เวลาทั้งคืน ฝนเย็นดึงกำลังสุดท้ายที่มีอยู่บนตัวของเซิ่งอันหรานไปแล้ว เธอแทบจะมองไม่เห็นแสงไฟที่หน้าต่างชั้นสอง สายตาไม่ชัดเจน
ก่อนที่จะหมดสติไป เธอแทบจะมองเห็นเหมยเหมยคนรับใช้ที่อยู่หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลอวี้ถือร่มวิ่งเข้ามาที่ตัวเอง
เธอไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเป็นยังไงบ้าง หลังจากสูญเสียจิตสำนึก ก็จมดิ่งอยู่ในความฝันที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด
ในความฝันเหมือนเคยมีพบกับไฟไหม้ครั้งใหญ่ ท่วมตัวของเธอร้อนไปทั้งตัว เธอพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้น แต่เปลวไฟไล่ตามเธอเผาตามร่างกายของเธออย่างต่อเนื่อง…
เวลาที่ลืมตาขึ้นมา มองเห็นกระดาษตกแต่งหน้าต่างสีแดงแสบตามาก
แสงอาทิตย์ส่องผ่านเข้ามาจากนอกหน้าต่าง ส่องบนผ้าปูที่นอนสีแดง ไม่ชัดเจน เหมือนจอกแหนที่ลอยไม่มั่นคงอยู่ในทะเล
เธอจ้องไปที่หน้าต่างสีแดงนานมาก เบ้าตาก็แดงแล้ว
“คุณเซิ่ง คุณฟื้นแล้ว?”
เสียงของเหมยเหมยดังเข้ามา เธอวิ่งเข้ามาเร็วมาก“ยังไม่สบายตรงไหนไหม?หมอบอกว่าคุณเป็นไข้เพราะพักผ่อนน้อย”
เซิ่งอันหรานกอดผ้าห่มลุกขึ้นนั่ง มองสำรวจบริเวณรอบๆด้วยความมึนงง
“ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่?”
“คุณเซิ่งจำไม่ได้แล้ว?”เหมยเหมยมองเธอ“เมื่อคืนคุณยืนอยู่หน้าประตูทั้งคืนแล้ว ตากฝนหนักขนาดนั้นทั้งคืน ร่างกายก็รับไม่ไหว หลังจากนั้นก็หมดสติอยู่ท่ามกลางสายฝน เป็นคุณชายที่อุ้มคุณกลับมา”
“เขา?”เซิ่งอันหรานสีหน้าเปลี่ยน“เขาอุ้มฉันเข้ามา?”
อวี้หนานเฉิงไม่ใช่เกลียดตัวเองจนแทบจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ไหม?ไม่ควรจะสนใจว่าตัวเองจะเป็นหรือตายไหม?ทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้?
เหมยเหมยพยักหน้า“ในใจของคุณชายยังมีคุณเซิ่ง ถึงแม้ว่าฉันไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่คุณเซิ่งอย่าทะเลาะกับคุณชายอีกเลย เขานิสัยไม่ได้ แต่เป็นคนดี”
กำลังพูดคุย เสียงผู้หญิงก็ดังขึ้นมาจากหน้าประตู“พอได้แล้ว อะไรคือในใจมีเธอ เมื่อคืนคำพูดของคุณชายจำไม่ได้เหรอ ให้คุณอยู่ที่นี่ทำหน้าที่เป็นคนดี รอคุณชายกลับมา ฉันจะนำคำพูดนี้ของเธอบอกคุณชาย ดูว่าเขาจะจัดการเธอยังไง”
เหมยเหมยสีหน้าซีด พูดเรียกเสียงเบา“พี่หง”
เซิ่งอันหรานค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองไปที่หน้าประตู เห็นสาวใช้เดินเข้ามาพร้อมจาน วางถ้วยซุปขิงไว้บนโต๊ะข้างเตียง พูดเสียงดัง ซุปขิงก็นำมาให้แล้ว
“คุณชายพูดคือ มีคนตายหน้าประตูจะโชคไม่ดี พากลับมารักษาตัวดีแล้วก็ให้เธอไสหัวออกไป คุณเซิ่ง คุณเข้าใจใช่ไหม?”
เผชิญหน้ากับสายตาที่เหยียดหยามของสาวใช้ เดิมทีเซิ่งอันหรานก็สีหน้าซีดเผือดตอนนี้ครึ่งหนึ่งก็ไม่มีเลือดฝาดแล้ว
ทำไมเธอคิดไม่ถึง อวี้หนานเฉิงเกลียดตัวเองมากแล้ว เขาไม่เชื่อคำพูดของตัวเองแล้ว และไม่ใช่เชื่อว่าตัวเองจริงใจซื่อสัตย์กับเขา ทำไมถึงยังจะแคร์ความเป็นความตายของตัวเองล่ะ?
“พี่หง ก็ไม่สามารถพูดขนาดนี้ คุณชายเขา…”
“เธอเข้าใจคุณชายขนาดนี้ ไม่งั้นคืนนี้เธอก็ย้ายไปนอนในห้องของคุณชาย?”
พี่หงพูดโหดร้ายมาก เหมยเหมยยังเป็นสาวน้อยที่วัยรุ่น ได้ยินแบบนี้สีหน้าก็แดงแล้ว “ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ฉัน…”
“เขาอยู่ไหน?”
เซิ่งอันหรานเปิดปากพูดหยุดคำพูดโต้เถียงของทั้งสองคน ครึ่งหนึ่งถูกพวกเขาทะเลาะจนปวดหัว อีกอย่างหนึ่งคือเดิมทีเธอมาที่นี่เพื่อจะมาพบอวี้หนานเฉิงนำลูกสาวของตัวเองกลับไป
พี่หงกอดแขน มองมาที่เธอ พูดอย่างไม่มีอารมณ์
“คุณชายออกไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ ถ้าหากคุณเซิ่งออกไปได้ก็รีบไป หลีกเลี่ยงคุณชายกลับมาเห็นคุณแล้วไม่สบายใจก็จะทำให้พวกเราซวย”
เหมยเหมยทนดูไม่ไหว“พี่หง คุณเซิ่งยังมีไข้ คุณชายพูดแล้ว รอให้คุณเซิ่งรักษาตัวดีแล้วจึงจะให้เธอไป”
“ให้เธอพูดเหรอ?ด้านนอกมีโรงพยาบาลเยอะแยะ”
เซิ่งอันหรานก็คุ้นเคยเรื่องที่ถูกรังแก มีคนเสริมสิ่งที่ดีงามให้ดีขึ้นไปอีก คนที่ให้ความช่วยเหลือในขณะที่ตกทุกข์ได้ยาก เธอก็เห็นมาเยอะมากแล้ว
แสงพระอาทิตย์ยามบ่ายกระทบบนใบหน้าของเซิ่งอันหรานผ่านช่องกระจกหน้าต่าง เงาสีแดงทำให้รู้สึกเจ็บปวด เบ้าตาร้อนผ่าว
เธอรู้ว่าระหว่างตัวเองกับอวี้หนานเฉิงมีช่องว่างขนาดใหญ่แล้ว กระโดดข้ามไปได้ยากมาก และอวี้หนานเฉิงไม่เข้าใจความยากลำบากของเธอ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเธอไม่สามารถให้อภัยพฤติกรรมที่ไม่เลือกปฏิบัติของอวี้หนานเฉิงในการผลักดันความผิดทั้งหมดให้กับเธอ
พูดว่าอยาก“อยู่ร่วมกันด้วยดีจากกันด้วยดี”แต่เริ่มแรกก็ไม่ใช่“อยู่ร่วมกันด้วยดี”สุดท้ายจะ“จากกันด้วยดี”ได้ยังไงล่ะ?
กลางคืน มีเสียงเครื่องยนต์ที่ลานหน้าบ้าน เสียงคนรับใช้ดังเข้ามา“คุณชาย”
เซิ่งอันหรานผลักประตูห้อง เดินออกไป ยืนอยู่ชั้นบนมองลงไปชั้นล่าง
อวี้หนานเฉิงเพิ่งจะถอดเสื้อคลุม บนตัวมีความรู้สึกหนาว ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวชั้นบนก็เงยหน้าขึ้นมองโดยไม่รู้ตัว พอดีกับที่สบตากับสายตาของเซิ่งอันหราน
สายตาเชื่อมโยงกัน บรรยากาศค่อยๆแข็งตัว
“ทำไมเธอยังอยู่ที่นี่?”
อวี้หนานเฉิงมองเธอด้วยสายตาเย็นชา “ไม่ใช่ให้เธอตื่นแล้วกลับไปไหม?”
ต่อหน้าคนใช้ห้าคน เขาไม่ไว้หน้าเธอแม้แต่นิดเดียว เซิ่งอันหรานจับราวบันได สีหน้าซีดเผือด นานมากจึงกัดฟันพูดออกมา
“ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณ”
อวี้หนานเฉิงสายตาดูถูก หัวเราะเยาะเย้ย“ถ้าหากจะพูดเรื่องซิงซิงน้อย ฉันแนะนำว่าเธออย่าเปิดปากพูดออกมา ในเมื่อนั้นเป็นลูกสาวของฉัน นั่นคือคุณหนูใหญ่ตระกูลอวี้ ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่กับคนอื่นข้างนอก”
“เธอออกจากฉันไม่ได้”เซิ่งอันหรานกัดฟัน สายตามีความเจ็บปวด
“ตั้งแต่เล็กเธอเติบโตอยู่ข้างกายฉัน เธอออกจากฉันไม่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน