษณ์นั่นแหละครับ เคยคบและเลิกไปนานแล้ว]

[คิน! ตอนนี้ลูกนั่งเก้าอี้ผู้บริหารเต็มตัวแล้วนะ จะทำอะไรก็นึกถึงชื่อเสียงของตัวเองเอาไว้เยอะๆ มีข่าวกับสาวมากหน้าหลายตาแบบนี้มัน...]

[โธ่! ถ้าแม่จะห่วงผมชื่อเสียงของผมขนาดนี้ แม่ก็ควรจะห่วงชื่อเสียงของ ไอ้นัยด้วยนะครับ มันมีข่าวกับสาวทุกๆ สองเดือนเลย]

“คือว่าผม...บลาๆๆๆ” ภาคินเล่าความจริงทุกอย่างให้ผู้เป็นยายฟังตามตรง รวมไปถึงสัญญาที่ทำกับลัมภา

กังศมาได้ฟังก็ถึงกับถอนหายใจ เธอเข้าใจความรู้สึกของหลานชาย แต่ขณะเดียวกัน เธอก็เป็นห่วงความรู้สึกของวรันยา “ถ้าหากอนาคตได้แต่งงานกับ น้องไวน์จริง คินจะเลี้ยงผู้หญิงเอาไว้แก้เหงาแบบนี้อีกไหม”

“ไม่ครับ ผมได้บทเรียนแล้วจริงๆ” ภาคินตอบด้วยสีหน้าเศร้าๆ

“แล้วแม่นั่นยอมจบแน่นะ” กังศมาถามย้ำอย่างไม่ค่อยมั่นใจ กลัวว่า อีกฝ่ายจะกลับมาสร้างปัญหาในวันข้างหน้า

“ครับ พรุ่งนี้พี่สิงจะเอาเงินกับสัญญาไปให้เซ็น” ภาคินพยักหน้ารับ

“แล้วจะบินไปอังกฤษวันไหน” กังศมาถามกำหนดการ

“อีกสองวันครับ ผมขอเคลียร์งานทางนี้ให้เสร็จก่อน”

“เฮ้อ...นี่ยายต้องมานั่งกุมความลับของเราอีกแล้วใช่ไหม” คนที่เป็นทั้ง ที่ปรึกษาและคอยออกหน้าให้กับหลานชายครั้งแล้วครั้งเล่า ถอนหายใจอย่างรู้สึกเพลียๆ

“ผมไม่กล้าบอกน้องไวน์ตรงๆ นี่ครับ กลัวน้องจะเกลียดหนักกว่าเดิม”

“นี่ดีนะที่พ่อสินยังไม่รู้ว่าเราแอบคบหากับน้องไวน์ ไม่งั้นล่ะก็...” กังศมาเอ่ยพร้อมกับหรี่ตามองคนตรงหน้า

ภาคินถึงกับขนลุกไปทั้งตัว ไม่อยากจะคิดหรือจินตนาการต่อว่าตนจะต้องเจอกับอะไรบ้าง หากสินชัยรู้ว่าแอบคบหากับวรันยาแล้วมีสาวอีกคนซ่อนไว้แบบนี้ “เอ่อ...แล้วตอนนี้อาสินอยู่ที่รีสอร์ตหรือเปล่าครับ”

“ก็อยู่ที่นั่นแหละ จะไปหาเหรอ?” กังศมาเลิกคิ้วถามด้วยสีหน้ากวนๆ

“ยะ...ยังครับ ผมขอไปเคลียร์กับน้องไวน์ก่อน แล้วค่อยแวะไปหา” ภาคินรีบส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะยังไม่พร้อมจะเจอหน้ากับอีกฝ่ายในตอนนี้

“โอเค! งั้นไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าวกับยาย” กังศมาบอกพร้อมกับ ถอนหายใจ แม้บางครั้งจะโมโหหลานชายตัวดีมากขนาดไหน แต่สุดท้ายเธอก็ต้องใจอ่อนให้กับอีกฝ่ายทุกครั้ง

“ครับ” ภาคินยิ้มก่อนจะลุกเดินตามออกไป อย่างรู้สึกโล่งอกที่มีผู้เป็นยายคอยซัพพอร์ตในทุกๆ เรื่อง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)