พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 456

ครั้นสัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาอย่างเย็นชาของคนข้างๆ ในใจเซียวปี้เฉิงก็สะดุ้งเฮือก รีบแย้งอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “กุเรื่องขึ้นมาล้วนๆ! ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องพรรค์นี้มาก่อนเลย!”

สิ้นคำ เขาเดินนำหน้าขึ้นไปยังห้องของชั้นสอง ในใจก็ก่นด่าลูกหลานตระกูลสูงศักดิ์ที่เหิมเกริมพูดจาส่งเดชอย่างสาดเสียเทเสีย

กล้าพูดเรื่องบ้าบอไร้สาระเยี่ยงนี้ จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาของเขา ฉะนั้นต้องสั่งสอนเด็กคนนั้นให้ลิ้มรสความทุกข์ทรมานสักหน่อย!

ที่ห้องชั้นสอง

แสงยามอรุโณทัยที่สลัวรางสาดส่องเข้ามาจากหน้าต่างฉลุลายบุปผา หนังสือจำนวนนับไม่ถ้วนถูกจัดวางอย่างแน่นหนาบนชั้นหนังสือที่จัดอย่างประณีต แต่โต๊ะกับเก้าอี้ที่วางอยู่บนพื้นที่เปิดโล่งตอนนี้กลับล้มระเนระนาด

ชายหนุ่มวัยประมาณยี่สิบถูกชายรุ่นราวคราวเดียวกันสี่ห้าคนห้อมล้อม เขาสีหน้าตึงเครียด ถลึงตาใส่ชายตรงหน้าด้วยสายตาสุดแสนกดดัน

ทุกคนในห้องต่างยืนขึ้น มีเพียงชายที่สวมชุดแพรหรูหราคนเดียวที่กำลังเอนกายอยู่บนเก้าอี้โดยวางเท้าข้างหนึ่งพาดไว้บนโต๊ะอย่างสบายเหลือแสน

“ยังไม่ยอมแพ้อีกหรือ”

ในมือชายสวมชุดแพรถือหนังสือเล่มหนาเตอะ มีตัวอักษรสี่ตัวเขียนว่า ‘คัมภีร์สิ่งประดิษฐ์ธรรมชาติสร้าง’ เขียนอยู่บนหน้าปก เขาพลิกดูด้วยความสนใจ

“จุ๊ๆๆ หนังสือเล่มนี้มีเล่มเดียวกระมัง ถ้าคนในห้องสมุดรู้ว่าเจ้าทำหนังสือเล่มนี้เปียก เจ้าว่าพวกเขาจะลงโทษเจ้าอย่างไร”

ตอนจัดแยกหนังสือก่อนหน้านี้ อวิ๋นหลิงตั้งกฎพิเศษว่าจะไม่ให้เช่าหนังสือที่มีอยู่เพียงเล่มเดียว และจะมีเครื่องหมายสีแดงบนหน้าปกทำสัญลักษณ์กำกับไว้

บนกระดานประกาศในลานเขียนกฎแต่ละข้อไว้อย่างชัดเจน หากทำหนังสือที่มีอยู่เพียงเล่มเดียวหายไปหรือทำลายไป ไม่เพียงจะต้องจ่ายเงินจำนวนมหาศาลแล้ว ยังต้องเจอโทษจำคุกอีกด้วย

หลังจากชายสวมชุดแพรพูดจบ ผู้ติดตามที่อยู่ข้างๆ ก็ยกชาถ้วยหนึ่งขึ้นอย่างรู้ความทันที ในห้องสมุดมีห้องน้ำชาอยู่ตรงมุมของแต่ละชั้น

ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเฟิงอู๋จีก็แปรเปลี่ยนไปในที่สุด ก่อนเอ่ยเสียงเข้ม “ในเมื่อรู้ว่าเป็นหนังสือที่มีอยู่เพียงเล่มเดียว เจ้าก็อย่าทำอะไรเหลวไหลสิ!”

ไม่ใช่ว่าเขากลัวอีกฝ่าย แต่นี่เป็นหนังสือหายาก ฉะนั้นเขาจึงมาในวันนี้

หากหนังสือเปียกน้ำ รอยหมึกซึมเลอะเทอะขึ้นมาละก็ หนังสือเล่มนี้จะเสียหาย

ถ้วยชาที่เอียงครึ่งหนึ่งในมือชายสวมชุดแพรนั้นถืออยู่เหนือหนังสือ ก่อนเลิกคิ้วพูดว่า “ขอเพียงเจ้ายอมคุกเข่าลง ข้าจะอนุโลมปล่อยเจ้าไปสักครั้ง นี่...อย่ามองข้าด้วยสายตาเช่นนั้น ใครใช้ให้เจ้าดวงกุดเอง เมืองหลวงออกใหญ่โตปานนี้ กลับบังเอิญมาพบข้าที่นี่เสียได้”

เขาเอ่ยยิ้มๆ เอียงถ้วยชามากขึ้นเรื่อยๆ

เฟิงอู๋จีขมวดคิ้ว ขณะกัดฟันกำลังจะคุกเข่าลง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงแหลมคมดังกังวานแหวกอากาศ

หลังจากเสียงดัง ‘ฟิ้ว’ แหวนหยกวงหนึ่งก็ลอยออกมาจากอากาศ พุ่งใส่ข้อมือชายที่สวมชุดแพรด้วยความแม่นยำอย่างแรง

ข้อมือของเขาถูกปัดออก ถ้วยชาหล่นลงพื้นแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เสียงร้องโอดโอยเจ็บปวดมาพร้อมกับเสียงแตกร้าวของชิ้นส่วนถ้วยกระเบื้อง

“ใคร! ไอ้สารเลวตัวไหนกล้า...”

ชายสวมชุดแพรหันไปมอง เสียงโกรธเกรี้ยวก็หยุดลงฉับพลันเมื่อเห็นเซียวปี้เฉิง สีหน้าฉายแววประหลาดใจเหลือแสน

หลี่หยวนเส้าอธิบายต้นสายปลายเหตุจบลงอย่างรวดเร็ว เขาพูดจาฉะฉาน ความคิดกระจ่างชัด ดูๆ แล้วเหมือนเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อมโยงกับท่าทางที่ยโสโอหังของลูกผู้ดีมีตระกูลเมื่อครู่นี้

เซียวปี้เฉิงมองเขาแล้วกล่าวอย่างเยียบเย็น “เจ้ามีหลักฐานพิสูจน์หรือไม่ว่าที่เจ้าเพิ่งพูดนั้นเป็นเรื่องจริง ข้าไม่รู้ว่าเฟิงอู๋จีได้ทำเรื่องพวกนั้นหรือเปล่า ข้าต้องเห็นกับตาตัวเองเท่านั้น ถ้าเมื่อครู่ลงมือไม่ทันเวลา หนังสือต้นฉบับเล่มนั้นก็จะถูกทำลายอยู่ในมือเจ้าทันที!”

ต้นฉบับเล่มเดียวในห้องสมุดเป็นหนังสือที่อวิ๋นหลิงต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างมากกว่าจะได้มา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือ ‘คัมภีร์สิ่งประดิษฐ์ธรรมชาติสร้าง’ เล่มนี้ เดิมเป็นของสะสมเก็บรวบรวมไว้ในตำหนักอ่านตำรา ของพระราชวัง ทั้งยังเป็นผลการศึกษาวิจัยในยามปกติของจักรพรรดิจาวเหรินด้วย

พวกเขาพูดคุยกันจนตะล่อมให้จักรพรรดิจาวเหรินทรงเห็นด้วย แล้วนำไปเก็บไว้ในห้องสมุดเพื่อให้ทุกคนในใต้หล้าได้ยลโฉมไปด้วย

หากหนังสือเล่มนี้เกิดปัญหาขึ้น แล้วอวิ๋นหลิงจะเอาหน้าที่ไหนไปชี้แจ้งกับจักรพรรดิจาวเหริน

พอคิดถึงตรงนี้ เซียวปี้เฉิงก็โกรธขึ้นมาทันที จนอยากจะลงโทษหลี่หยวนเส้าด้วยพลองทหารสักหนึ่งร้อยทีตรงนี้เลย

ทันทีที่เขาพูดคำนี้ออกมา พวกหลี่หยวนเส้าต่างก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะแลกเปลี่ยนสายตาแปลกๆ กันอย่างไร้ร่องรอย

เวลานี้ประชาชนทั่วหล้ารู้แล้วว่าฮองเฮาเฟิงก่อความปั่นป่วนในพระราชวัง ถึงขั้นสังหารมารดาบังเกิดเกล้าของจิ้งอ๋องเมื่อหลายปีก่อน

เดิมคิดจะอาศัยความเคียดแค้นชิงชังกับความบาดหมางหลายต่อหลายครั้งที่ผ่านมา จิ้งอ๋องจะไม่เห็นแก่หน้าคนตระกูลเฟิง พอฟังคำอธิบายของเขาจบก็จะทำเป็นไขสือหลับตาข้างหนึ่งไปเสีย แต่ที่ไหนได้กลับมาเล่นงานตระกูลหลี่เสียนี่

ควรรู้ไว้ว่าจิ้งอ๋องได้รับการเลี้ยงดูจากหลี่กุ้ยเฟยจนเติบใหญ่มากับมือ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ