ประธานตัวร้ายกับยัยจอมแสร้ง นิยาย บท 7

“แม่หนูหว่านชู หนูอยู่เป็นเพื่อนคนแก่ๆ อย่างฉันที่นี่สักสองวันนะจ๊ะ”

คุณนายฉิงพูดกับเมิ่งหว่านชู

เมิ่งหว่านชูรู้ดีว่าเธอได้ล่วงเกินฉิงมั่วหันเข้าให้แล้ว ทั้งไม่ต้องการก้มหัวให้พวกตระกูลหลีเพื่อพ่อแม่บุญธรรม ดังนั้นเวลานี้จึงทำได้เพียงพึ่งพาคุณนายฉิงแล้ว

อย่างไรเสีย ดูๆ ไปแล้ว คุณนายฉิงก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายกับเธอ

“หนูไม่เข้าใจ ทำไมต้องให้หนูอยู่เป็นเพื่อนด้วย”

“เจ้ามั่วหัน ‘รังแก’ เธอ เขาก็ควรรับผิดชอบสิจ๊ะ เธออยู่ที่นี่สองสามวัน ให้ฉันได้รู้จักเธอมากขึ้นสักหน่อย” 

คุณนายฉิงนึกขึ้นได้ถึงปัญหาที่เมิ่งหว่านชูเป็นกังวล จึงพูดขึ้นว่า “ทางพ่อแม่ของเธอ ฉันได้เชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ดีที่สุดจากต่างประเทศมาดูอาการให้แล้ว จะต้องดีขึ้นในไม่ช้าแน่ๆ จ้ะ”

เมิ่งหว่านชูรู้สึกซาบซึ้งใจมากจนไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณนี้อย่างไร

เธอทำได้เพียงใช้เรื่องที่เธอช่วยฉิงมั่วหันมาปลอบใจตัวเอง ว่าเธอช่วยฉิงมั่วหัน คุณนายฉิงจึงช่วยเหลือพ่อแม่บุญธรรมของเธอ ไม่ติดค้างกัน

“ขอบคุณค่ะ คุณย่า”

เธอขอบคุณจากใจจริง

ระหว่างสามวันนี้ เวลาเช้าเมิ่งหว่านชูจะฝึกไทเก็กเป็นเพื่อนคุณนายฉิง ช่วงสายๆ ก็จะตัดแต่งดอกไม้ในสวน ช่วงบ่ายก็จะทำเค้กหรือเล่นหมากรุกด้วยกัน

เวลาแห่งความสงบสุขมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ

เช้าของวันที่สี่ หลังจากที่ร่วมรับประทานอาหารมื้อช้ากับคุณนายฉิงแล้ว เมิ่งหว่านชูก็เก็บของ เธอลากสัมภาระลงไปชั้นล่างและก้มหัวเล็กน้อยให้กับคุณนายฉิงที่นั่งอยู่บนโซฟา “คุณย่าคะ หนูต้องไปแล้ว ขอบคุณมากค่ะสำหรับการต้อนรับที่แสนอบอุ่น”

คุณนายฉิงลุกขึ้น เดินไปตรงหน้าเธอ และยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่หนูนิสัยร่าเริง เป็นฉันเสียอีกที่รู้สึกอายุน้อยลงไปเยอะเลยเมื่ออยู่กับเธอ”

ต่อหน้าเมิ่งหว่านชูแล้ว คุณนายฉิงไม่ได้แสดงถึงความเป็นนายหญิงเลยแม้แต่น้อย กลับให้ความรู้สึกสนิทสนมราวกับคุณยายเสียมากกว่า

“คุณย่าต้องมีจิตใจที่เป็นสาวไปตลอดกาลสิคะ ฉันไปก่อนนะคะ ลาก่อน”

“อื้อ ถ้ามีเวลาอย่าลืมมาเยี่ยมคนแก่อย่างฉันบ้างนะ”

“เอ่อ...ฮิๆๆ...ได้ค่ะ คุณย่า”

เมิ่งหว่านชูตอบอย่างเขินอาย

จะมาที่นี่ได้อีกหรือไม่ เธอไม่ได้เป็นคนตัดสินใจ

หลังจากออกจากบ้านเก่ามาแล้ว คุณนายฉิงก็ให้คนขับรถไปส่งเธอที่ใจกลางเมืองหลานเฉิง

เมื่อผ่านร้านขายยา เธอบอกคนขับว่า “จอดตรงนี้ด้วยค่ะ ฉันจะลงที่นี่แหละ”

เมื่อรถหยุดสนิท เธอลงจากรถแล้วพูดกับคนขับว่า “คุณอาคะ ฝากขอบคุณคุณย่าด้วยค่ะ”

“ได้ครับ คุณเมิ่ง”

คนขับตอบรับและกลับรถขับออกไป

เมิ่งหว่านชูสะพายกระเป๋าแล้ววิ่งตรงไปที่ร้านขายยา เภสัชกรถามขึ้นทันที “สวัสดีค่ะ ต้องการซื้อยาตัวไหนคะ”

“ช่วยจัดยาคุมฉุกเฉินที่ดีที่สุดให้ฉันกล่องนึงค่ะ”

เมิ่งหว่านชูรีบบอกเภสัชกร

หลายวันมานี้เธออยู่ที่บ้านเก่าตระกูลฉิงมาตลอด เธอไม่มีโอกาสปลีกตัวออกมาซื้อยาได้

เวลานี้เธอออกมาแล้ว แน่นอนว่า เธอต้องรีบซื้อยาและกินโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นหากท้องขึ้นมาก็จะซวยเอา

เภสัชกรหยิบยากล่องหนึ่งยื่นให้เธอ “ยาคุมฉุกเฉินนี้ควรรับประทานภายใน 72 ชั่วโมง ประสิทธิภาพจะดีที่สุด”

เมื่อรับยามาและกำลังจะจ่ายเงิน เธอกลับชะงัก “คุณว่ายังไงนะ 72 ชั่วโมง?” 

“ใช่ค่ะ ยิ่งเร็วยิ่งดี หากเกินสามวันแล้ว กินยาไปก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ”

“แค่สามวัน?”

“ใช่ค่ะ”

เมิ่งหว่านชูนิ่งอึ้ง

จากนั้นก็ก้มหน้าลงดูคำอธิบายข้างกล่อง ที่แท้ก็เป็นยาคุมฉุกเฉินภายใน 72 ชั่วโมง หากเกินกว่านั้นก็ไม่ได้ผลแล้ว

เธอไม่เคยใช้สิ่งนี้ และเข้าใจอย่างไร้เดียงสาว่ายาคุมฉุกเฉินสามารถใช้ได้ภายในหนึ่งสัปดาห์

มิน่าเล่าคุณนายฉิงถึงให้เธออยู่ที่บ้านตระกูลฉิงถึงสามวัน ที่แท้ก็เหตุนี้นี่เอง

เธอคืนยาให้เภสัชกร และเดินออกจากร้านขายยาด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

เธอเดินเรื่อยเปื่อยคนเดียวบนถนน สักพักจึงปลอบใจตัวเองว่า กลัวอะไรไป หากมีเด็กก็เอาออกซะ!

โดยเฉพาะใบหน้านั้น ทั้งโครงหน้าที่สวยงามและเครื่องหน้าที่มีมิติ ดุจงานฝีมือที่สมบูรณ์แบบที่พระเจ้าได้สร้างสรรค์ไว้ งามอย่างไร้ที่ติและน่าตกตะลึง

เมิ่งหว่านชูผู้มีภูมิคุ้มกันต่อชายหนุ่มรูปงานยังอดที่จะชำเลืองมองไม่ได้

“มองพอหรือยัง”

จู่ๆ ชายคนนั้นก็ปิดคอมพิวเตอร์ลงและวางบนโต๊ะ แล้วก็พูดกับเธอทันที

“ใคร ใครมองคุณ”

เมิ่งหว่านชูเบ้ปาก “คิดเองเออเอง”

ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนเสื้อขึ้นไปถึงข้อศอกลุกขึ้นยืนและจ้องเขม็งไปที่เธอ “คุณคิดว่ามีคุณย่าคอยให้ท้ายแล้ว จะกำเริบต่อหน้าผมยังไงก็ได้หรือ”

เมื่อต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล เมิ่งหว่านชูกระเดือกน้ำลายลงคออย่างประหม่า “เปล่า...เปล่า...เปล่าสักหน่อย”

“ขี้ขลาดแล้วหรือ วันนั้นที่บ้านเก่า คุณบอกเองว่าจะอุ้มท้องลูกของผมและแต่งงานกับผมไม่ใช่หรือ” 

ผู้หญิงเวรคนนี้บังอาจมายั่วยุเขา

รนหาที่ตายซะแล้ว

“หึๆๆ”

ใบหน้าของเมิ่งหว่านชูซีดขาว เธอฉีกยิ้มเจื่อนๆ พลางถอยหลังอย่างไม่ตั้งใจ “คุณชายฉิง อย่าโมโหไปเลย วันนั้นฉันก็แค่ล้อเล่น เหอๆ ล้อเล่นค่ะ”

เธอยังคงถอยหนี แต่ฉิงมั่วหันคว้าคอเสื้อเธอเอาไว้ “ฉันฉิงมั่วหันเกลียดการถูกคนข่มขู่ที่สุด ยินดีด้วย เธอทำสำเร็จ”

ปากบอกยินดี แต่เมิ่งหว่านชูกลับเห็นใบหน้าของฉิงมั่วหันเย็นชาราวกับศพคนตายก็ไม่ปาน

เธอตกใจมากจนหัวใจแทบจะพุ่งออกมา “คุณชายฉิง ฉันแค่ล้อเล่นเองค่ะ”

บ้าเอ๊ย น่ากลัวชะมัด

“คุณล้อเล่นหรือไม่ ลำพังแค่ลมปากของคุณไม่อาจพิสูจน์ได้หรอก”

“งั้น...งั้น...งั้นจะพิสูจน์ยังไงล่ะ”

เมิ่งหว่านชูพูดติดอ่างไปหมดแล้วด้วยความตกใจกลัว

ฉิงมั่วหันเลิกคิ้วสีเข้มขึ้น “คุณอยากจะพิสูจน์ว่าสิ่งที่คุณพูดที่บ้านตระกูลฉิงคือการล้อเล่นจริงๆ หรือ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานตัวร้ายกับยัยจอมแสร้ง