พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 438

เฉียงเวยรีบพูดยิ้มๆว่า “ตอนเช้าลูกศิษย์ในสำนักได้ส่งจดหมายมาแล้ว ข้ากำลังจะไปรายงานสถานการณ์ในตอนนี้ของแม่นางหลงเย่ให้พระชายาฟังพอดี”

ปรากฏว่าเดินมาได้ครึ่งทางก็พบเข้ากับเยี่ยเจ๋อเฟิง อดไม่ได้ที่จะตอแยเขาสักหน่อย แหย่จนเยี่ยเจ๋อเฟิงใบหน้าแดงไปจนถึงใบหูทั้งยังมีท่าทีไม่กล้าเอาเรื่องอีก เป็นความสนุกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงสองวันนี้จองเฉียงเวย

อวิ๋นหลิงยิ้มพลางพยักหน้า “เช่นนั้นพวกเราไปคุยกันที่เรือนหลันชิงกันเถอะ”

หลิวฉิงเองก็รอคอยข่าวคราวของหลงเย่มาตลอด เมื่อเห็นอวิ๋นหลิงพาเฉียงเวยเข้ามาในเรือน ก็รีบนั่งตัวตรงทันที

เฉียงเวยเอ่ยด้วยเสียงอ่อนนุ่มว่า “ช่วงนี้แม่นางหลงเย่ใช้ชีวิตอย่างสงบมาก ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้น มีขุนนางใหญ่คนหนึ่งอยากจะให้ลูกสาวแต่งงานกับแม่นางเพื่อเป็นพระชายา แต่หลังจากที่สำนักทิงเสวี่ยได้ข่าวแล้ว ได้ช่วยจัดการเรื่องนี้ให้กับแม่นางเรียบร้อยแล้ว”

อวิ๋นหลิงถามอย่างประหลาดใจ “พวกเจ้าจัดการอย่างไร”

“ก็ไม่มีอะไร นอกเสียจากจะเปิดเผยเรื่องราวสกปรกที่ขุนนางใหญ่คนนั้นเคยทำเอาไว้อย่างลับๆ อีกฝ่ายชื่อเสียงเสียหาย ฮองเฮาย่อมปฏิเสธได้อย่างมีเหตุผลไปตามเนื้อเรื่อง”

เฉียงเวยพูดจบ ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างอ่อนโยน

“แม่นางหลงเย่ของพวกเราเป็นคนที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง คนเหล่านั้นใช่ว่าจะเสียเปรียบและล้มเหลวเป็นครั้งแรกเสียเมื่อไหร่ แต่ก็ไม่ยอมตายใจเสียที ไม่นานก็มีคนคิดอยากจะครองตำแหน่งพระชายาองค์ชายเจ็ดอยู่เรื่อยๆ”

หลิวฉิงหยิบน่องไก่บนจานขึ้นมา กินพลางถามว่า “ฟังดูแล้วพวกเจ้าคงไม่ได้ทำเรื่องนี้เป็นครั้งแรก”

เฉียงเวยยิ้มพยักหน้า “เมื่อก่อนหากพบเจอเรื่องพวกนี้ ล้วนมีสำนักทิงเสวี่ยคอยยื่นมือเข้าไปช่วยแก้ไข เพียงแต่วิธีการเช่นนี้ก็ไม่สามารถใช้ได้บ่อยๆ ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความสงสัยได้”

เพื่อเป็นการไล่หญิงสาวแต่ละคนที่อยู่ข้างกายหลงเย่ คนของสำนักทิงเสวี่ยสามารถพูดได้ว่าระดมสมองทั้งหมดที่มี ใช้วิธีการและความสามารถทั้งหมดที่มีอยู่

มีครั้งหนึ่งที่รับมือยากที่สุด ต้องนับครั้งที่ลูกสาวคนโตของเสนาบดีที่เกิดรักแรกพบต่อองค์ชายเจ็ด และเสนาบดีที่เป็นทาสลูกสาวอย่างหาได้ยากยิ่ง ก็อยากจะกดดันให้ราชวงศ์จัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จ

เมื่อเห็นว่าเรื่องแต่งงานจะถูกกำหนดขึ้นมาแล้ว ในที่สุดกงจื่อโยวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ตัดสินใจลงมือด้วยตนเอง

อวิ๋นหลิงคายเปลือกเมล็ดแตงโมออก ถามอย่างอยากรู้ว่า “เขาจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยได้อย่างไร”

หรือว่าจะยอมเสียสละรูปลักษณ์ของตนเอง

เฉียงเวยมีท่าทีตลกขบขันขึ้นมาทันที เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นออกมา

ที่แท้ก็ฉวยโอกาสตอนที่ลูกสาวท่านเสนาบดีแอบพาบ่าวรับใช้ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก กงจื่อโยวได้ให้สำนักทิงเสวี่ยวางแผนโจรภูเขาปล้นทรัพย์ ลักพาตัวนางไป

“ตอนนั้นสำนักทิงเสวี่ยได้ส่งคนสามสิบกว่าคนออกไปและแต่งตัวเป็นกลุ่มโจรป่า ในขณะที่แม่นางคนนั้นร้องไห้อย่างสิ้นหวัง จู่ๆเจ้าสำนักน้อยก็เหาะลงมาจากท้องฟ้า แค่สะบัดแขนเสื้อคนหลายสิบคนต่างก็ล้มลงกับพื้นลุกไม่ขึ้น”

เฉียงเวยเล่าได้ครึ่งเดียว หลิวฉิงก็อดไม่ได้ที่จะพูดแทรกขึ้นมา “พวกเจ้าทำการแสดงมากเกินไปแล้วกระมัง แม่นางคนนั้นไม่สงสัยหรือ”

เฉียงเวยพูดอย่างมีเหตุผลและฉะฉานว่า “นี่เป็นจุดที่อัศจรรย์ที่สุดในแผนการของเจ้าสำนักน้อย เขาบอกว่าตนเองเป็นจิ้งจอกขาวที่

บำเพ็ญเพียรมานับพันปี แม่นางคนนั้นเคยช่วยเขาเอาไว้เมื่อชาติที่แล้ว ตอนนี้เขาทำนายได้ว่าจะเกิดเคราะห์กรรมต่อชีวิตของแม่นาง เพื่อเป็นการตอบแทนจึงได้มาช่วยนางโดยเฉพาะ เจ้าสำนักน้อยบอกกับแม่นางคนนั้น ว่าชะตาชีวิตของนางไม่เหมาะสมกับเยว่หลงเย่ จะแต่งงานกับอีกฝ่ายไม่ได้ มิเช่นนั้นอีกครึ่งชีวิตที่เหลือจะยากลำบากไร้ที่พึ่งพิง ครอบครัวถูกโค่นล้ม”

รูปลักษณ์ของกงจื่อโยวนั้นใช้ได้ผลมาก แม่นางคนนั้นเห็นเขารูปงามราวกับเทพเทวดา แค่สะบัดแขนเสื้อเบาๆ โจรป่าหลายสิบคนก็ล้มลงกับพื้นไม่ฟื้น เหมือนเทพสวรรค์ลงมาช่วยเหลือจริงๆ จึงมีความเชื่อในทันที

หลิวฉิงทำหน้าไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าอวิ๋นหลิงมองออกจากมุมไหน

เฉียงเวยนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ยิ้มก่อนค่อยๆพูดว่า “พระชายาจิ้งอ๋องช่างเป็นคนที่มีหัวใจปราดเปรื่องจริงๆ ไม่มีอะไรปิดบังสายตาของท่านได้เลย”

หลิวฉิงได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะนิ่งขรึมไปชั่วครู่ เมื่อก่อนหลงเย่เคยชมว่านาง “มีหัวใจปราดเปรื่อง” แต่ก็ยังขาดไหวพริบ และไม่ใช่แค่ด้านเดียวด้วย

ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เฉียงเวยค่อยๆเอ่ยปากขึ้นมา “ก่อนหน้านี้พระชายาจิ้งอ๋องเคยถามว่า ทำไมพิษเย็นของเจ้าสำนักน้อยจึงอันตรายต่อชีวิตใช่หรือไม่ นั่นเป็นเพราะเมื่อก่อนเจ้าสำนักน้อยเคยกระโดดเข้าไปในทะเลสาบน้ำแข็งเพื่อช่วยแม่นางหลงเย่ จึงทำให้พิษเย็นกำเริบหนักมากขึ้น เขาเกรงว่าแม่นางหลงเย่จะเป็นห่วงและรู้สึกผิด จึงได้ปิดบังเรื่องนี้ตลอดมา”

อวิ๋นหลิงกับหลิวฉิงต่างสบตากัน รอยยิ้มจางหายไปหลายส่วน

กงจื่อโยวที่กลัวตายเช่นนั้น ถึงกับยอมเสียสละตัวเองเพื่อช่วยหลงเย่ เห็นทีความสัมพันธ์นี้คงไม่ใช่แค่ความชื่นชอบเท่านั้น

แต่ไม่รู้ว่าหลงเย่คิดอย่างไรในใจ เรื่องความรู้สึกนางเป็นคนละเอียดอ่อนรอบคอบมาก สำหรับความคิดของกงจื่อโยวนางเองก็น่าจะรู้ดี

เฉียงเวยแอบวิเคราะห์สีหน้าของพวกนางทั้งสองคน นางจงใจพูดความลับเหล่านี้ออกมาเพราะยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่

นางเข้าใจดี แม้สำนักทิงเสวี่ยจะมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับสนมลี่ผิน แต่เรื่องลอบสังหารหลิวฉิงก่อนหน้านี้ไม่ว่าอย่างไรก็ลบล้างไปไม่ได้

แม้จะมีเหตุผลต่างๆนานา ทำให้สำนักทิงเสวี่ยกลายเป็นพันธมิตรกับจวนจิ้งอ๋อง แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกอวิ๋นหลิงก็ยังคงมีระยะห่างต่อเจ้าสำนักน้อยอยู่ดี จุดนี้เห็นได้ชัดเจนมาก ท่าทีของจิ้งอ๋องกับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนยังไม่ถึงขั้นกระตือรือร้น

ที่นางพูดสิ่งเหล่านี้ออกไป แค่หวังว่าจะขจัดช่องว่างนี้ได้มากที่สุด ทำให้พวกอวิ๋นหลิงยอมรับในตัวเจ้าสำนักน้อยของพวกนางอย่างจริงใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ