พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 714

พระราชวังที่โกลาหลวุ่นวายกว่าครึ่งเดือนที่สุดก็สงบลงแล้ว

สำหรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวัง องค์หญิงหกรับทราบทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ

ข่าวลือน่ากลัวที่เกี่ยวกับเว่ยฉือเลี่ย นางก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก

เพราะการแต่งงานเพื่อสันติภาพห่างไกลจากตัวนางมาก เรื่องราวที่ทำให้รู้สึกหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ของเหล่าสาวงาม ได้แต่เพิ่มหัวข้อสนทนาหลังอาหารให้นางก็เท่านั้น

แต่ว่า องค์หญิงหกรู้ว่าสองสามีภรรยารัชทายาทเป็นผู้คอยขับเคลื่อนทุกอย่างอยู่เบื้องหลัง

หลังจากที่ตำหนักสาวงามไร้ผู้คนแล้ว นางก็ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงสองสามประโยค

“ถ้าหากไม่มีสาวงามแล้ว ถึงเวลาจะส่งใครไปแต่งงานเพื่อสันติภาพเล่า”

อวิ๋นหลิงยิ้มจางๆ “ใช่ว่าอ๋องทูเจวียต้องการแต่งงาน พวกเราก็จำเป็นต้องส่งองค์หญิงแต่งงานเพื่อสันติภาพให้เขาจริงเสียหน่อย”

สำหรับแคว้นต้าโจวแล้ว อยากจะปฏิเสธเรื่องนี้ที่จริงมันง่ายมาก

เซียวปี้เฉิงก็พยักหน้าพลางเสริมว่า “ไม่มีเรื่องอะไรที่เงินแก้ไขไม่ได้ อย่างมากก็แค่เมื่อถึงเวลาก็มอบทองคำให้ทูเจวียตะวันออกมากหน่อย คิดว่าเว่ยฉือเลี่ยคงจะรับไว้ด้วยความยินดี พวกเขาใช้ทองเหล่านี้สร้างแนวป้องกันของทูเจวียตะวันออกให้ดี สำหรับแคว้นต้าโจวแล้วมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย”

องค์หญิงหกพยักหน้า และไม่สนใจเรื่องนี้อีก

เซียวปี้เฉิงถามนาง “ใช่แล้ว ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าเคยบอกว่า ช่วงปีใหม่อยากจะกลับไปอยู่ที่สำนักศึกษาสองสามวัน วางแผนจะไปวันไหนเล่า ถึงเวลาข้าจะได้ส่งคนอารักขาไปส่งเจ้า”

“ขอบคุณความหวังดีของพี่สาม” องค์หญิงหกเอ่ยขอบคุณเสร็จ ก็ถอนหายใจยาวๆออกมาเฮือกหนึ่ง “แต่ข้าก็ยังไม่ได้ตัดสินใจ ช่วงนี้เสด็จพ่อป่วยยังไม่หาย ข้าจะวางใจไปสนุกที่สำนักศึกษาได้อย่างไร”

เป็นเวลาสิบกว่าวันแล้ว จักรพรรดิจาวเหรินเซื่องซึมอยู่ตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไร้ชีวิตชีวา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

คิดถึงตรงนี้ องค์หญิงหกมองไปทางอวิ๋นหลิงอีกครั้ง

“พี่สะใภ้สาม เสด็จพ่อไม่ได้เป็นอะไรจริงๆใช่หรือไม่”

อวิ๋นหลิงปลอบใจนาง “เจ้าวางใจเถอะ เสด็จพ่อแค่เหนื่อยล้าเท่านั้นเอง จะถึงงานเลี้ยงปีใหม่ในวังหลวงแล้ว เขายังต้องเตรียมการต้อนรับทูเจวียตะวันออก พักผ่อนให้มากสะสมพละกำลังไว้ก็เป็นเรื่องปกติ”

จักรพรรดิจาวเหรินป่วยจริงๆ แต่สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี เป็นการป่วยทางใจ

โรคนี้แม้นางจะมีฝีมือการแพทย์ดีแค่ไหนก็รักษาไม่ได้ ได้แต่อาศัยให้อีกฝ่ายปลงตก ได้สติขึ้นมาด้วยตนเองเท่านั้น

องค์หญิงหกพยักหน้า ยังคงรู้สึกกังวลใจอยู่บ้าง

นางมักจะรู้สึกว่าจักรพรรดิจาวเหรินมีเรื่องปิดบังตนเองอยู่ สายตาที่มองนางในช่วงนี้ก็แปลกๆ

แม้ว่าอวิ๋นหลิงจะเน้นย้ำตลอดว่าจักรพรรดิจาวเหรินสุขภาพดีมาก แต่ตอนนี้องค์หญิงหกโตแล้ว ไม่เห็นแก่ตัวและหยิ่งผยองเหมือนเมื่อก่อน ใส่ใจในตัวเสด็จพ่อมากขึ้น

นางค่อยๆเข้าใจแล้วว่า หลังจากที่เสี่ยวเฟิงตาย เสด็จพ่อกับพี่ชายคือที่พึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ตอนนี้องค์หญิงหกแสดงความใส่ใจต่อรุ่ยอ๋องและจักรพรรดิจาวเหรินด้วยตนเอง สำหรับสองสามีภรรยาอวิ๋นหลิง ก็จะมาทักทายวันเว้นวัน

เมื่อมีเวลาว่างก็จะไปพูดคุยกับพระเจ้าหลวง หรือไม่ก็ช่วยพระพันปีคัดพระคัมภีร์

ก่อนหน้านี้ได้เรียนรู้การทำอาหารมาจากสำนักศึกษาอยู่บ้าง จึงเข้าครัวทำของว่างส่งไปยังพระที่นั่งบำรุงฤทัยทุกวัน

เช้าวันนี้หิมะหยุดตกแล้ว พระเจ้าหลวงพาคนออกไปยังอุทยานหลวงเพื่อล่าสัตว์

เดิมทีองค์หญิงหกจะไปพูดคุยอยู่เป็นเพื่อน ได้ยินข่าวแล้วก็เปลี่ยนเส้นทาง เดินไปทำของว่างที่ห้องครัวก่อน

ด้วยเหตุที่ว่าวันนี้ไปที่พระที่นั่งบำรุงฤทัยเช้าไปหน่อย

เหล่าขันทีต่างก็คุ้นชินกับการมาของนางแล้ว จึงไม่ได้รายงานและปล่อยให้เข้าไป

นอกพระที่นั่งบำรุงฤทัยไม่มีขันทีอยู่เวร องค์หญิงหกเดินอย่างไร้อุปสรรคขวางกั้น ภายในตำหนักฝูกงกงกำลังพูดคุยอยู่กับจักรพรรดิจาวเหริน เสียงไม่เบาไม่ดังส่งออกมา

“ฝ่าบาท ช่วงที่ผ่านมากระหม่อมได้ตรวจสอบชัดเจนแล้ว กู้ฮั่นม่อคนนั้นเป็นอันดับหนึ่งของสำนักศึกษาชิงอี้ อีกทั้งยังเป็นชายหนุ่มที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจมาก เขาต้องไม่ยินดีแต่งงานกับองค์หญิงหกอย่างแน่นอน”

จักรพรรดิจาวเหรินกำลังจะพูด กลับได้ยินเสียงเคลื่อนไหวนอกตำหนักดังขึ้น เหมือนมีสิ่งของร่วงหล่นบนพื้น

ฝูกงกงตกใจสะดุ้งโหยง ขมวดคิ้วพลางเดินเข้าไปหา คิดว่าเป็นนางกำนัลที่ไม่รู้ความคนไหน ขัดคำสั่งเข้าใกล้พระที่นั่งบำรุงฤทัย

หลังจากเปิดประตู ฝูกงกงก็ตกตะลึง

“องค์ องค์หญิงหก”

จักรพรรดิจาวเหรินลุกพรวดขึ้นมาทันที ยื่นหน้ามองออกไปนอกตำหนัก

เวลานี้องค์หญิงหกยืนนิ่งอยู่หน้าประตู ข้างเท้ามีกล่องอาหารที่ทำอย่างประณีตตกอยู่ ของว่างอ่อนนุ่มและยังร้อนอยู่กระจายเต็มพื้น

นางมองจักรพรรดิจาวเหรินด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ ในดวงตาเต็มไปด้วยแววตกตะลึง

“เสด็จพ่อ ทรงจะรับแม่นางหลีเป็นสนมหรือ”

จักรพรรดิจาวเหรินคิดไม่ถึงว่าวันนี้องค์หญิงหกจะมาเช้าขนาดนี้ ยังได้ยินเรื่องที่เขาคุยกับฝูกงกงเข้าพอดี อดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าตื่นเต้นอยู่บ้าง

เกรงว่าองค์หญิงหกจะเข้าใจผิด เขารีบพูดขึ้นมาว่า “หรงเอ๋อร์อย่าเข้าใจผิด ข้าก็แค่คิดเช่นนี้เท่านั้น ไม่ได้คิดจะเรียกตัวเจ้ากลับมาจากสำนักศึกษาเพียงเพราะความปรารถนาส่วนตัว อย่าไปฟังอาฝูพูดเหลวไหล”

องค์หญิงหกถามด้วยเสียงขรึม “ทำไมทรงต้องเรียกตัวแม่นางหลีเข้าวัง”

จักรพรรดิจาวเหรินถอนหายใจออกมา อ้าปากขึ้น ไม่ปกปิดอีกต่อไปแล้ว

“ย่อมเพราะเห็นว่านางเพียบพร้อมและอ่อนโยน จึงได้เกิดความคิดนี้ขึ้นมา”

เขารู้สึกว่าการที่จักรพรรดิจะรับพระสนมเป็นเรื่องปกติมาก แต่องค์หญิงหกกลับกำหมัดแน่น ดวงตาที่แดงก่ำเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและขุ่นเคือง

“แต่เสด็จแม่เพิ่งจากไปสิบเดือนเท่านั้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ