เช้าวันรุ่งขึ้น อวิ๋นหลิงตื่นนอนตั้งแต่เช้า
แม้จะอยากรู้มากว่า”ราชครูน้ำแข็ง”ที่เสวียนจีพูดถึงคนนี้จะมีหน้าตาอย่างไร แต่ก็ไม่ได้รีบร้อนเข้าวังเพื่อร่วมงานเลี้ยง
พรุ่งนี้ก็เป็นพิธีแต่งตั้งรัชทายาทแล้ว ในมือยังมีงานที่สำคัญกว่า รอเข้าวังแล้วค่อยพบอีกฝ่ายก็ยังไม่สาย
แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ อีกฝ่ายกลับเดินทางมาโดยไม่ได้รับเชิญ มาเยี่ยมเยือนถึงที่
เมื่อได้ยินว่าสองสามีภรรยาเยี่ยนอ๋องและราชครูเฟิ่งเหมียนแห่งแคว้นตงฉู่มาเยี่ยม อวิ๋นหลิงก็รีบให้เฉียวเย่ไปเชิญพวกเขาเข้ามาทันที
ไม่ช้า ร่างของสองสามีภรรยาเยี่ยนอ๋องก็ปรากฏตัวขึ้นที่เรือนหลันชิง ข้างกายคือชายหนุ่มที่สวมชุดสีม่วงใบหน้าเย็นชาโดดเด่นคนหนึ่ง
เมื่อเห็นอีกฝ่ายแวบแรก อวิ๋นหลิงรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้หน้าตาก็ดี แต่เย็นชามาก
กงจื่อโยวปกติก็ชอบสวมใส่เสื้อผ้าสีม่วง แต่เขาเกียจคร้านมีเสน่ห์ แฝงไปด้วยกลิ่นอายแห่งความยั่วยวน นิสัยก็สบายๆไม่เข้มงวด ใต้แสงสีม่วงอ่อนโยนที่เสริมบุคลิก ยิ่งทำให้เหมือนปีศาจจิ้งจอกที่ใกล้ชิดผู้คน
ชายหนุ่มตรงหน้าที่สวมชุดยาวสีม่วงคล้ายกับชุดนักพรตอยู่บ้าง ด้านหลังมีแส้ขนสีขาวดุจหิมะเหน็บเอาไว้หนึ่งด้าม ทำให้เกิดความรู้สึกที่แตกต่างจากกงจื่อโยวอย่างสิ้นเชิง
เขาดูเหมือนเทพเซียนที่มาพร้อมกับพลังงานสีม่วง ลักษณะโดดเด่นไม่อาจดูหมิ่นได้ ทำให้คนที่พบเห็นรู้สึกหวาดกลัว
เห็นทีท่านนี้คงจะเป็นราชครูเฟิ่งเหมียนแห่งแคว้นตงฉู่
คิดไม่ถึงว่าเวลานี้แล้วยังมีคนมาเยี่ยมเยียนอย่างกะทันหัน อวิ๋นหลิงรีบสั่งการให้ตงชิงไปเตรียมของว่างและน้ำชาในห้องครัวมา
“ช่างน่าเสียดายจริงๆ สองวันนี้ในจวนกำลังทำการตรวจนับและขนย้ายข้าวของ ในจวนก็เลยดูยุ่งเหยิงไปหมด โปรดให้อภัยด้วย”
ตี้หวู่เหยายิ้มพลางโบกมืออย่างกระดากอาย “พี่สะใภ้สามไม่ต้องเกรงใจ เป็นพวกข้าที่ไม่รู้กาลเทศะ ทั้งๆที่รู้ว่าท่านกำลังยุ่งอยู่ ก็ยังมาเพิ่มความวุ่นวายให้ท่าน”
อวิ๋นหลิงก็ยิ้มตอบ ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้ซวงหลีไปเชิญเซียวปี้เฉิงมาจากห้องหนังสือ
“ไม่เป็นไร คิดว่าพวกเจ้าคงมาเพราะน้องเล็กแน่ๆ ท่านนี้คงเป็นท่านราชครูกระมัง”
นางเหลือบตาขึ้นมองวิเคราะห์เฟิ่งเหมียน กลับพบว่าอีกฝ่ายก็กำลังมองสำรวจนางด้วยสายตาเย็นชา
เมื่อสบเข้ากับสายตาของอวิ๋นหลิง เฟิ่งเหมียนผงะถอยไปก้าวหนึ่ง คำนับให้กับนางด้วยท่าทีที่โดดเด่น
“กระหม่อมเฟิ่งเหมียนแห่งวัดไท่ชิง ได้ยินชื่อเสียงของพระชายาจิ้งอ๋องมานาน ยินดีที่ได้พบ ในเมื่อพระชายาทรงรู้ถึงจุดประสงค์การมาของเฟิ่งเหมียนแล้ว รบกวนให้ชวีเสวียนจีออกมาพบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
เขาพูดอย่างไม่รีบร้อน น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกไม่ได้แฝงอารมณ์ใดๆ แต่กลับไม่ทำให้รู้สึกว่าไร้มารยาท
วัดไท่ชิง
ถึงว่าทำไมจึงแต่งตัวเหมือนนักพรต
ขณะเดียวกันเซียวปี้เฉิงที่ได้ยินข่าวก็มาถึง ก้าวเข้ามาในห้องพลางตอบว่า “ช่างน่าเสียดายจริงๆ ศิษย์น้องเล็กออกจากจวนไปซื้อของว่างแล้ว ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในจวน”
รุ่งเช้าวันนี้ กงจื่อโยวเกิดอาการอยากกินขึ้นมา อยากจะออกไปเดินเที่ยวในตลาด
เสวียนจีเป็นคนตะกละ ย่อมต้องรบเร้าจะตามไปด้วย
อวิ๋นหลิงไม่มีวิธีรับมือกับนาง และเห็นว่าช่วงครึ่งเดือนมานี้นางเชื่อฟังดีมาก จึงยอมให้กงจื่อโยวพานางออกไปด้วย
แต่ที่นางไม่รู้ก็คือ การกินของว่างเป็นแค่ข้ออ้าง เสวียนจีจะไปตรวจรับปืนใหญ่ดอกไม้ไฟขนาดเล็กแล้ว
หลายวันมานี้เสวียนจีแอบสังเกตความคืบหน้า คุณภาพดีกว่าที่คิดเอาไว้จริงๆด้วย เพียงแต่กระบอกดอกไม้ไฟเป็นสีดำน่าเกลียดไปหน่อย ไม่เหมาะกับสาวน้อยเวทมนตร์ที่ชอบความสวยงามอย่างนาง
บวกกับใช้เป็นของขวัญที่ส่งเข้าไปในวังในพิธีแต่งตั้งรัชทายาท ดังนั้นจึงลงมือทาสีใหม่ด้วยตนเอง
“ท่านราชครูรู้เรื่องการทำนายดวงด้วยหรือ”
อวิ๋นหลิงนึกขึ้นมาได้ทันที ที่น้องเล็กต้องแต่งงานกับรัชทายาทของแคว้นตงฉู่เหมือนจะเป็นการจัดการของเขา
“ใช่แล้ว ตอนนั้นเหมือนจะเป็นท่านที่เสนอให้น้องเล็กแต่งงานกับองค์รัชทายาทของแคว้นตงฉู่เพื่อเสริมสิริมงคลใช่หรือไม่”
เฟิ่งเหมียนส่ายหน้าเบาๆ “รู้แค่ผิวเผินเท่านั้น กระหม่อมความรู้น้อย การทำนายดวงไม่ใช่ความถนัดของข้า ไม่คู่ควรจะเอ่ยถึง ให้ชวีเสวียนจีแต่งงานกับรัชทายาท ก็ได้รับคำแนะนำมาจากหวู๋ซินไต้ซือ”
หวู๋ซินไต้ซือ
เป็นนักบวชคนนี้อีกแล้ว อวิ๋นหลิงไม่ได้ยินคนรอบข้างเอ่ยถึงชื่อของอีกฝ่ายมานานมากแล้ว แต่เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ความลับมากมาย และยังทำนายถึงการมาถึงของพวกนางด้วย
นางเคยคาดเดาความเป็นไปได้หลายอย่าง กระทั่งสงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ปลอมตัวเป็นมนุษย์ นำตัวพวกนางมาที่นี่เพื่อทำการทดลอง
อวิ๋นหลิงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า “รู้หรือไม่ว่าไต้ซือท่านนี้ตอนนี้อยู่ที่ใด”
“กระหม่อมได้พบกับหวู๋ซินไต้ซือเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว พระชายาจิ้งอ๋องไม่ต้องรีบร้อน ไต้ซือเคยบอกไว้แล้วว่าอีกไม่นาน พวกท่านก็จะได้พบกับเขา”
อวิ๋นหลิงได้ยินแล้วก็อยากจะตีคน หางตาของนางกระตุก “ประโยคนี้พูดก็เหมือนไม่ได้พูด พวกท่านเอาแต่พูดให้เป็นปริศนาได้หรือไม่ อีกไม่นานนี่มันนานแค่ไหน หนึ่งเดือน สองเดือน หรือว่าสามเดือน”
เฟิ่งเหมียนนิ่งเงียบ ไม่ยอมรับหรือปฏิเสธ
เมื่อได้สติกลับมา จู่ๆอวิ๋นหลิงก็รู้สึกใจเต้นขึ้นมา
นานมาแล้ว นางจำได้ว่าเซียวปี้เฉิงเคยเอ่ยถึง นักบวชคนนั้นเคยบอกว่าอย่าพยายามตามหาเขา รอให้ถึงวันที่ดาวทั้งสี่มารวมตัวกันอีกครั้ง เขาย่อมปรากฏตัวขึ้นมาเอง
เมื่อนำมาวิเคราะห์รวมกับคำพูดของเฟิ่งเหมียน นั่นไม่เท่ากับหมายความว่าหลงเย่จะสามารถพบกับนางอีกครั้งในไม่ช้าใช่หรือไม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...