พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 638

การแต่งกายของอีกฝ่าย เหมือนกับที่พี่ฉิงเขียนมาไม่มีผิด

อีกอย่างความรู้สึกของนางในตอนนั้นก็เหมือนกับพี่ฉิง หรือว่าจะพบเจอกับคนคนเดียวกัน

ขณะที่อวิ๋นหลิงกำลังใช้ความคิด กลับพบว่าเซียวปี้เฉิงออกไปนอกตำหนักตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ในมือยังถือกระดาษแผ่นหนึ่งเอาไว้

เขามีสีหน้าเคร่งเครียดน้ำเสียงเคร่งขรึม “วันนี้เฉียวเย่ออกจากวังไปเยี่ยมแม่กับลูกชาย ขากลับมาตอนค่ำถูกลอบโจมตีจากธนูระหว่างทาง บนลูกศรมีกระดาษ เนื้อหาเกี่ยวข้องกับเหมียวเจียง”

กระดาษแผ่นนี้ถูกผูกติดไว้บนลูกศรธนู เฉียวเย่นำขึ้นมาถวายทันที

อวิ๋นหลิงได้สติขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เปิดกระดาษดู คิ้วขมวดแน่นขึ้นมา

ในกระดาษเขียนไว้ว่า ในคืนวันแต่งงานของท่านอ๋องจิน คนเหมียวเจียงจะลักลอบเข้าไปในจวนอ๋องจินเพื่อวางยาพิษฆ่าคน ทำลายงานแต่ง

คนของอีกฝ่ายจะแปลงโฉมปะปนเข้าไปกับแขกในงาน หนึ่งในคนที่แฝงตัวเข้าไปเป็นผู้หญิงชื่อเฟิงอิ๋งอิ๋งเชี่ยวชาญวิชาควบคุมวิญญาณ ตอนนี้ได้วางพิษกู่ควบคุมคุณหนูคนหนึ่งไว้ได้แล้ว

บนตัวของผู้หญิงคนนี้ซ่อนงูพิษร้ายแรงเอาไว้ตัวหนึ่ง ยังมีหุ่นเชิดมนุษย์อีกคนที่รอจังหวะลงมืออยู่ในที่ลับ

หุ่นเชิดมนุษย์มีสติปัญญาไม่ครบถ้วน เชื่อฟังแต่คำสั่งของเฟิงอิ๋งอิ๋ง นอกจากนี้ยังมีวรยุทธ์สูงส่ง คนปกติยากจะต่อกรกับเขาได้ ต้องระวังตัวให้มาก

บรรทัดสุดท้ายในจดหมาย ยังเอ่ยถึงเรื่องสำนักศึกษาชิงอี้มีไส้ศึกเป็นชาวเหมียวซ่อนตัวอยู่

“จดหมายนี้ใครเป็นคนส่งมา”

เซียวปี้เฉิงส่ายหน้า ขมวดคิ้วขึ้นมาเช่นกัน “ไม่รู้อีกฝ่ายเป็นใครมาจากไหน ทิ้งแค่จดหมายเอาไว้”

ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นแผนการที่เฟิงอิ๋งอิ๋งวางเอาไว้ แต่ข้างในมีข่าวมากมายเช่นนี้ ล้วนสอดคล้องกับข่าวที่พวกเขาได้รับจากทางกงจื่อโยวทั้งสิ้น

ถ้าหากเป็นแผนที่อีกฝ่ายวางไว้และลงมือเอง เช่นนั้นก็เปิดเผยแผนการของตัวเองมากเกินไปแล้ว แม้แต่เรื่องที่สำนักศึกษาชิงอี้มีไส้ศึกก็พูดออกมา

อวิ๋นหลิงไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเรื่องสำนักศึกษาชิงอี้ ครั้งแรกที่นางเห็นหน้าคนกวาดพื้นที่ชื่อไป๋ซานก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลแล้ว ให้คนคอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ตลอด

เพียงแต่ไม่ว่านางจะคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก “ใครคอยส่งข่าวอย่างลับๆ หรือว่าจะเกิดความวุ่นวายภายในระหว่างชาวเหมียวด้วยกันเอง จนทำให้เกิดหนอนบ่อนไส้”

เนื้อหาในจดหมายเขียนอย่างละเอียดมาก เขียนสถานะปลอมของเฟิงอิ๋งอิ๋งและชาวเหมียวคนอื่นๆ รวมไปถึงจำนวนคนและสถานที่ของคนให้การสนับสนุน ระบุทุกอย่างละเอียดชัดเจน

เปิดเผยแผนการอย่างละเอียดเช่นนี้ ดูยังไงก็เหมือนเป็นฝีมือชาวเหมียวเจียงเอง

เซียวปี้เฉิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ คิ้วที่ขมวดค่อยๆคลายออก “ช่างเถอะ ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ หลังจากนี้สามวันก็จะเผยให้เห็นเอง”

ไม่ว่าอย่างไร เนื้อหาในจดหมายละเอียดมาก พวกเขาเตรียมการรับมือตามที่ผู้บุคคลนิรนามเขียนมาก็ไม่เสียหาย

ถ้าหากเป็นจริง เช่นนั้นขั้นต่อไปคงมีความเป็นไปได้สูง ที่จะสามารถจับกุมพวกเขาได้ทั้งหมด

……

ร้านหนังสือแห่งหนึ่งที่อยู่ทางใต้ของเมือง จุดไฟสว่างไสว

อู๋อิ่งเอ่ยเสียงต่ำว่า “นายท่าน ข้าน้อยได้ทำตามสิ่งที่ท่านสั่งเรียบร้อยแล้ว”

“กำลังพลของชาวเหมียวที่อยู่ในเมืองหลวงสืบได้ชัดเจนหรือยัง มีขาดตกบกพร่องหรือไม่”

“นายท่านโปรดวางใจ พวกเราได้สืบเบื้องหลังของเฟิงอิ๋งอิ๋งมามากพอสมควรแล้ว สามารถลงมือได้ทุกเมื่อ”

เสียนอ๋องพยักหน้าเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามแฝงความเย็นชาอยู่หลายส่วน

“หลังจากนี้สามวันเป็นพิธีแต่งงานของท่านอ๋องจิน เจ้าสามต้องมีการเคลื่อนไหวแน่ เจ้าเตรียมการให้พร้อม จำเป็นต้องตัดขาดเส้นทางถอยหนีของพวกเขาให้ได้”

“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”

หลังจากที่อู๋อิ่งถอยออกไป นิ้วเรียวยาวของเสียนอ๋อิงก็นวดที่ขมับเบาๆ สีหน้ามีแววเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน หลังจากที่เขาตอบตกลงจะร่วมมือกับเฟิงอิ๋งอิ๋ง เรื่องที่อีกฝ่ายร้องขอเป็นสิ่งแรกที่ทำลายงานแต่งงานระหว่างท่านอ๋องจินและองค์หญิงแห่งแคว้นถังใต้

เหตุผลของเฟิงอิ๋งอิ๋งนั้นฟังดูมีเหตุผลมาก ทำลายงานแต่งงานของทั้งสองคน ก็เท่ากับทำลายความสัมพันธ์ระหว่างซีโจวกับแคว้นถังใต้

แต่เสียนอ๋องกลับรู้สึกว่านางร้อนใจมาก เพื่อที่จะให้บรรลุเป้าหมาย นางยอมเล่าเบื้องหลังทั้งหมดให้ฟังอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกันเขาก็กระทำการแผนซ้อนแผน เข้าร่วมแผนการร้ายนี้อย่างสิ้นเชิง คนของเฟิงอิ๋งอิ๋งถูกเขาช่วยส่งไปแทรกซึมตามจวนของแขกเหรื่อต่างๆ จึงรู้สถานการณ์เหล่านี้ดี

เขาตอบตกลงเฟิงอิ๋งอิ๋ง คืนวันแต่งงานจะคอยช่วยชาวเหมียวในการหลบหนี ถ้าหากทางด้านสองสามีภรรยาเจ้าสามราบรื่นละก็ จะสามารถโจมตีได้จากทั้งสองด้าน ล้อมโจมตีทั้งหน้าหลัง กวาดล้างให้หมดสิ้นไป

“โธ่เอ๊ยวางใจเถอะ ข้ารู้อะไรควรไม่ควร พี่สามบอกแล้ว คืนนี้จะมีหญิงเลวมาก่อเรื่อง ข้าไปเพื่อปกป้องนางกับเศรษฐี ถ้าหากอีกฝ่ายกล้าก่อกวน ก็ให้นางรู้ซะบ้างว่าอัจฉริยะอย่างข้าร้ายกาจแค่ไหน”

ว่าแล้ว เสวียนจีก็ขึ้นไปนั่งบนรถสามล้อสุดที่รัก ตบเบาะด้านหลังอย่างใจกว้าง

“นั่งซินกโง่ ครั้งนี้เป็นรถสามล้อ มั่นคงมากไม่มีทางคว่ำแน่ ข้าจะพาท่านไปเล่นที่จวนอ๋องจิน ให้ท่านได้สัมผัสดูว่าอะไรคือพลังของเทคโนโลยี”

เฟิ่งเหมียนทอดถอนใจ ได้แต่ขึ้นไปนั่งสามล้ออย่างยอมรับชะตากรรม

ถ้าไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้เคยเห็นเสวียนจีทดสอบแล้วว่ารถมั่นคงจริงๆ เขาคงไม่มีทางนั่งเด็ดขาด

ไม่ช้า เสวียนจีก็ฮัมเพลงขี่รถออกไปจากพระราชวัง ทิ้งทิวทัศน์รอบข้างเอาไว้เบื้องหลัง

และตอนนี้ที่หน้าจวนอ๋องจิน มีหนุ่มน้อยที่สวมชุดนักบวชสีเทาคนหนึ่งยื่นอยู่

หลิงซูกำลังสั่งให้คนเอาโคมไฟสีแดงขึ้นไปแขวน เห็นอีกฝ่ายยืนอยู่หน้าประตูนานแล้ว อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปถาม

“ไต้ซือ ท่านมาบิณฑบาตรหรือ วันนี้จวนอ๋องของพวกเรามีการจัดงานเลี้ยงริมถนนทั่วเมืองหลวง ท่านเดินไปข้างหน้าอีกสามร้อยเมตรก็ถึงแล้ว”

บริเวณหว่างคิ้วของนักบวชผมยาวมีสีแดงแต้มไว้หนึ่งจุด ยิ้มอย่างอบอุ่นให้เขา

“ขอบคุณประสกมาก ข้าน้อยเองก็มีของขวัญอวยพรหนึ่งชิ้น รบกวนช่วยนำไปมอบให้ถึงมือขององค์หญิงหลงเย่ด้วย”

ว่าแล้ว ก็เอามือล้วงเข้าไปในห่อผ้าที่อยู่ทางด้านหลังเอากล่องไม้ธรรมดาใบหนึ่งออกมา ยื่นให้กับหลิงซู

หลิงซูนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง รีบรับกล่องและกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ขอบคุณไต้ซือมาก”

แม้จะประหลาดใจอยู่บ้างที่อีกฝ่ายมอบของขวัญให้ และยังเป็นการมอบให้หลงเย่ แต่ในวันมหามงคลนี้ทุกคนต่างก็มอบของขวัญด้วยความหวังดี แม้จะเป็นเพียงก้อนหินเขาก็จะรับเอาไว้

หลังจากรับกล่องมา หลิงซูพบว่ากล่องนั้นมีน้ำหนักอยู่บ้าง มองดูไม่ใหญ่แต่ก็หนักทีเดียว

เขากลับเข้าไปในจวนเตรียมจะวางของสิ่งนั้นไว้ก่อน ระหว่างทางจึงเปิดดูอย่างอยากรู้

เห็นว่าข้างในนั้นเป็นก้อนหินสีแดงที่เปล่งประกายสวยงาม เป็นก้อนหินที่ดูแพรวพราวตระการตามาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ