สองปีก่อนเซียวปี้เฉิงกับเซียวอวี้จือโดนลอบทำร้ายที่ชายแดน
เวลานั้นพวกเขาพาผู้ใต้บังคับบัญชาและทหารที่รอดตายซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านร้างที่ทรุดโทรมแห่งหนึ่งเพื่อรอการช่วยเหลือ ชาวเผ่าทูเจวียก็ตรงเข้ามาเผาทั้งหมู่บ้านทิ้ง
เวลานั้นกำลังเสริมมาถึงแล้ว แต่ไม่พบเยียนอ๋องเลย ไฟไหม้ลุกลามใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ หนำซ้ำในหมู่บ้านยังมีพิษควันจากพวกเผ่าทูเจวีย เหล่าขุนพลจึงตัดสินใจยกเลิกการค้นหาและช่วยเหลือ ก่อนล่าถอยอย่างรวดเร็ว
เป็นเซียวปี้เฉิงผู้ที่ไม่ยอมจำนน ค้นบ้านหลังแล้วหลังเล่าท่ามกลางกองไฟ สุดท้ายก็แบกเยียนอ๋องที่เป็นลมหมดสติเพราะโดนพิษเย็นในกองเพลิงลุกโชนออกมา
เกิดเสาหักและซากปรักหักพังถล่มลงมา เป็นเซียวปี้เฉิงใช้ร่างกายทำเป็นเกราะป้องกัน หาไม่แล้วเยียนอ๋องคงไม่แคล้วถูกกระแทกจนขาหักเพียงเท่านี้หรอก
เยียนอ๋องรอดชีวิต ส่วนเซียวปี้เฉิงถูกกระแทกที่ศีรษะ ดวงตาถูกพิษควันรมนานเกินไป หลังจากตื่นขึ้นก็มองไม่เห็นเสียแล้ว
“ทั้งที่พี่สามช่วยข้าไว้ชัดๆ แต่เสด็จแม่มักจะโทษพี่สามที่ทำให้ข้าต้องพิการ สาเหตุที่นางทำเช่นนี้ ข้ารู้แก่ใจดีมาตลอด”
เยียนอ๋องทอดสายตาไปทางอวิ๋นหลิงด้วยรอยยิ้มเจือแววขมขื่น
“ที่จริงสมัยยังเด็ก พี่สามฉลาดปราดเปรื่องและขยันหมั่นเพียรกว่าพวกเราหลายคนนัก ราชบัณฑิตใหญ่ชมเชยเขาเสมอ แรกๆ เสด็จแม่ก็ดีพระทัยมาก แต่แล้วก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป”
หวงกุ้ยเฟยยังคงขอให้เขาร่ำเรียนหนักขึ้นกว่าเดิม ทว่ากลับห้ามเขาไม่ให้เป็นฝ่ายเริ่มตอบคำถามที่ราชบัณฑิตใหญ่ตั้งขึ้น
“ถ้าพี่สามเขียนบทความอะไรแล้วราชบัณฑิตยกย่อง เสด็จแม่จะซ่อนไว้ไม่ให้เสด็จพ่อเห็น บางครั้งพี่สามเสนอความคิดเห็นที่แปลกใหม่ เสด็จแม่จะหันไปทูลเสด็จพ่อว่า นั่นหม่อมฉันเสนอเอง”
“เสด็จพ่อค่อยๆ เลิกสนใจพี่สาม รู้สึกว่าเขาธรรมดาและไม่โดดเด่น ต่อมาเสด็จปู่ทรงเห็นว่าพี่สามมีแวววิชายุทธ์ ต้องการสอนวิชาทวนให้เขาด้วยตนเอง เสด็จแม่ก็กระทำการโจ่งแจ้งมากขึ้น ถึงกับเรียกพี่สามให้มาเขียนบทความแทนข้า”
เล่าถึงตรงนี้ สีหน้าละอายใจของเยียนอ๋องก็ฉายแววแดงฉานขึ้นหลายส่วน
“ตอนนั้นข้ายังเล็กและติดเล่น ไม่เข้าใจสาเหตุที่เสด็จแม่ทำเช่นนี้ แค่รู้สึกว่าการมีพี่สามมาช่วยเขียนบทความแทนข้า ข้าก็สามารถไปเล่นที่สวนหลวงได้”
เขาติดหนี้บุญคุณพี่สามมากทีเดียว
“พอโตมาก็ค่อยรู้ว่า เสด็จแม่มักเก็บงำเรื่องดีๆ ที่พี่สามทำไว้ แล้วเปลี่ยนใส่ชื่อข้าลงไป พอเข้าใจสาเหตุข้าก็ละอายใจ แต่พี่สามกลับไม่ใส่ใจ”
“พี่สามเป็นคนเฉลียวฉลาดยิ่งนัก แต่จริงๆ แล้ว…เขาไม่เคยมีความทะเยอทะยานใดๆ เลย เขาบอกว่าสิ่งที่อยากทำที่สุดคือเป็นวีรบุรุษผู้มีจิตใจอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่อย่างพระเจ้าหลวง ดังนั้นในปีที่อายุครบสิบห้า เขาจึงตามแม่ทัพใหญ่ไปชายแดน”
ห้าปีต่อมา เขาเติบโตอย่างรวดเร็ว ถือกำเนิดขึ้นราวกับดาวดวงใหม่ที่เปล่งประกายพร่าตา ผู้สั่นสะเทือนแคว้นต้าโจว จนมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทั้งสี่แว่นแคว้นของดินแดนจงหยวน
เมื่อเห็นจักรพรรดิจาวเหรินและพระเจ้าหลวงมองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป หวงกุ้ยเฟยก็เริ่มร้อนใจขึ้นมา
อวิ๋นหลิงทำท่าครุ่นคิดพลางพยักหน้า “สถานที่ที่อันตรายอย่างชายแดน หวงกุ้ยเฟยก็ยังยินดีส่งเจ้าไปสมรภูมิรบ สันนิษฐานว่าคงมีจุดประสงค์เดียวกันกระมัง”
เยียนอ๋องเองก็ไม่กระดากอายเช่นกัน ได้แต่พยักหน้าเงียบๆ
เสด็จแม่ไม่ต้องการให้พี่สามเป็นที่จับตามองมากนัก จึงบังคับให้เขาไปชายแดน เหมือนกับเลียนแบบวิธีเดิมๆ คือให้พี่สามยกความดีความชอบในการศึกให้แก่เขา
เวลานั้นเยียนอ๋องไม่ใช่เด็กอีกแล้ว เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำเช่นนี้ ทว่าก็รับปากไปชายแดน เพียงแต่ทนการควบคุมที่แข็งกร้าวของหวงกุ้ยเฟยไม่ไหว
เขาไม่สนใจบัลลังก์ ในใจเขากระจ่างแจ้งดี ว่าตัวเองมีศักยภาพแค่ไหน
ใครจะไปรู้ว่าเพิ่งไปที่นั่นเพียงสองเดือนก็เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นเสียแล้ว
สายตาเยียนอ๋องฉายความผิดหวัง “ตอนแรกเสด็จแม่ไม่เป็นแบบนี้ นางสอนให้ข้าและพี่สามรักเคารพให้เกียรติกัน...”
อวิ๋นหลิงพยักหน้า นางเชื่อว่าหวงกุ้ยเฟยได้ปฏิบัติต่อเซียวปี้เฉิงอย่างจริงใจตั้งแต่แรก
หากผู้เป็นมารดาไม่ได้ตั้งใจสั่งสอนให้สองพี่น้องรักเคารพให้เกียรติกัน เช่นนั้นเซียวปี้เฉิงและเยียนอ๋องคงไม่มีทางสร้างมิตรภาพที่ลึกซึ้งเช่นนี้ได้
แต่น่าเสียดายที่หัวใจคนเราเปลี่ยนแปลงได้ ยิ่งอยู่ในสถานที่อย่างวังหลังนี้ด้วยแล้ว ใครกันจะรักษาความตั้งใจเดิมไว้ได้
เยียนอ๋องสูดน้ำมูก กล่าวอย่างขัดเขิน “ข้าขอโทษ วันนี้พูดเหลวไหลกับอาซ้อสามไปเยอะทีเดียว”
“ไม่เป็นไร มีเวลาว่างก็มาเล่าวีรกรรมวัยเด็กของเจ้าบอดให้ข้าฟังอีกก็ได้”
เมื่อก่อนตอนไม่ชอบ นางก็ไม่สนหรือใส่ใจ แต่พอรักเข้าแล้วกลับเป็นคนละเรื่องกันเลย นางจึงอยากรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับอีกฝ่าย
“หมอหลวงเคยบอกว่าเสด็จแม่คงจะไม่มีทางตั้งครรภ์ได้อีกในชีวิตนี้ เสด็จพ่อทรงรู้สึกผิดมาก ส่วนข้าเองก็ได้เสด็จแม่เลี้ยงดูมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว”
ไม่น่าแปลกใจที่หวงกุ้ยเฟยเป็นที่โปรดปรานถึงเพียงนั้น แต่หลายปีนี้มีลูกชายอย่างเยียนอ๋องเพียงคนเดียว เห็นทีจะเจ็บปวดจนถึงก้นบึ้ง
เมื่อพูดถึงอดีต เซียวปี้เฉิงดูเศร้าห่อเหี่ยวเล็กน้อย
หวงกุ้ยเฟยในยามนั้นเพิ่งผ่านความเจ็บปวดจากการแท้งบุตร ดังนั้นนางจึงเสนอจะเลี้ยงดูเขาที่สูญเสียพระมารดาไปตั้งแต่เพิ่งเกิด ช่วงสมัยยังเป็นเด็กนั้นนางก็รักเอ็นดูเขาเหลือแสน จวบจนกระทั่งตอนนี้เขายังตราตรึงอยู่ในความทรงจำ
“ตอนแรกเสด็จแม่ดีกับข้ามาก แม้สามปีให้หลังนางจะตั้งครรภ์อย่างเหนือความคาดหมาย และให้กำเนิดอวี้จือ นางก็ไม่เคยทอดทิ้งข้า เพียงแต่พักหลังก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป”
ท่ามกลางการต่อสู้กับฮองเฮาเฟิงวันแล้ววันเล่า เขาค่อยๆ กลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้เยียนอ๋องเป็นที่โปรดปราน
“สิ่งเหล่านั้นอวี้จือได้บอกข้าแล้วในวันนี้”
อวิ๋นหลิงถูกองค์กรที่ควบคุมด้วยทหารเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กจนโต จึงไม่เคยมีประสบการณ์ที่เรียกว่าความรักแบบพ่อแม่
ดังนั้นนางจึงไม่ค่อยเห็นอกเห็นใจเซียวปี้เฉิงได้จริงๆ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มที่เศร้าหมองระคนขมขื่นของเขา ชวนให้นึกถึงถ้อยคำเหล่านั้นของเยียนอ๋อง หัวใจก็เจ็บแปลบอย่างอธิบายไม่ถูก
อวิ๋นหลิงทอดสายตาไปทางเซียวปี้เฉิงด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าจะดูแลท่านอย่างดีตลอดชีวิตนี้ ขอเพียงข้าอยู่เคียงข้างท่าน ก็จะไม่ทำให้ท่านน้อยเนื้อต่ำใจ”
เซียวปี้เฉิงชะงักเล็กน้อย ออกจะร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออกอยู่บ้าง “คำเหล่านี้…ควรเป็นข้าพูดจะเหมาะสมกว่ามิใช่หรือ”
ถึงอย่างนั้น ในใจเขาก็ยังบังเกิดความอ่อนหวานและอ่อนโยนที่ไม่อาจลบเลือน ก่อนจะขจัดความอ้างว้างเมื่อครู่ออกไปสิ้น
“ไม่มีใครพูดแล้วเหมาะสมไปกว่ากันหรอก ท่านเคยบอกว่าจะปกป้องข้าไปตลอดชีวิต เช่นนั้นข้าก็ย่อมปกป้องท่านไปตลอดชีวิตด้วย ท่านคือคนที่ข้าชื่นชอบ เป็นคนในดวงใจข้า ข้าไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกท่าน แน่นอนว่า...ยกเว้นข้าเท่านั้น!”
อุปนิสัยใจคอของนางทั้งอ่อนโยน ใจดี และใจกว้าง บางครั้งมีคนมาละลาบละล้วงเรื่องใบหน้า นางก็ยังคงรักษาท่าทีสุภาพอ่อนน้อม...แม้บางทีนางคร้านจะใส่ใจก็ตาม
แต่ว่ารังแกคนที่นางห่วงใยนั้นไม่ได้ จะต้องถูกเขาบิดหัวหลุดเป็นแน่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...