เซิ่งอันหรานดูสงบนิ่ง เธอค่อยๆลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างไม่เร่งรีบ จัดรอยยับบนเสื้อผ้า และเชิดคางขึ้นเล็กน้อยเมื่อมองไปที่อวี้ฉีเฟิง
“ถ้าประธานอวี้ฉีเฟิงไม่เชื่อ จะตามไปดูด้วยกันก็ได้นะ เมื่อถึงโกดังสินค้าของเฉียวอันกรุป คุณก็จะเห็นด้วยตาของคุณเอง ถึงตอนนั้นคุณอาจจะรู้สึกเสียดายเงินมากมายที่ตัวเองเอาไปเช่าโรงงานไปทั่วทั้งเหมืองจินหลิงก็ได้ ”
โกดังสินค้าของเฉียวอันกรุปอยู่ในเขตชานเมืองทางตอนใต้
เห็นได้ชัดว่าอวี้ฉีเฟิงไม่เชื่อในคำพูดของเธอ เขาเดินตามเซิ่งอันหรานไป
ฉินปัวเป็นคนกำกับคนงานเคลื่อนย้ายสินค้าด้วยตัวเอง "ทางนี้ๆ วางตรงนี้สินค้าของผู้หญิงและผู้ชายควรแยกออกจากกัน เพื่อจะได้สะดวกต่อการแจกจ่ายพนักงาน อย่าผสมปนเปกัน ล่ะ"
นักออกแบบที่ไว้ใจได้หลายคนภายใต้การดูแลของฉินปัวก็เข้ามาช่วยงานด้วย และพวกเขาทั้งหมดก็เข้ามาช่วยเหลือด้วยตนเอง
หลังจากที่คุณหลี่เช็กสินค้าแล้ว เขาก็มอบใบคำสั่งซื้อให้กับเลขาที่ยืนอยู่ทางด้านข้าง พร้อมกับยิ้มให้เซิ่งอันหราน
“ไม่มีปัญหามอบสิ่งนี้ให้กับฝ่ายการเงิน และให้พวกเขาชำระยอดที่เหลือให้กับชิงเหมิงโดยเร็วที่สุด”
เซิ่งอันหรานยิ้มเล็กน้อย ทั้งสองจับมือกัน
“ขอบคุณผู้จัดการหลี่มากค่ะ หวังว่าเราจะได้ร่วมมือกับคุณในครั้งต่อไป”
“ประธานเซิ่งเป็นคนที่น่าเชื่อถือมาก ต่อไปเราคงจะมีโอกาสได้ร่วมมือกันบ่อยๆ ” ผู้จัดการหลี่รีบเก็บรอยยิ้ม และใช้หางตาชำเลืองมองไปที่อวี้ฉีเฟิง
“ประธานเซิ่ง ผมยังมีงานที่บริษัทให้จัดการต่อ ดังนั้นผมคงจะอยู่ที่นี่กับคุณไม่ได้แล้ว เอาไว้วันหลังเราค่อยไปทานอาหารเพื่อฉลองกันสักครั้ง คงจะดี ”
“ผู้จัดการหลี่เกรงใจมากเกินไปแล้ว”
"..."
หลังจากที่ผู้จัดการหลี่กลับไป อวี้ฉีเฟิงยังคงยืนนิ่งอยู่หน้าโกดังสินค้า ใบหน้าของเขาดูเคร่งขรึมเล็กน้อย "คุณใช้วิธีการแบบไหน และไปหาโรงงานที่ไหนทำสินค้าพวกนี้ออกมา ? "
“ทำไมเหรอ ? ถ้าบอกคุณไปแล้ว คุณจะไปเช่าโรงงานนั้นไว้ด้วยอย่างนั้นเหรอ ? ” เซิ่งอันหรานยืนกอดอกและมองไปที่เขา เธอยิ้มอย่างยั่วยุ
“แต่ยังไงซะ ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์หากจะไปเช่าในตอนนี้ ประธานอวี้ฉีเฟิง ประหยัดเงินไว้บ้างดีกว่า”
อวี้ฉีเฟิงกำหมัดแน่น จนเสียงข้อต่อที่นิ้วมือดังลั่น และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่โกรธเคือง
"เซิ่งอันหราน ไม่ช้าไม่นานนี้เซิ่งซื่อกรุปก็จะต้องถูกเซิ่งถังกรุปซื้อกิจการอยู่แล้ว เพียงแค่มันจะช้าหรือเร็วเท่านั้น ดีใจตอนนี้คงจะเร็วเกินไป"
“ฉันไม่ได้ดีใจ แต่ยินดีต้อนรับประธานอวี้ฉีเฟิงทุกเมื่อ”
ภาพแววตาที่สดชื่นของเซิ่งอันหราน สะท้อนอยู่นัยน์ตาของอวี้ฉีเฟิงมันดูยั่วโมโหมากอวี้ฉีเฟิงกำหมัดแน่น และเดินออกไปจากโกดัง
เป็นอย่างที่เกาหย่าเหวินพูดไม่มีผิด ผู้หญิงคนนี้ดูมีเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่มาก และยากจะรับมือ นอกจากนี้เธอยังมีอวี้หนานเฉิงที่คอยให้คำแนะนำอยู่ข้างหลัง ? คราวนี้ตัวเองประมาทเกินไปเอง
หลังจากที่อวี้ฉีเฟิงกลับไป เซิ่งอันหรานก็หันกลับมาเรียกฉินปัว
“เอาล่ะๆ อย่าเข้าไปยุ่มมากนักเลย ตรงนั้นมีพนักงานอยู่ไม่ใช่เหรอ ?ตอนเย็นให้เรียกพวกเขามาทานอาหารด้วยกัน ในช่วงนี้ทุกคนทำงานหนักมากจริงๆ”
ฉินปัวปรบมือไล่ฝุ่น พร้อมกับมองไปยังทิศทางที่อวี้ฉีเฟิงกำลังเดินออกไป ใบหน้าของเขาค่อนข้างเคร่งขรึม
“ในเมื่อพบหลักฐานว่าเขาจงใจก่อเหตุ ทำไมถึงไม่แจ้งความ?”
เซิ่งอันหรานมองไปทางเดียวกันกับฉินปัว อวี้ฉีเฟิงขึ้นรถไปแล้ว เห็นแต่เพียงรถคันสีดำจากที่ไกลๆ
"หนานเฉิงบอกว่า เก็บบัญชีเก่าและบัญชีใหม่ไว้ชำระไปพร้อมๆกัน ยังไม่ต้องรีบ"
ในเหตุเพลิงไหม้โกดังครั้งนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แม้จะได้รับการยืนยันจากหลายแหล่งว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากเป็นวงจรเก่าบวกกับสภาพอากาศที่แห้งโดยธรรมชาติจึงก่อให้เกิดไฟไหม้ขึ้น แต่เซิ่งอันหรานไม่เชื่อ สัญชาตญาณบอกเธอว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับอวี้ฉีเฟิง
ก่อนคนขับจะลงมา เซิ่งอันหรานและฉินปัวได้วิ่งเข้าไปช่วย ก่อนที่พวกเขาเดินเข้าไปยกกล่อง ปรากฏว่ามีเสียงที่ดุดันดังมาจากด้านหน้าของรถ "เฮ้ ?ใครให้พวกคุณมาแตะต้องสินค้าของผม "
ทั้งเซิ่งอันหรานและฉินปัวต่างก็หยุดชะงัก
คนขับรีบเดินเข้ามา และยกกล่องกระดาษแข็งขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งมองเซิ่งอันหรานด้วยสายตาที่ดุดัน
รถบรรทุกขับออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่มีแม้แต่คำขอโทษ
สักพักเซิ่งอันหรานถึงได้สติกลับมา “เป็นคนแบบไหนนะ ”
ฉินปัวที่ยืนอยู่ทางด้านข้างยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ทำให้เซิ่งอันหรานรู้สึกสงสัย "พี่ฉิน คุณกำลังดูอะไรอยู่ ?"
“คุณคิดว่านี่คืออะไร ?”
เซิ่งอันหรานจ้องของที่อยู่ตรงหน้าตามฉินปัว บนพื้นคอนกรีตมีผงสีขาวตกหล่นอยู่ เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง บวกกับท่าทางที่ดุดันของชายคนเมื่อกี้ เธอรู้สึกกังวลใจขึ้นมาในทันที
——
ใกล้พกค่ำในห้องนั่งเล่นของคอนโด เซิ่งอันหรานและอวี้หนานเฉิงนั่งติดกันบนโซฟาคู่ ส่วนบนโซฟาเดี่ยวที่มีโต๊ะกาแฟกั้นอยู่ระหว่างกลางมีกู้เทียนเอินและฉินปัวนั่งอยู่คนล่ะข้าง
บนโต๊ะกาแฟมีกระดาษ a4 มีผงสีขาววางอยู่ตรงรอยพับซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน มันดูไม่ค่อยสะอาดนัก เพราะมีเศษหินเศษทรายสีเทาๆปะปนอยู่
กู้เทียนเอินจ้องไปยังของที่วางอยู่บนกระดาษแผ่นนั้นอยู่ครู่หนึ่ง“ของนี่ฉันต้องเอามันกลับไปให้เพื่อนร่วมชั้นทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อระบุว่ามันเป็นอะไรกันแน่ มองไม่ออกด้วยตาเปล่าหรอก แต่จากคำอธิบายของพวกคุณ เก้าในสิบมันอาจจะเป็นไปได้"
เซิ่งอันหรานขมวดคิ้ว แม้ว่าจะผ่านมาครึ่งวันแล้วตั้งแต่การค้นพบผงแป้ง แต่เธอก็ยังไม่ค่อยเชื่อนัก
“ถ้าหากว่ามันเป็นของสิ่งนั้นจริงๆ เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเฉียวอันกรุปล่ะ ? ฉันกับฉินปัวไปถามมาแล้ว โกดังของเฉียวอันกรุปไม่ได้ถูกปล่อยให้คนนอกเช่า ทั้งหมดล้วนถูกใช้โดยกลุ่มบริษัทของเฉียวอันกรุป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน