ฟงอิ๋งอิ๋งถูกหลงเย่สอบปากคำ เทียบเท่ากับถูกพลังจิตโจมตี นางก็หมดสติไปอย่างรวดเร็ว
พวกอวิ๋นหลิงทิ้งนางไว้ แล้วออกจากคุกไปก่อน
หลังจากได้ข้อมูลที่ต้องการซักถามจากฟงอิ๋งอิ๋งเรียบร้อย ศาลต้าหลี่ก็จะประหารชีวิตนางอย่างลับๆ
ข้ารับใช้รับคำสั่ง นำสมุดบันทึกมนุษย์พิษที่ฟงอิ๋งอิ๋งเขียนรวบรวมไว้กลับมาอย่างรวดเร็ว
อวิ๋นหลิงเปิดออกดูก็ตกตะลึงจนตาค้างทันที
“นี่มันของบ้าบออะไรกัน”
นางเห็นคำที่ไม่คุ้นเคยอัดแน่นยุบยับเขียนบิดเบี้ยวราวกับยันต์กันผีอยู่บนนั้น นางไม่รู้จักแม้แต่คำเดียว
เป็นภาษาเหมียวหรือเปล่า
กงจื่อโยวกวาดตามองแวบหนึ่ง แล้วขมวดคิ้วมุ่น “ข้อความที่เขียนนั้นดูเหมือนจะเป็นอักษรเหมียวโบราณ เห็นทีเหมียวเจียงในยามนี้มีแค่ไม่กี่คนที่อ่านออก ว่ากันว่าราชวงศ์ตระกูลฟงจะใช้ภาษาประเภทนี้ส่งสัญญาณข่าวคราวสำคัญให้แก่กัน”
อวิ๋นหลิงอดรู้สึกลำบากใจและกลัดกลุ้มไม่ได้
ไม่ได้พูดเกินจริงว่าชาติก่อนนางก็เคยถูกบังคับให้เรียนถึงแปดภาษา แต่ไม่เข้าใจภาษาเหมียวเลยจริงๆ นับประสาอะไรกับอักษรเหมียวโบราณ
นางพลิกดูสมุดบันทึกมนุษย์พิษราวกับกำลังอ่านตำราอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก
เกิดภาพลวงตาว่ากำลังถอดรหัสข้อความที่เป็นความลับบนแผ่นหินของอียิปต์
เวลานี้เอง หัวหน้าศาลต้าหลี่เข้ามาอีกครั้ง “รัชทายาท ไส้ศึกชาวเหมียวในสำนักศึกษาถูกจับกุมมาไต่สวนแล้ว!”
อวิ๋นหลิงเงยหน้าขึ้นเอ่ยว่า “เอาคนไปที่โถงใหญ่ก่อนแล้วกัน”
นางสงสัยว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงแอบเข้าไปในสำนักศึกษาชิงอี้เพียงลำพัง นอกจากเขาแล้วก็ไม่มีผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยเลยสักคน
ตามรายงานสังเกตการณ์ขององครักษ์เงา ช่วงหนึ่งเดือนที่เขาอยู่ในสำนักศึกษาชิงอี้ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำเขาทำเพียงสี่อย่าง
นั่นคือกินข้าว นอนหลับ กวาดพื้น และอ่านหนังสือนิยาย
ฟงอิ๋งอิ๋งนำลูกน้องไปร่วมกลุ่มเสร็จสิ้น เขายังควบตำแหน่งเป็นอันธพาลอยู่ข้างนอกเสียด้วย
ดูเหมือนอีกฝ่ายจะถูกแยกออกจากเพื่อนร่วมกลุ่มชาวเหมียวคนอื่นๆ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผลึกแก้วของเขาถูกขโมยไป
ตอนที่ไป๋ชวนถูกจับก็มึนงงไปหมด
ตอนนั้นเป็นเวลาสิบเอ็ดโมงเช้า เสียงกริ่งอาหารกลางวันดังขึ้นในสำนักศึกษาชิงอี้ ทันทีที่โรงอาหารเปิดประตู เขาก็รีบวิ่งเข้าไปหยิบชามข้าว
เมนูอาหารวันนี้มีหัวสิงโตน้ำแดง ไก่ผัดพริกถั่วลิสง หมูผัดพริก มะเขือเทศผัดไข่ หมูสามชั้นผักกาดดอง...
ดีมาก เขาชอบทุกอย่างเลย!
ควรจะบอกว่าไม่มีอาหารในสำนักศึกษาชิงอี้ที่เขาไม่ชอบต่างหาก หลังจากกินไปหนึ่งเดือน ไป๋ชวนก็ทนแมงป่องทอดกับกบย่างไม่ไหวอีกแล้ว
เขายกอาหารมาตั้งเป็นภูเขาลูกหย่อมๆ เลือกที่นั่งริมหน้าต่าง เตรียมเริ่มต้นวันที่สวยงามและมีความสุข
ยังไม่ทันจะตักช้อนข้าวเข้าปาก จู่ๆ เขาก็ถูกองครักษ์เงาที่บุกเข้ามากดลงกับพื้น จับกุมเขาไว้ตรงนั้นเลย
“ไม่ใช่ พี่ใหญ่พวกท่านทำอะไรกัน ข้ายังไม่ได้กินข้าวเลย!”
เย่ซานพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ไว้เข้าศาลต้าหลี่ จะมีข้าวในคุกให้เจ้ากินเหลือเฟือ”
สิ้นคำ ไป๋ชวนก็ถูกใส่กุญแจทั้งสองขาสองเท้า แล้วถูกหิ้วปีกออกไป
ระหว่างทาง หลังจากซักถามเขาไปสักพัก ในที่สุดก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงเมื่อคืนนี้ เขาดูตกใจมาก
“ฟงอิ๋งอิ๋งถูกจับได้ว่าก่อเรื่องใช่หรือไม่”
เย่ซานแค่นหัวเราะเย็นชา “ไม่ใช่แค่หญิงสติฟั่นเฟือนคนนั้น ไส้ศึกของพวกเจ้าชาวเหมียวที่กบดานอยู่ในเมืองหลวงล้วนถูกจับได้ทั้งหมดแล้ว เจ้ารีบไปรวมกลุ่มกับพวกเขาเดี๋ยวนี้”
ไป๋ชวนฟังแล้วสีหน้าฉายแววโศกเศร้า
หมดกัน ชาตินี้เขาคงอดกินอาหารของสำนักศึกษาชิงอี้แล้ว...
ถ้ารู้แต่แรก เขาคงไม่ตามฟงอิ๋งอิ๋งร่วมเดินทางมาแคว้นต้าโจวด้วยกัน!
หญิงผู้นี้ไปก่อเรื่องลับหลังเขาก็ช่างเถอะ แต่ยังไม่วายหลอกเขาให้พลอยเข้าปิ้งไปด้วย เขาไปทำชั่วอะไรไว้กันแน่
อวิ๋นหลิงก็เข้าใจในบัดดล ให้ความรู้สึกเหมือนพวกชายหนุ่มผู้มากรักหลายใจ เป็นเสียนอ๋องฉบับหนานเจียง
ไป๋ชวนเห็นว่านางลดความเป็นศัตรูลงแล้ว ก็พูดด้วยตาปริบๆ ทันทีว่า “ข้ากับฟงอิ๋งอิ๋งไม่ใช่พวกตะเภาเดียวกัน ปล่อยข้าไปก่อนได้หรือไม่”
ตระกูลฟงเป็นราชวงศ์ในเหมียวเจียง แต่บัดนี้ตระกูลไป๋หมายจะยึดอำนาจ แต่กลัวจะถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ลับหลังว่าไม่สูงส่งสง่างามเพียงพอ จึงร่วมมือกับตระกูลฟงด้วยการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ หวังจะใช้ตำแหน่งสตรีศักดิ์สิทธิ์มารวบรวมอำนาจ
เขารู้จักกับฟงอิ๋งอิ๋งมานานแล้ว แต่ต่างฝ่ายต่างสนใจเรื่องผลประโยชน์มากกว่าจะมีมิตรภาพที่ลึกซึ้งต่อกัน
อวิ๋นหลิงหรี่ตาลงเอ่ยถามว่า “สารภาพความจริงมาเถอะ เจ้าเป็นคนยุยงใต้เท้างูเหลือมให้เข้าไปในสำนักศึกษาเมื่อครั้งที่แล้วใช่หรือไม่”
ไป๋ชวนดูสับสน “ใต้เท้า ใต้เท้าอะไรกัน”
“ก็งูใต้เท้าเฒ่าตัวนั้นไง!”
“…”
ไป๋ชวนสำลักไปชั่วขณะ ก่อนจะตอบอย่างตะกุกตะกัก
“ข้าไม่ได้อยากทำให้พวกท่านตกใจกลัวหรอก...ถ้าไม่ทำอะไรเลย ฟงอิ๋งอิ๋งคงจะสงสัยข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายสำนักศึกษาจริงๆ งูตัวนั้นแสนรู้และไม่ทำร้ายคน...หลุมงูในภูเขาก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า!”
ฟงอิ๋งอิ๋งพาคนไปขุดหลุมนั้นเอง เขาไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามปราม
เขาคิดว่าเมื่อสำนักศึกษาชิงอี้เปิดเรียนในวันนั้น จะให้งูหลามยักษ์เข้าไปก่อน ผู้คนที่อยู่ข้างในจะตื่นตัวระแวดระวัง ถึงแม้ฟงอิ๋งอิ๋งคิดจะก่อเรื่องก็คงทำได้ยาก
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าหลุมงูจะถูกฟ้าผ่า
อวิ๋นหลิงไม่พูดอะไร มองสำรวจไป๋ชวนอย่างจริงจังสักพัก มองจนฝ่ายหลังขนหัวลุกซู่
“เจ้ารู้ภาษาเหมียวโบราณหรือไม่”
ไป๋ชวนอึ้งไป ก่อนพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว
ดวงตาของอวิ๋นหลิงพลันทอประกายวาวโรจน์ แล้วตบสมุดบันทึกมนุษย์พิษที่วางอยู่บนโต๊ะไม้
“ถ้าอยากมีชีวิตรอด แปลหนังสือเล่มนี้ให้ข้าภายในเจ็ดวัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...