พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 12

อวิ๋นหลิงหัวเราะตาหยีมองไปที่เขา “ก็ไม่ได้บอกให้เจ้าช่วยข้าหยุดยั้งเรื่องเอาไว้นี่ ข้าจัดการคนเดียวก็เพียงพอแล้ว”

“ถ้าเช่นนั้นเจ้ามีเป้าหมายอะไรกันแน่?”

“เพื่อให้ท่านแม่ของข้าสบายใจ ว่าเจ้าและข้าเข้ากันได้ดี เมื่อท่านแม่ของข้าเห็นเข้าก็จะได้ไม่กังวล”

นี่ก็เป็นเพียงหนึ่งในเหตุผลก็เท่านั้น

“แต่ว่าเมื่อครู่เจ้าบอกว่าจะไม่เข้ามายุ่งเรื่องนี้ อย่าผิดคำพูดล่ะ”

เดิมทีอวิ๋นหลิงไม่ได้คาดหวังว่าเซียวปี้เฉิงจะช่วยเหลือตัวเอง เรียกเขามาก็เพื่อเพิ่มอุปสรรคให้ฉู่อวิ๋นหาน

ขอเพียงฉู่อวิ๋นหานเห็นว่าเขาไม่ช่วยพูดอะไร ก็เพียงพอที่ทำให้นางรำคาญแล้ว

สีหน้าจริงจังของเซียวปี้เฉิง “ข้าบอกแล้วจะไม่ยุ่ง ก็จะไม่มีทางยุ่งอย่างแน่นอน”

เขาไม่มีทางช่วยใครเป็นแน่ นี่เป็นเรื่องบ้านด้านหลังของพ่อตา ไม่เหมาะสมที่จะเข้าไปยุ่งอยู่แล้ว

เมื่อรอไปสักประเดี๋ยว อวิ๋นหลิงเห็นว่าพ่อแม่ที่น่าเบื่อนั้นไม่ปรากฏตัว หากแต่เป็นผู้หญิงที่ท่าทางอ่อนโยนและสง่างามมาปรากฏตัวแทน

อีกฝ่ายสวมชุดกระโปรงสีขาวผ่อง มีหน้าตาที่คล้ายคลึงกับฉู่อวิ๋นหาน แค่แวบแรกอวิ๋นหลิงก็จำอนุภรรยาของพ่อที่น่ารังเกียจของนางได้ ฮูหยินเหลียน

ฮูหยินเหลียนหน้าตาถือว่าไม่ได้สวยมากนัก แต่ว่าผิวพรรณของนางขาวผ่องกว่าหญิงทั่วไปมาก เครื่องหน้าก็มีมิติมากกว่า

รัศมีกลิ่นไอจากตัวนางให้อารมณ์ความนิ่งสงบและมีสติปัญญา สง่างามงามและมีสเน่ห์

ใช้ภาษาสมัยใหม่พูดล่ะก็ นั่นก็คือความงามทางปัญญา

ความทรงจำผ่านสมอง อวิ๋นหลิงมีความประทับใจคร่าว ๆ ต่อนิสัยของฮูหยินเหลียน

ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งในใจ จึงรู้ว่าจะรับมือกับคนประเภทนี้อย่างไร

“ปี้เฉิง หลิงเอ๋อร์ เมื่อครู่เนื่องจากมีเรื่องที่ล่าช้าจึงต้อนรับไม่รอบคอบ ได้โปรดอย่าเก็บไว้ในใจ อีกประเดี๋ยวรัฐทายาทกับฮูหยินก็จะมาถึงแล้ว”

เซียวปี้เฉิงพยักหน้า สีหน้าอบอุ่น “ไม่เป็นอะไร ช่วงนี้ท่านน้าเหลียนสบายดีไหม?”

เนื่องจากสาเหตุของฉู่อวิ๋นหาน ความสัมพันธ์ของเซียวปี้เฉิงกับฮูหยินเหลียนจึงดีมาก อย่างน้อยก็ดีกว่าแม่แท้ ๆ ของฉู่อวิ๋นหลิงมากนัก

“แน่นอนว่าข้าสบายดี วันปกติก็ช่วยหานเอ๋อร์หายาสมุนไพรให้เจ้าและเยี่ยนอ๋อง ไม่มีเรื่องอื่นที่ต้องทำ เรียบง่ายและก็สบายใจด้วย”

ฮูหยินเหลียนยิ้มอย่างอ่อนโยน อีกทั้งน้ำเสียงก็อ่อนโยนด้วย

เซียวปี้เฉิงกล่าวอย่างขอบคุณว่า “ท่านน้าเหลียนมีน้ำใจยิ่งนัก”

ไม่รอให้ฮูหยินเหลียนพูด อวิ๋นหลิงขัดจังหวะด้วยการหัวเราะเบา ๆ “ท่านพ่อของข้าสู้เพื่อจะยกให้เจ้าเป็นภรรยาที่มีตำแหน่งเท่าเทียมกัน แน่นอนว่าชีวิตของเจ้าจะต้องสบายอยู่แล้ว”

เซียวปี้เฉิงขมวดคิ้ว รู้สึกว่าพฤติกรรมเช่นนี้ของอวิ๋นหลิงพูดจาหยาบคายเกินไป

“ชีวิตของเจ้าสบายแล้ว แต่ว่าฮูหยินผู้เฒ่าต้องโกรธมาก”

ตงชิงเคยบอกว่า เพราะว่าเรื่องที่ท่านพ่อของนางจะภรรยา ฮูหยินผู้เฒ่าโมโหจนล้มป่วยลง

ใบหน้าฮูหยินเหลียนไม่แสดงความตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย แต่รอยยิ้มที่มุมปากหายไปทันที

ฉู่อวิ๋นหลิงยิ่งเป็นเช่นนี้ ยิ่งแสดงถึงความโง่เขลา แล้วก็ยิ่งรับมือได้ดีขึ้นด้วย

ระหว่างคิ้วของฮูหยินเหลียนแสดงความจนใจและความเสียใจ ทำให้คนสงสารยิ่งนัก

“หลิงเอ๋อร์เกลียดข้างั้นหรือ?ข้าเองก็เคยเตือนนายท่านแล้ว แต่ว่านายท่านจะโทษว่าเป็นความผิดของฮูหยินที่สอนลูกสาวไม่ได้เรื่อง เจ้าเองก็รู้ดีว่า เขามีนิสัยไม่ดี จะตักเตือนอย่างไรก็ตักเตือนไม่ได้”

อวิ๋นหลิงจิบชา นี่ฮูหยินเหลียนกำลังพูดว่า เรื่องนี้ทั้งหมดเป็นเพราะนางที่เริ่มก่อน

“หลายวันมานี้นายท่านทะเลาะกับฮูหยินหนักมาก ข้าเองก็ร้อนใจเช่นกัน พูดกับนายท่านว่ายกตำแหน่งภรรยาให้เท่าเทียมกันอย่างไม่ตั้งใจ” ฮูหยินเหลียนถอนหายใน “จะทำเช่นไรได้...ช่างเถอะ โทษข้าเองที่ไม่ได้เรื่อง เตือนนายท่านไม่ได้”

“พูดไพเราะกว่าร้องอยู่แล้ว แบบนั้นเจ้าเรียกว่าเตือนหรือ?แบบนั้นเรียกว่าพัดลมใส่กองไฟมากกว่า!ถ้าเจ้าหุบปากของเจ้าให้สนิท เรื่องนี้ก็จบไปตั้งนานแล้ว”

อวิ๋นหลิงวางจอกน้ำชาลง จากนั้นก็กลอกตาขาวใส่

รัฐทายาทผู้เฒ่าสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าวันหนึ่งจะถูกลูกสาวชี้จมูกด่า ดวงตาเบิกกว้างกลมโต

ฮูหยินเหลียนกับฉู่อวิ๋นหานสบตากันอย่างรวดเร็ว หางตาเต็มไปด้วยความตกใจ

ฉู่อวิ๋นหลิงนี่บ้าไปแล้วหรือ?

นางเฉินกับฉู่อวิ๋นเจ๋อก็ตกใจอย่างมาก

ฉู่อวิ๋นเจ๋อมองไปที่นางอย่างเคร่งขรึม “อวิ๋นหลิง เหตุใดเจ้าถึงได้พูดจาเช่นนั้นกับท่านพ่อและท่านน้าล่ะ?หลายวันมานี้ไม่เพียงแต่ไม่มีความก้าวหน้า กลับยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น!”

“เจ้าหุบปากประเดี๋ยวนี้ ตอนนี้เจ้าพูดจาให้ใคร?รู้หรือไม่ว่าสรุปว่าตอนท้องสิบเดือนใครกันแน่เป็นคนคลอดเจ้าออกมา?”

อวิ๋นหลิงหันหน้ามาทางเขา ดวงตาทั้งสองข้างหรี่ลงเล็กน้อย

“ท่านตาจากไปเร็ว ท่านแม่เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว ในเมืองหลวงก็ไม่มีพี่ชายน้องชายให้พึ่งพิง อนุภรรยาที่สารเลวคนนี้ก็เห็นจุดนี้ ถึงได้มารังแกนางอย่างไร้ยางอาย”

“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีสตรีในเมืองหลวงหัวเราะนางมากเท่าไร?คนในครอบครัวของจวนเหวินกั๋วกงที่ใหญ่ขนาดนี้ มีเพียงสามีของนางคนเดียวที่แต่งอนุภรรยาได้!เจ้าในฐานะที่เป็นลูกชายของท่านแม่เพียงคนเดียว ควรให้นางพึ่งพา แต่กลับมานับถือโจรเป็นแม่ คลอดเจ้าสู้คลอดหมาเสียดีกว่า!”

ฉู่อวิ๋นเจ๋อโกรธจนหน้าเขียว

คำพูดนี้ของอวิ๋นหลิงหยาบคายมากเกินไป ความสัมพันธ์ของเขากับฉู่อวิ๋นหานดีใช้ได้ โดยปกติแล้วมีความเคารพต่อฮูหยินเหลียนมากขึ้นด้วย แต่ว่าท่านแม่ก็ยังอยู่ในใจของเขาเป็นอันดับหนึ่ง

เพียงแค่ฮูหยินเหลียนหลายปีมานี้ก็เคยทำอะไรนอกลู่นอกทาง เข้ากับพวกเขาได้อย่างสงบเรียบร้อย บัดนี้เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เขาก็แค่อยากแก้ไขให้นุ่มนวลมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้กระทบความอ่อนโยนในจวน

ฉู่อวิ๋นเจ๋ออยากโต้แย้ง แต่หลังจากที่หางตาเหลือบไปเห็นน้ำตาที่ประหลาดใจและน้อยใจก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย

นางเฉินมองไปที่อวิ๋นหลิง น้ำตาคลอเบ้าตา

นางไม่เคยคิดเลยว่า ลูกสาวที่ไม่รู้เรื่องน่าเป็นห่วงมากที่สุดของตัวเอง วันหนึ่งจะลุกออกมายืนปกป้องนางอย่างเข้มแข็งเช่นนี้มาก่อน

เด็กคนนั้นที่ต้องให้นางปกป้องมาตลอด โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ