ห้องพักในโรงแรมของรีสอร์ต กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยอยู่ในอากาศ
พนักงานถือกะละมังน้ำอุ่นเข้ามา วางบนเก้าอี้ข้างเตียง“คุณเซิ่ง นี้คือน้ำอุ่นที่คุณต้องการ ซุปทำให้หายเมาวางอยู่บนโต๊ะข้างนอก ต้องการให้ยกมาให้คุณไหม?”
“ไม่ต้อง ขอบคุณมาก”
“ไม่ต้องเกรงใจ ต้องการอะไรก็เรียกฉัน”พยักหน้ามองสังเกตคนที่อยู่บนเตียง“งั้นฉันออกไปก่อนนะคะ”
“อืม”
เซิ่งอันหรานนำผ้าขนหนูแช่ลงในน้ำอุ่น บิดน้ำออกวางไว้บนหน้าผากอวี้หนานเฉิง
ตอนเช้ารับเจ้าสาวก็ดื่มเยอะมากแล้ว มิน่าล่ะเมื่อกี้ในงานแต่งไม่เห็นเงาของเขาเพื่อนเจ้าบ่าว เธอคิดว่าบางทีเขาอาจจะหลบหน้าตัวเอง ตอนนี้ดูเหมือน ตัวเองจะคิดมากไปแล้ว
“ความสามารถในการดื่มเหล้าไม่ดี คุณยังจะดื่มอะไรอีก?เกาจ้านในบ้านมีพี่น้องหยอกล้อก็ไม่ช่วย คุณคือยอมสละชีพจริงๆ”
เซิ่งอันหรานบ่นพึมพำ บิดผ้าขนหนู ช่วยเช็ดมือของเขาจนสะอาด
เมื่อกี้ท่าทางของอวี้หนานเฉิงที่นอนเหมือนตายอยู่ในห้องน้ำทำให้เธอตกใจ
ในห้องก็เงียบสงบ อวี้หนานเฉิงเป็นคนเมา จู่ๆก็พูดเสียงบ่นอุบอิบ
“อันหราน…”
การกระทำที่เซิ่งอันหรานเช็ดมือให้เขาหยุดลง
จู่ๆก็ได้ยินเขาพูดหนึ่งประโยค“อย่ากลับมาอีก…”
เธอชะงักไป นานมากก็กระตุกมุมปาก ปรากฏรอยยิ้มหัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง นำผ้าขนหนูทิ้งในกะละมัง ลุกขึ้นเดินออกไป
เวลาที่อวี้หนานเฉิงตื่นขึ้นมา ก็ตอนเย็นแล้ว
ปวดหัวแทบจะระเบิด ขยับเล็กน้อย ผ้าขนหนูบนหน้าผากไหลลงบนหมอน
ในห้องได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา พนักงานยืนหน้าประตู ยิ้มด้วยความดีใจ
“คุณอวี้ คุณตื่นแล้ว”
อวี้หนานเฉิงลุกขึ้น จับหน้าผากที่บวม จำได้ว่าตัวเองดื่มจนเมาแล้ว และมาที่รีสอร์ต หลังจากนั้นเมื่อรู้สึกปวดท้องก็เลี่ยงทุกคนไปเข้าห้องน้ำ หลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้แล้ว
“ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?”
“คุณเมาอยู่ในห้องน้ำ โชคดีที่มีหัวหน้างานนำคุณประคองมาที่ห้องพักผ่อน คุณนอนหลับไปช่วงบ่าย”
อวี้หนานเฉิงยกนาฬิกาข้อมือดูเวลา
หกโมงเย็นแล้ว นอนทั้งช่วงบ่ายแล้ว
“เจ้าบ่าวเจ้าสาวล่ะ?”
“ช่วงบ่ายสามโมงกว่า หลังจากนั้นงานแต่งงานก็สิ้นสุดลงแล้ว เจ้าสาวและเจ้าบ่าวออกเดินทางไปฮันนีมูน เวลานี้น่าจะบินใกล้ถึงแล้วเถอะ”
อวี้หนานเฉิงพยักหน้าอย่างครุ่นคิด เวลาที่ดึงผ้าห่มลงจากเตียง มองเห็นช่อดอกไม้ข้างเตียง สายตาก็เปลี่ยน
“นอกจากพวกเธอหัวหน้างาน ยังมีใครมาส่งฉัน?”
พนักงานชะงักไป “ฉันไม่รู้ชัดเจน ฉันถูกหัวหน้างานส่งให้มาดูแลคุณ หัวหน้างานพูดว่ามีผู้หญิงท่านหนึ่งพบคุณ”
อวี้หนานเฉิงขมวดคิ้ว ไม่ได้ถามอะไรอีก
คงจะไม่บังเอิญขนาดนั้นเถอะ ตัวเองน่าจะฝันไป
เวลาที่ออกจากรีสอร์ต เขาได้รับสายโทรศัพท์จากเกาจ้าน
“นี่ ตื่นแล้วเหรอพี่เฉิง ฉันยังคิดว่านายจะรับโทรศัพท์ไม่ได้แล้ว?”
“มีเรื่องอะไร?”
“ไม่มีเรื่องอะไร ฉันกับจิ้งจิ้งจะขึ้นเครื่องบินแล้ว นึกขึ้นมาได้ว่ามีเรื่องหนึ่งยังไม่พูดกับนาย ก่อนหน้านี้อันหรานให้ฉันกับจิ้งจิ้งบอกนาย เธอนำจิ่งซีส่งกลับไปบ้านผู้อาวุโสแล้ว นายมีเวลาก็ไปรับกลับบ้าน”
“เธอไม่พาจิ่งซีไปแล้ว?”
“น่าจะใช่ พูดว่าเป็นความต้องการของจิ่งซี เด็กอยากจะอยู่กับนาย”
โจวฟังเดินตามอยู่ด้านหลังอวี้หนานเฉิง เที่ยวบินที่จองนั้น เขาก็ขึ้นไปในเครื่องบิน ถูกขัดขวางด้วยพนักงานบนเครื่องบิน ใช้อำนาจบังคับว่าจะหาคนจากในห้องวีไอพี
“คุณผู้ชาย เครื่องจะบินแล้ว คุณไม่สามารถขึ้นไปได้…”
“ฉันมาหาคน”
“ไม่ได้ คุณผู้ชาย แบบนี้ รอให้เครื่องมั่นคงแล้ว คุณสามารถหาคนผ่านการประกาศ..”
ได้ยินประโยคนี้ อวี้หนานเฉิงรีบหมุนตัวเข้าไปในห้องกัปตันทันที
“เครื่องประกาศเสียงอยู่ที่ไหน?”
กัปตันตาสีฟ้าชะงักไป
เขาพูดภาษาอังกฤษอีกครั้ง “เครื่องประกาศเสียงอยู่ที่ไหน?”
กัปตันยังไม่ได้สติกลับมา ก็ชี้ไปที่เครื่องประกาศเสียงโดยไม่รู้ตัว
วินาทีต่อมา เครื่องประกาศเสียงอยู่ในมือของอวี้หนานเฉิง เสียงประกาศของผู้ชายที่เร่งรีบดังก้องอยู่ในห้องโดยสาร
“ขอโทษที่รบกวนทุกท่าน ผมขึ้นมาบนเครื่องบิน ไม่ได้คิดจะไปอเมริกา และไม่มีแผนจะไปที่ไหนในโลกนี้ ผมแค่อยากหาคนคนหนึ่ง คนที่ผมไม่ระวังทำหายไปแล้ว ถ้าหากเธอให้โอกาสผมอีกครั้ง ผมจะรักษาเธอให้มากกว่านี้…”
พนักงานไปที่ประตูห้องกัปตัน มีคนพยายามหยุดการประกาศของอวี้หนานเฉิง แต่ก็ถูกโจวฟังล็อกประตูไว้แล้ว เขากดล็อกประตูห้องโดยสารไว้แน่น จ้องมองกัปตันตาสีฟ้าในห้องโดยสารด้วยความโกรธ บอกใบ้ให้เขาอย่าบุ่มบ่าม
กัปตันยักไหล่ ท่าทางไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น อนุญาตให้อวี้หนานเฉิงประกาศหาคน
“ฉันคิดว่าเคารพความปรารถนาของเธอที่จะปล่อยเธอไปคือถูกแล้ว แต่ว่าวินาทีที่รู้ว่าเธอจะไปแล้ว บนตัวฉันก็รู้สึกไม่สบาย ฉันรู้ว่าครั้งนี้ถ้าให้เธอไปจริงๆ ฉันคงต้องเสียใจไปชั่วชีวิต อันหราน ถ้าหากเธอได้ยินคำพูดนี้ ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ฉันจะขอโทษเธอ ได้ไหม?”
น้ำเสียงหนักแน่น ประกาศทั่วทั้งห้องโดยสารบนเครื่องบิน ผู้โดยสารมองหน้ากันเลิ่กลั่ก กำลังหาคนคนนั้นชื่ออันหราน
แต่สุดท้าย ไม่รอให้ทุกอย่างตอบสนองกลับมา
“ได้”กัปตันเครื่องบินโบกมือไปทางเขา พูดอย่างไม่เสียดาย“ถึงเวลาแล้ว”
เพิ่งจะพูดจบ เขาก็จับไหล่ของอวี้หนานเฉิง กดเขาลงบนเคาน์เตอร์ พูดในเครื่องประกาศเสียง“แจ้งตำรวจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผูกรักท่านประธานพันล้าน