เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว ไม่สนใจแม้แต่จะหันกลับไปมอง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอวี้ฉีเฟิงมาที่นี่เพื่ออะไร
เสียงของอวี้ฉีเฟิงดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
“ในเมื่อผมมีเรื่องที่จะต้องคุยกับคุณเซิ่งอยู่แล้ว อย่างนั้นก็พูดพร้อมกันก็ได้ เพื่อไม่เป็นการทำให้คุณหลี่เสียเวลา คุณหลี่ คุณคิดว่ายังไง?”
ผู้จัดการหลี่ยืนอยู่ตรงข้ามกับเซิ่งอันหราน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าแสดงออกถึงความรู้สึกสนใจ
ถ้าจะพูดถึงเหตุผลทางด้านธุรกิจระหว่างเฉียวอันกรุปและเซิ่งถังกรุปแล้ว แม้ว่าผู้จัดการจะสนใจเป็นเพื่อนร่วมธุรกิจกับอวี้ฉีเฟิง แต่ผู้จัดการหลี่ก็นับว่าเป็นผู้อาวุโส อวี้ฉีเฟิงควรจะให้เกียรติผู้จัดการหลี่มากกว่านี้สิมันถึงจะถูก แต่เมื่อฟังน้ำเสียงของเขาในตอนนี้ ดูเหมือนว่ากำลังพูดข่มผู้จัดการหลี่อยู่
เซิ่งอันหรานงงงวย แต่เธอก็ไม่มีเวลาไตร่ตรองในเรื่องนี้มาก
เสียงของอวี้ฉีเฟิงดังขึ้นมาจากทางด้านหลังอีกครั้ง
“ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ ประธานเซิ่งน่าจะมาที่นี่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับคำสั่งซื้อของเฉียวอันกรุปที่มอบให้ เซิ่งซื่อกรุปล่ะสินะ”
“คุณอวี้ฉีเฟิงมาเพราะเรื่องนี้อย่างนั้น เหรอ?”
เซิ่งอันหรานหันกลับไปชำเลืองมองเขา"ถ้าจะพูดในกรอบเล็กๆมันคือเรื่องระหว่างฉันกับผู้จัดการหลี่ ถ้าจะพูดถึงภาพรวมใหญ่ๆมันคือเรื่องระหว่างชิงเหมิงและเฉียวอันกรุป ดูเหมือนว่า มันจะไม่เกี่ยวอะไรกับประธานอวี้ฉีเฟิงเลยสักนิด ?”
อวี้ฉีเฟิงก้าวไปข้างหน้า เขายืนห่างจากเซิ่งอันหรานเพียงแค่ครึ่งเมตร และมองไปที่ผู้จัดการหลี่ "ดูเหมือนคำพูดของประธานเซิ่งจะเป็นการรีบไล่ผมให้ออกไปจากตรงนี้โดยเร็ว คุณคงยังไม่ได้พูดประเด็นสำคัญกับผู้จัดการหลี่สินะ"
ผู้จัดการหลี่ชะงัก "ท่านประธานอวี้ฉีเฟิงหมายความว่าอย่างไร ?"
“อะไรนะ? ยังไม่ได้พูดจริงๆสินะ?” อวี้ฉีเฟิงมองเซิ่งอันหรานด้วยความแปลกใจ พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นด้วยท่าทางยั่วยุ
“หรือประธานเซิ่งยังไม่กล้าที่จะพูด ? ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับผู้จัดการหลี่ก็ถือว่าไม่ได้แย่อะไร ผู้จัดการหลี่ก็น่าจะเห็นแกหน้าผมและพอจะเข้าใจได้”
เซิ่งอันหรานขมวดคิ้วและไม่พูดอะไรใดๆ
“ผู้จัดการหลี่คงยังไม่รู้สินะ ว่าเกิดเพลิงไหม้โกดังแห่งหนึ่งในเขตชานเมืองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และก็ออกข่าวไปทั่วแล้ว”
“เรื่องนี้ผมพอได้ยินมาบ้างแล้ว”ผู้จัดการหลี่พยักหน้า แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่เข้าใจ “ว่าแต่ประธานอวี้ฉีเฟิง เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ?”
"มันเกี่ยวกับคุณมากด้วย "
อวี้ฉีเฟิงเหลือบมองเซิ่งอันหรานอย่างมีความหมายแอบแฝง "ประธานเซิ่งเรื่องนี้คุณจะเป็นคนพูดเอง หรือว่าจะให้ผมเป็นคนพูดดีล่ะ?"
ใบหน้าของเซิ่งอันหรานเย็นชาขึ้นมาในทันที เธอกำหมัดแน่น
“ถ้าประธานอวี้ฉีเฟิงต้องการจะพูดอะไรก็พูดออกมาตรงๆเถอะค่ะ เพราะฉันไม่รู้ว่าคุณต้องการพูดอะไร?”
อวี้ฉีเฟิงหัวเราะ “เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ประธานเซิ่งยังจะปากแข็งอยู่อีกเหรอ ?”
ผู้จัดการหลี่รู้สึกงุนงง และดูไม่ค่อยพอใจกับท่าทีของอวี้ฉีเฟิง แต่ทว่าเขาต้องระงับอารมณ์ของตัวเอง
"เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นเหรอ ?"
อวี้ฉีเฟิงมองไปทางผู้จัดการหลี่ "โกดังที่ถูกไฟไหม้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คือสินค้าชุดที่ผู้จัดการหลี่สั่งจอง ถ้าหากว่าข้อมูลของผมไม่ผิดล่ะก็ เพลิงไหม้ในครั้งนี้เครื่องแบบพนักงานของเฉียวอันกรุปถูกเผาไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง และที่ประธานเซิ่งมาหาคุณในวันนี้ ผมเกรงว่าน่าจะมาคุยเรื่องการของยืดเวลาในการส่งมอบสินค้า ”
เมื่อเห็นสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามนัยน์ตาของอวี้ฉีเฟิง เซิ่งอันหรานก็หัวเราะขึ้นทันที “ที่ผู้จัดการหลี่พูดมันดูตลกจริงๆ หากว่าเราไม่ส่งมอบตรงเวลาจริงๆ เราก็ควรจ่ายค่าชดเชยให้มันเป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาส่งมอบเลย ?"
“ต่อให้ถึงเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ คุณก็ไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้” อวี้ฉีเฟิงยิ้มเยาะเย้ยอย่างเย็นชา “คุณคิดว่าตัวเองเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ชั้นเจ็ดหรือยังไง ? คุณจะเสกสินค้าพวกนี้ขึ้นมาใหม่อย่างนั้นเหรอ ?”
“ฉันไม่ใช่นางฟ้าหรอกค่ะ แต่ฉันมีดีไซเนอร์ที่ดีอยู่ในมือ พวกเขาอาจจะเป็นนางฟ้าหรือเทวดาก็ได้ ดังนั้นเขาน่าจะสามารถสร้างสินค้าเหล่านี้ขึ้นมาใหม่ได้”
คำพูดของ เซิ่งอันหรานปิดกั้นปากและคำพูดดูถูกของอวี้ฉีเฟิงในทันที
“คุณหลี่ นี่คือใบส่งมอบของ” เซิ่งอันหรานยื่นเอกสารประกอบให้กับผู้จัดการหลี่ “ฉันแค่อยากจะบอกคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ดันมีคนบางคนมาขัดจังหวะซะก่อน สินค้าชุดนี้เป็นสินค้าที่เร่งรีบ ดังนั้นฉันต้องการให้คุณไปตรวจงานด้วยตัวเองเพื่อความสบายใจ และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ฉันต้องมาหาคุณที่นี่เป็นการส่วนตัว”
ไม่เพียงแต่อวี้ฉีเฟิงและผู้จัดการหลี่เท่านั้นที่รู้สึกตกตะลึง แม้แต่เซิ่งอันหรานเองก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินข่าวจากฉินปัวบอกว่าคำสั่งเสร็จสิ้น เธอคิดว่าเธอคงหูฝาดไปแล้วแน่ๆ
เดิมที่ในเมืองจินหลิงไม่มีโรงงานไหนที่สามารถทำออเดอร์ใบสั่งซื้อให้กับเฉียวอันกรุปได้ เนื่องจากอวี้ฉีเฟิงได้เช่าพวกมันทั้งหมดไว้ล่วงหน้าแล้ว เขายอมจ่ายเงินแพงๆสำหรับเช่าโรงงานพวกนั้นไว้โดยไม่ทำอะไร เพื่อไม่ใช้ชิงเหมิงมีทางรอด สุดท้ายเซิ่งอันหรานก็จะต้องมาขอร้องเขา
แต่ทว่าฉินปัวมีความสามารถและทำมันจนสำเร็จ
เมื่อพิจารณาจากประเภทและปริมาณในใบสั่งส่งมอบแล้ว ผู้จัดการหลี่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่ง
“จริงเหรอ ? อย่างนั้นไปกันเถอะ ตอนนี้ผมกำลังว่างอยู่พอดี ลองไปดูงานที่โกดังกัน ถ้าการส่งมอบเสร็จเรียบร้อย ผมจะให้ฝ่ายการเงินจัดการโอนเงินส่วนที่เหลือให้ ”
ผู้จัดการหลี่รู้ว่าเซิ่งอันหรานมีคนตระกูลอวี้คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง และยังเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลอวี้ อันที่จริง คนสองคนที่อยู่ข้างหน้า เขาไม่สามารถทำให้ใครขุ่นเคืองใจได้เลย วิธีที่ดีที่สุดคือให้สินค้าชุดนี้ออกมาเสร็จสมบูรณ์ เขาจึงจะวางใจได้
“เป็นไปได้ยังไง ?” อวี้ฉีเฟิงเพิ่งจะรู้สึกตัวกลับมา เขาถามขึ้นในทันทีว่า “ในสัปดาห์เดียวคุณไม่สามารถทำเสื้อผ้าได้มากมายขนาดนี้ จินหลิงจะไม่มีโรงงานไหนที่สามารถรับออเดอร์คำสั่งซื้อของคุณได้…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน