“โอ๊ย! สารเลว! แกปล่อยฉันนะ! แกกล้าทำเรื่องน่าขยะแขยงเช่นนี้กับฉัน ฉันจะฆ่าแกแน่นอน!” ป้าอู๋ร้องออกมาด้วยความตกใจ
เธอคิดไม่ถึงว่า ฉู่เฉินจะกล้าลงมือกับเธอเช่นนี้
เจ้าคนสารเลว!
โครม...
หลังจากนั้นเสียงเสื้อผ้าฉีกขาดดังขึ้นมาจากห้อง พร้อมทั้งเสียงร้องขอชีวิตของป้าอู๋
“ฉู่เฉิน อย่า ฉันขอร้องเจ้าล่ะ ปล่อยฉันไปเถอะ”
อย่างไรก็ตาม หลังจากขอความเมตตาอยู่ครู่หนึ่ง ก็เกิดเสียงต่อสู้ขึ้นมาเป็นระยะ และในช่วงท้ายของการขอความเมตตาของป้าอู๋ ก็กลายเป็นเสียงครวญครางที่ส่งเสียงดัง
ราวกับอารมณ์เร่าร้อนที่ถูกกักเก็บไว้ 20 กว่าปี แค่ครู่เดียวก็ปลดปล่อยออกมา!
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ฉู่เฉินเดินออกมาด้วยหน้าระรื่นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “หากไม่ใช่เพราะป้า ผมคงไม่มีโอกาสอย่างนี้ ดังนั้นวันนี้ผมจะปล่อยป้าไปแล้วกัน รีบไสหัวไปซะ!”
ภายในห้องป้าอู๋นอนร่างเปลือยเปล่าอยู่ที่พื้น เสื้อผ้าถูกฉีกไม่เป็นชิ้นดี ร่างกายเต็มไปด้วยรอยเขี้ยว โดยเฉพาะบั้นท้ายที่เธอภาคภูมิใจนั้นเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือ!
เธอกัดฟันโกรธ เต็มไปด้วยความเคียดแค้น
“ไอ้เดรัจฉาน! แกรังแกฉันแบบนี้ ฉันไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!”
ป้าอู๋สบถออกมารุนแรง ฝืนร่างกายลุกขึ้นมา กลับมีความรู้สึกเจ็บส่งมาจากท้องน้อย
คิดไม่ถึงว่าพรหมจรรย์ที่เธอเฝ้าปกป้องมาสามสิบสามปี จะถูกเศษสวะนั่นมาช่วงชิงไปเช่นนี้
แต่ทว่าเมื่อนึกถึงท่าทางที่น่าเกรงขามของฉู่เฉิน จิตใจของป้าอู๋ก็สั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง
การเป็นผู้หญิงทำไมมันช่างเป็นความรู้สึกที่วิเศษเช่นนี้
เป็นความรู้สึกที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เหมือนความรู้สึกล่องลอยราวกับบินไปบนท้องฟ้า...
หลังจากนั้นผ่านไป ป้าอู๋ก็จัดการตัวเองแล้วกลับไปยังคฤหาสน์ของตระกูลหลิ่ว
หลังจากที่หลิ่วชิงเหอมองเห็นป้าอู๋ได้รับบาดเจ็บก็ตกใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับถามขึ้นมาว่า “แกไปทำอะไรมา ทำไมกลายเป็นสภาพนี้ล่ะ? ฉู่เฉินตายหรือยัง?”
ป้าอู๋ส่ายหัวพร้อมพูดว่า “ไม่ตาย ฉันแพ้ค่ะ”
“อะไรกัน? แกพ่ายแพ้เหรอ? เกิดอะไรขึ้น?” หลิ่วชิงเหอถามด้วยความประหลาดใจ
ป้าอู๋เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังอีกครั้งหนึ่ง และแน่นอนว่าเธอปกปิดเรื่องที่เธอถูกฉู่เฉินล่วงละเมิดเธอไว้
“มันแข็งแกร่งขึ้นเหรอ? แม้แต่แกก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้มัน?” หลิ่วชิงเหอมีสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นสับสน
ผ่านไปสักพัก เธอก็โบกมือพร้อมพูดว่า “แกออกไปก่อนเถอะ ไปรักษาตัวให้หายก่อน”
“ค่ะ คุณผู้หญิง”
ป้าอู๋กล่าวคำลา
หลิ่วชิงเหอนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก ได้เปลี่ยนเสื้อสูทสีดำสำหรับสุภาพสตรีแล้ว ใส่คู่กับเสื้อเชิ้ตสีขาว ตรงทรวงอกมีกระดุมที่ถูกปลดออกอยู่สามเม็ด หน้าอกที่อวบอั๋น ที่แทบจะทะลักออกมา
ส่วนล่างเป็นกระโปรงคลุมสะโพกสีดำ และถุงน่องสีดำบาง ตรงต้นขายังติดมีลูกไม้ติดอยู่ด้วย บนเท้าสวมใส่รองเท้าแตะสีชมพู และเท้าที่ขาวราวกับหยกคู่นั้นที่ถูกปกคลุมด้วยถุงน่องดำนั้น ดูงดงามและชวนหลงใหล
และสิ่งที่ทำให้เหล่าสุภาพบุรุษทั้งหลายโงหัวไม่ขึ้นก็คือ นิ้วเท้าทั้งสิบของเธอยังทาเล็บสีแดงอีกด้วย
“ไอ้สัตว์เดรัจฉานนั่นสมควรตาย ภายในคืนเดียวกลับแข็งแกร่งได้ยังไง?”
หลิ่วชิงเหอพูดอย่างเย็นชาในใจ ขมวดคิ้วอย่างหนัก
“ป้าอู๋ไม่ไหว เห็นทีว่าต้องหายอดฝีมือคนอื่นแล้วล่ะ”
หลิ่วชิงเหอพูดอย่างเย็นชา จากนั้นหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรไปยังหมายเลขหนึ่ง “ช่วยฉันติดต่อยอดฝีมือให้หน่อย ราคาเท่าไหร่ก็ได้ฉันไม่สน!”
“จะทำอะไร?”
“ฆ่าคน!”
ตู๊ด!
ชิงเหอกดวางสาย เอาแต่นึกถึงภาพอัปยศที่ถูกฉู่เฉินข่มเหง เธอได้แต่กัดฟันโกรธ!
ฉู่เฉินเอาเปรียบฉัน ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อ!
......
ทางฝั่งฉู่เฉินหลังจากที่ออกจากบ้านใหญ่ของตระกูลฉู่ก็มาถึงยังเขตเมือง พร้อมทั้งฉันไปยังร้านอาหารร้านหนึ่ง หาตำแหน่งที่นั่งที่ใกล้กับหน้าต่าง และสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ
ในสามปีนี้ เขาได้ทนทุกข์ทรมานจากการทรมานของหลิ่วหรูเยียนทุกวี่วัน ทุกวันคอยกินแต่ของเหลือๆ ที่แม้แต่หมาก็ยังไม่กิน
ในวันนี้ ฉู่เฉินรู้สึกเหมือนเขาได้เกิดใหม่อีกครั้ง แน่นอนว่าเขาต้องกินให้อิ่ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปีศาจหมอเจ้าเสน่ห