พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 704

เมื่อเหล่าหญิงงามเข้ามาพำนัก พระราชวังก็ค่อยๆ มีชีวิตชีวาขึ้น แต่สำนักศึกษาชิงอี้กลับเงียบเหงา

วันแรกที่คัดเลือกหญิงงามขั้นต้น เซียวปี้เฉิงก็ตามจักรพรรดิจาวเหรินไปสำนักศึกษา

ผ้าม่านหนาทึบแขวนอยู่ด้านนอกรถสามล้อไม้ บังลมและหิมะท่วมฟ้าด้านนอก แสงส่องเข้ามาทางหน้าต่างกระดาษ ภายในรถมืดสลัว แต่บริเวณโดยรอบกลับอบอุ่น

จักรพรรดิจาวเหรินนั่งครุ่นคิดอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

เมื่อรถสามล้อไม้แล่นออกไปนอกเมือง จู่ๆ เขาก็เอ่ยปากถามเซียวปี้เฉิงว่า “เจ้าสาม เจ้ารู้สึกหรือไม่ว่าในวังหลังของข้ามีสนมน้อยเกินไป”

เซียวปี้เฉิงตะลึงงันไปครู่หนึ่ง “ยามนี้วังหลังของท่านมีคนไม่ถึงสิบคน ถือว่าค่อนข้างน้อย”

เขายอมรับแนวคิดการมีคู่สมรสคนเดียวเป็นอย่างดี แต่จักรพรรดิจาวเหรินในฐานะฮ่องเต้สมัยเก่า สนมในวังหลังไม่อาจเรียกว่ามาก อย่างน้อยก็น้อยกว่าฮ่องเต้องค์ก่อนๆ ครึ่งหนึ่ง

อีกฝ่ายไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้มาก่อน ถึงขั้นไม่สนใจรับสนมแต่งภรรยาใหม่มากนัก แต่จู่ๆ ก็เอ่ยถึงหัวข้อนี้ขึ้นมา เซียวปี้เฉิงก็รู้สึกไวถึงบางสิ่งบางอย่าง

เขาถามอย่างลังเลว่า “เสด็จพ่อ ท่านคงไม่อยากรับสนมหรอกกระมัง”

“ทำไมเจ้าทำหน้าเช่นนี้ หรือว่าข้ารับสนมไม่ได้” จักรพรรดิจาวเหรินไม่พอใจกับสายตาตกใจของเซียวปี้เฉิง

“ลูกไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่หญิงงามชุดนี้ พูดตามตรง…”

ยังเด็กเกินไป

แต่ก่อนเสด็จพ่อก็ไม่ชอบสิ่งนี้ แล้วเหตุใดจู่ๆ จึงเปลี่ยนใจ

จักรพรรดิจาวเหรินโบกมือตัดบท “ข้าไม่ได้เลือกสนมจากหญิงงาม หญิงงามเหล่านั้นอายุพอๆ กับหรงเอ๋อร์ ถ้าหลับหูหลับตาทำลงไป เช่นนั้นข้าจะเป็นคนเช่นไร”

“แล้วท่านคิดจะ...”

“ข้าจะบอกเจ้าตามตรงแล้วกัน ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้าไปเยี่ยมชมสำนักศึกษาชิงอี้เป็นการส่วนตัว ได้พบกับหญิงม่ายโดยบังเอิญ ข้าคุยกันแล้วรู้สึกถูกคอ ข้าเลยตัดสินใจจะเรียกนางเข้าวังมาเป็นสนม”

พูดถึงแม่นางหลี สีพระพักตร์ของจักรพรรดิจาวเหรินก็อ่อนลงเล็กน้อย

เซียวปี้เฉิงฟังแล้วก็อดมองจักรพรรดิจาวเหรินด้วยความประหลาดใจไม่ได้ ดูเหมือนไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง

ในราชวงศ์ก่อนๆ มีฮ่องเต้หลายพระองค์ที่รับหญิงม่ายเป็นสนม นี่ไม่ใช่เรื่องหายาก

ที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ หลังจากประทานความตายให้เสี่ยวเฟิงเพียงเก้าเดือน เสด็จพ่อถึงขั้นเกิดความคิดจะรับสนม?

“ท่าน...เหตุใดจู่ๆ ท่านจึงอยากรับสนม”

จักรพรรดิจาวเหรินพรูลมหายใจยาวตรัสอย่างกลัดกลุ้ม “นับตั้งแต่เสี่ยวเฟิงตายไป ข้ามักจะรู้สึกเหงาโดดเดี่ยวอยู่บ่อยๆ ปกติก็แทบจะหาคนมาพูดความในใจไม่ได้ด้วยซ้ำ”

“เจ้าก็รู้ว่าหลี่กุ้ยเฟยเป็นคนเช่นไร อยู่กับนางเหนื่อยกว่าว่าราชการช่วงเช้าเสียอีก สนมเหลียงเป็นคนอ่อนโยนและมีคุณธรรมก็จริง แต่นางระมัดระวังมากเกินไป นอกจากตอนที่พูดคุยกับเจ้าห้าที่จะพูดมากขึ้นอยู่สักหน่อย เวลาอื่นๆ ก็ได้แต่เออออเห็นด้วย น่าเบื่อชะมัด”

เซียวปี้เฉิงอดพูดไม่ได้ว่า “แล้วเสด็จแม่ลี่เล่า เสด็จแม่ลี่เป็นคนสง่างาม สุภาพอ่อนโยน ทั้งยังรอบรู้เป็นอย่างดี เชี่ยวชาญทั้งบทกวี ตำรา มารยาท ดนตรี และวรยุทธ์ เหตุใดจึงยังเข้ากับท่านไม่ได้”

ในบรรดาสนมของวังหลัง ลี่ผินเป็นคนที่มีนิสัยเข้าอกเข้าใจมากกว่าและเข้ากับทุกคนได้ดี

เซียวปี้เฉิงนิ่งฟังเขาพร่ำบ่นจนจบ แล้วลองหยั่งเชิงถาม “ท่านอยากมีใครสักคนเป็นเพื่อนก็เป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเรียกตัวเข้าวังแล้ว วางแผนจะจัดตำแหน่งอะไรให้หรือ”

“ตำแหน่ง?” จักรพรรดิจาวเหรินขบคิดพักหนึ่งแล้วรับสั่งว่า “ถ้าถึงเวลาจะมอบตำแหน่งสนมเจาอี๋ให้ก่อน”

เซียวปี้เฉิงดูประหลาดใจอีกครั้ง นั่นเป็นหนึ่งในนางสนมทั้งเก้า อันดับจะต่ำกว่าสนมระดับเฟยเท่านั้น

ตำแหน่งนี้สูงกว่าลี่ผินเสียอีก แม้ก่อนหน้านี้จักรพรรดิจาวเหรินจะเลื่อนยศให้นางเป็นเต๋อเฟย แต่ลี่ผินปฏิเสธเสียเอง

“คนนั้นเป็นใครกันแน่ เสด็จพ่อ ท่านจะเชิญนางเข้าวังแค่อยากมีคนเป็นเพื่อนเท่านั้นเองหรือ”

จักรพรรดิจาวเหรินตรัสว่า “นางชื่อหลีหว่านเจิง สามีตายไปเมื่อหลายปีก่อน มีลูกชายเพียงคนเดียวก็เป็นศิษย์ของสำนักศึกษาชิงอี้ด้วย นางเปิดร้านของหวานในตลาดเล็กๆ คนแถวนั้นเรียกนางว่าแม่นางหลี เจ้าน่าจะรู้จัก”

“บอกตามตรง ข้าชอบนางด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ การได้อยู่กับนางทำให้ข้านึกถึงวัยเยาว์อยู่เสมอ”

เซียวปี้เฉิงตกใจยิ่งนัก

ไม่เพียงเพราะผู้ที่จักรพรรดิจาวเหรินชมชอบคือมารดาของกู้ฮั่นม่อ แต่ยังเป็นเพราะท่าทีของจักรพรรดิจาวเหรินที่มีต่อนางด้วย

ชอบนางด้วยความบริสุทธิ์ใจมากเพียงใด

เซียวปี้เฉิงรู้สึกสับสนไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าหลี่กุ้ยเฟยกับเสี่ยวเฟิงคนไหนน่าสงสารกว่ากัน

เสด็จพ่อเคยรักเสี่ยวเฟิงเหลือแสน แต่นางตายไปยังไม่ถึงหนึ่งปีเลย...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ