ดอกซ่อนกลิ่นที่ปลูกอยู่หน้าตำหนักเว่นยางถูกถอนออกจนเกลี้ยง
หลุมดินที่ขุดขึ้นมาใหม่ใช้ปลูกต้นกล้าของซานเหม่ยและเสาเย่า พระสนมหลี่เป็นผู้ลงมือปลูกเองทั้งหมด
ตอนที่เยี่ยนอ๋องพาตี้หวู่เหยามาเยี่ยมไข้ เห็นว่าพระสนมหลี่ถือจอบที่ถูกทำขึ้นอย่างประณีต นั่งยองอยู่บนพื้นกำลังขุดดิน
ปลายฤดูใบไม้ผลิต้นฤดูหนาว นางไม่สวมใส่แม้กระทั่งเสื้อคลุม
เยี่ยนอ๋องรีบวิ่งเข้าไปหา แย่งเอาจอบเล็กในมือของพระสนมหลี่ไปทันที
“เสด็จแม่ทำไมทรงไม่นอนพักผ่อนอยู่ในตำหนัก ข้างนอกอากาศหนาวมาก ทรงยังสวมใส่เสื้อผ้าบางเช่นนี้อีก”
ช่วงนี้เยี่ยนอ๋องเข้าวังบ่อยมาก ก่อนหน้านี้เขาให้ขันทีนำจดหมายมาส่งให้จักรพรรดิจาวเหริน คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา ทำร้ายพระสนมหลี่จนเป็นลมหมดสติไป
เขารู้สึกโมโหและโทษตัวเองมาก และโทษจักรพรรดิจาวเหรินอยู่หลายส่วน
แต่ที่สุดแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เลือกที่จะอยู่กับท่านแม่ให้มากขึ้น
พระสนมหลี่ลุกขึ้นปัดดินที่ติดอยู่บนมือ “ไม่เป็นไร ข้าออกกำลังมาครึ่งวันแล้ว ตอนนี้ยังรู้สึกร้อนอยู่เลย”
เยี่ยนอ๋องส่งจอบให้กับขันที จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมของตนเอง คลุมไปบนไหล่ของพระสนมหลี่
“อยู่ดีๆทำไมทรงจึงออกมาปลูกผักเล่า”
“เกิดอยากจะทำขึ้นมาชั่วขณะ”
“ทรงปลูกอะไรบ้าง”
“ซานเหม่ยกับเสาเย่า ตอนนี้เป็นฤดูในการปลูกซานเหม่ยพอดี รอฤดูใบไม้ผลิปีหน้าก็สามารถกินผลซานเหม่ยสดๆได้แล้ว......ปลูกให้มากหน่อย เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว จะให้ส่งไปให้ทางตำหนักบูรพาบ้าง”
เยี่ยนอ๋องมองนางด้วยความประหลาดใจแวบหนึ่ง
พระสนมหลี่กลับเอาแต่มองพื้นดินที่เปลือยเปล่า “วันก่อนตอนที่ปลูกต้นเสาเย่า ได้ขอคำแนะนำจากพี่สะใภ้สามของเจ้า นางสามารถทำให้ต้นกล้าของสมุนไพรที่แห้งตายแล้วมีชีวิตขึ้นมาได้ คิดว่าการปลูกเสาเย่านอกฤดูกาลก็คงไม่เป็นปัญหา ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าต้องบานสวยแน่นอน”
ที่ดินผืนนี้ย่อมปลูกเสาเย่าให้รอดได้แน่นอน วันนั้นตอนที่อวิ๋นหลิงถูกแม่นมเหอเยว่เชิญมา ได้ใช้พลังจิตเร่งการเจริญเติบโตของต้นกล้าเหล่านี้
ตี้หวู่เหยากะพริบตาปริบๆ ก้าวเข้าไปเอ่ยด้วยท่าทีเรียบร้อยว่า “เสด็จแม่ชอบกินซานเหม่ยหรือเพคะ”
“อืม ข้าชอบกินผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวหวาน สีแดงน่ารัก แต่ผลเล็กไปหน่อย”
ก็เหมือนต้นเสาเย่า นางชื่นชอบดอกไม้ที่มีสีสันสดใสมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ใช่ดอกซ่อนกลิ่นที่ดูขาวสะอาด
ตี้หวู่เหยาพูดยิ้มๆว่า “ตอนที่ข้าอยู่แคว้นตงฉู่ เคยกินผลไม้กระป๋องที่ชาวตะวันตกทำ ผลไม้ที่อยู่ด้านในเรียกว่าสตรอว์เบอร์รี ผลของมันใหญ่เท่ากับไข่นกกระทา สีแดงสวยเหมือนกับชาดทาแก้ม รสชาติก็ดีมาก”
“สองวันก่อนหน้านี้ เสด็จพ่อของข้าได้ส่งของมาให้ ในนั้นมีผลไม้กระป๋องอยู่ด้วย พรุ่งนี้จะนำมาให้ทรงชิมดู”
“ชาวตะวันตกได้ขายเมล็ดพันธุ์ให้พวกเรา แต่ชาวแคว้นตงฉู่ปลูกไม่เป็น ติดผลไม่ดีเลย ประเดี๋ยวข้าจะให้เสด็จพ่อส่งเมล็ดพันธุ์มา ไม่แน่ว่าพี่สะใภ้สามอาจปลูกได้ ถึงตอนนั้นทุกคนต่างก็มีลาภปากแล้ว”
พระสนมหลี่พยักหน้า ช่วงนี้นางรู้สึกเหนื่อยล้ากับเรื่องเล็กๆน้อยๆอยู่บ้าง บวกกับใช้เวลาในการปลูกดอกไม้ จึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องของเยี่ยนอ๋องสักเท่าไหร่
และตอนนี้ก็รู้สึกชอบตี้หวู่เหยาขึ้นมาไม่น้อย ความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีกับสะใภ้ก็ไม่ได้แข็งตึงขนาดนั้นแล้ว
บางที สิ่งที่อวิ๋นหลิงพูดก็มีเหตุผลอยู่หลายส่วน
ลูกหลานย่อมมีวาสนาของลูกหลาน ไม่สนใจลูกหลานนางย่อมได้เสพสุข
เยี่ยนอ๋องเอ่ยเสียงอบอุ่นว่า “ข้างนอกอากาศหนาว เสด็จแม่ยืนอยู่นานแล้ว พวกเราเข้าไปในตำหนักกันเถอะ”
ตี้หวู่เหยาได้ยินดังนั้น ก็เดินเข้าไปช่วยประคองนาง
“ในเมื่อพูดถึงผลไม้ตะวันตกอย่างสตรอว์เบอร์รี วันนี้จะเล่าเรื่องประหลาดในแดนไกลให้ท่านฟังดีกว่า ข้าได้ยินอ้ายเต๋อหัวเล่าว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีผิวขาวเหมือนกระดาษ”
“เขายังเคยเห็นคนที่มีผิวดำเหมือนถ่าน พอถึงเวลากลางคืนก็มองไม่เห็น ช่างแปลกประหลาดจริงๆ......”
……
ตอนนี้ถนนหลวงยังคงซ่อมแซมไปเรื่อยๆ แต่ก็ทำจนเกือบจะถึงตีนภูเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักศึกษาชิงอี้แล้ว
ทางด้านร้านรถไม้ ก็สร้างรถรูปแบบต่างๆออกมาไม่หยุด จักรยานกับรถสามล้ออย่างละสิบคัน
เสวียนจีไปแนะนำรถเข็นไม้ที่สำนักศึกษาแทบทุกวัน ยังฝึกฝนการใช้งานให้กับกลุ่มองครักษ์ในวังที่ขี่รถม้าเป็น
สองสามีภรรยาอวิ๋นหลิงเดินทางไปสำนักศึกษาชิงอี้ครั้งนี้ นั่งอยู่บนรถไม้สามล้อ ใช้เวลาเดินทางแค่หนึ่งชั่วโมงยี่สิบนาทีเท่านั้น
เมื่อเทียบกับการมาสำนักศึกษาครั้งแรก ความเร็วถือว่าก้าวกระโดดจริงๆ
สายลมของต้นฤดูหนาวพัดมาที่ใบหน้า เจ็บเหมือนถูกใบมีดกรีด
เซียวปี้เฉิงบอกว่า “เสด็จพ่อบอกว่าในตลาดมีร้านที่ขายมันเทศเผา เผาได้อร่อยหอมหวานมาก พวกเราไปลองชิมดู”
จักรพรรดิจาวเหรินได้กลายเป็นแขกประจำของสำนักศึกษาชิงอี้แล้ว กระทั่งมีนักเรียนไม่น้อย รวมไปถึงชาวบ้านที่ทำการค้าขายในตลาดต่างก็รู้จักเขา
ตอนนี้ ชื่อของนายท่านเก้าหวงในสำนักศึกษาถือว่าค่อนข้างมีความสำคัญ
อวิ๋นหลิงพยักหน้า สองสามีภรรยาอิงแอบกันท่ามกลางลมหนาวเดินไปทางตลาด
มีผู้คนมากมายบนถนนสายยาวของตลาด ความคึกคักในยามเช้าขับไล่ความหนาวออกไป กลับได้ยินนักเรียนจำนวนไม่น้อยกำลังวิพากษ์วิจารณ์ถึงชื่อของคนหลายคนที่คุ้นเคย
หรงรั่ว หลิ่วชิงเยี่ยน ถังจูซิง……
อวิ๋นหลิงเอ่ยถามเสียงต่ำว่า “จำได้ว่าก่อนหน้านี้ท่านเคยบอกว่าหรงรั่วมีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว คนคนนั้นคือใคร”
แววตาของเซียวปี้เฉิงไหววูบ เห็นได้ชัดว่าก็ได้ยินเสียงซุบซิบรองข้างเหมือนกัน
“ตระกูลถังแห่งกรมโยธา ลูกชายคนโตของภรรยารองถังจูซิง”
นึกไปถึงก่อนหน้านี้ที่เคยได้ยินเรื่องข่าวลือรักสามเส้าโดยบังเอิญ สีหน้าเขาดูประหลาดใจเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......
ขอบคุณค่ะ...
รีบมาต่อนะคะ กำลังสนุกเลย...