แต่พวกเขาก็รังแกกันเกินไปจริงๆ
“เขาไม่อยู่บ้าน ไว้เธอค่อยมาใหม่แล้วกัน”
จ้าวรั่วหลานไม่ต้องการจะพูดมากกับเธอ จึงปิดประตูลง
ดูเหมือนเมิ่งหว่านชูจะคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว เธอชิงผลักประตูและเดินเข้าไปด้านใน
“เมิ่งหว่านชู เธอจะทำอะไรน่ะ รีบออกไปเดี๋ยวนี้!”
จ้าวรั่วหลานโกรธเกรี้ยว
“แม่คะ ใครมาคะ”
หลีอวิ่นเอ๋อร์เดินลงบันไดมาพอดี เมื่อเห็นเมิ่งหว่านชูก็รู้สึกหงุดหงิด “เมิ่งหว่านชู นี่บ้านฉันนะ เธอมาทำไม”
ทั้งๆ ที่เป็นสายเลือดเดียวกัน แต่พวกเขากลับเกลียดเธอ
ในใจของเมิ่งหว่านชูเจ็บปวด แต่สีหน้าของเธอยังคงสงบนิ่ง “ก็ไม่อะไรมากหรอก ฉันแค่มาเอาค่าตอบแทนที่ช่วยชีวิตคุณชายฉิงไว้น่ะ”
คำพูดของเธอทำให้จ้าวรั่วหลานหัวเราะเยาะ “คนที่ช่วยคุณชายฉิงก็คืออวิ่นเอ๋อร์ เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย”
แม้ว่าคนที่นั่งตรงหน้าจะเป็นลูกสาวแท้ๆ ของเธอเหมือนกัน แต่จ้าวรั่วหลานที่มีชีวิตดีๆ ก็ยังรังเกียจเมิ่งหว่านชูที่มาจากบ้านนอกคอกนา
และมักจะรู้สึกว่านังเด็กคนนี้ป่าเถื่อนไร้มารยาท ไม่มีการศึกษา มีแต่นำพาความอับอายมาสู่
หากให้คนนอกรู้ถึงการมีอยู่ของเมิ่งหว่านชู เกรงว่าจะทำลายภาพลักษณ์อันแสนสวยงามที่เธอและอวิ่นเอ๋อร์สร้างขึ้นต่อหน้าสาธารณชน
เมิ่งหว่านชูเหลือบตามองจ้าวรั่วหลาน แล้วชำเลืองมองหลีอวิ่นเอ๋อร์ จากนั้นก็หัวเราะขึ้น “สมแล้วที่เป็นแม่ลูกกันจริงๆ โกหกหน้าตายเหมือนกันเลย เกรงว่ากำแพงเมืองจีนยังหนาน้อยกว่าหน้าพวกคุณอีก”
“เมิ่งหว่านชู หุบปาก!”
หลีอวิ่นเอ๋อร์ตะคอกใส่ เธอไม่ต้องการเห็นเมิ่งหว่านชูอีกจึงหันไปพูดกับจ้าวรั่วหลานว่า “หม่ามี้ เธอต้องการเงิน ก็เอาห้าหมื่นให้เธอ แล้วให้ไปให้พ้นเถอะค่ะ”
“อืม อวิ่นเอ๋อร์พูดถูก” จ้าวรั่วหลานผงกศีรษะ “แม่จะขึ้นไปเอามาเดี๋ยวนี้”
“ในเมื่อตระกูลหลีของพวกคุณไม่ขาดแคลนเงิน งั้นก็เอาหนึ่งร้อยล้านที่คุณชายฉิงให้มาให้ฉันสิ พวกเราจะได้ไม่ติดค้างกันอีกต่อไป” คำพูดของเมิ่งหว่านชูทำเอาคนฟังตกใจ
“เมิ่งหว่านชู เป็นคนอย่าโลภมากเกินไปนะ”
หลีอวิ่นเอ๋อร์ถลึงตาใส่ “พวกเราจะให้เงินเธอเต็มที่แค่แสนเดียวเท่านั้น”
“รีบเอาเงินแสนนี้ออกไปจากหลานเฉิงทันที ส่วนตระกูลฉิง พวกเขารู้แค่ว่าอวิ่นเอ๋อร์เป็นผู้มีพระคุณก็พอ ว่าไปแล้ว เธอบอกว่าเธอเป็นคนช่วยคุณชายฉิง มีหลักฐานไหมล่ะ” จ้าวรั่วหลานเอ่ยถาม
“คุณคิดว่าคุณลบวิดีโอกล้องวงจรปิดและขโมยแหวนไป แล้วฉันจะพิสูจน์ไม่ได้หรือ อย่าลืมว่าในแอพส่งอาหารมีบันทึกไว้ว่าฉันผ่านไปทางนั้นด้วย”
เมิ่งหว่านชูหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเขย่า พลางพูดว่า “แม้ว่าการบันทึกของแอพส่งอาหารจะพิสูจน์ไม่ได้ 100% ว่าฉันเป็นคนช่วยฉิงมั่วหัน แต่หลีอวิ่นเอ๋อร์ไม่มีแม้แต่คำสั่งซื้ออาหารของวันนั้น ฉิงมั่วหันจะไม่สงสัยเลยหรือ แต่ฉันน่ะ ทำดีไม่ได้หน้า แถมยังเลอะเทอะไปหมด แล้วยังไม่ได้ค่าตอบแทนจากคุณชายฉิงอีก ไม่สู้...ช่วยให้หลีอวิ่นเอ๋อร์สมปรารถนาดีกว่า”
อันที่จริง คำสั่งซื้อนั้นส่งไม่ถึงมือลูกค้า ดังนั้นจึงไม่มีทางพิสูจน์ได้เลยว่าเธอผ่านไปที่ถนนเส้นนั้นจริงๆ
นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่เธอไม่ได้ลุกขึ้นมาโต้เถียงตอนที่หลีอวิ่นเอ๋อร์โกหกคำโตต่อหน้าฉิงมั่วหัน
แม้ว่าแอปพลิเคชั่นส่งอาหารจะไม่ใช่หลักฐานที่มากพอ แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้พวก ‘สันหลังหวะ’ ตระกูลหลีตกใจไปตามๆ กัน
“เธอ...”
หลีอวิ่นเอ๋อร์ไม่คิดว่าว่าเมิ่งหว่านชูยังเหลือหมัดเด็ดอีก เธอเกรงว่าเมิ่งหว่านชูจะเปิดโปงเธอต่อหน้าฉิงมั่วหัน จึงเอ่ยถามขึ้นว่า “เธอต้องการเท่าไร”
“เพื่อเห็นที่คุณนายหลีคลอดฉันออกมา ฉันลดให้ 90% แล้วกัน สิบล้านเท่านั้น”
จ้าวรั่วหลานตอบกลับทันที “สิบล้าน? ปัญญาอ่อนเสียจริง”
เมิ่งหว่านชูได้ยินไม่ถนัดนักจึงเอาหูแนบประตูตั้งใจฟัง...
“เมิ่งหว่านชูละโมบโลภมาก ดันมาหน้าตาเหมือนหนูอีก ปล่อยไว้ก็เป็นภัยคุกคาม แถมคุณนายฉิงก็ชอบมันขนาดนั้น ถ้ามีมันอยู่ หนูจะแต่งงานกับฉิงมั่วหันได้ยังไง”
“อวิ่นเอ๋อร์ จะว่าไปแล้ว พวกเราทำให้พ่อบุญธรรมของเมิ่งหว่านชูโดนรถชนจนพิการเพราะจะบีบให้มันบริจาคไขกระดูกให้น้องชายของเธอแล้ว หรือว่าลูกยังอยากจะจัดการกับมันอีก”
“แม่คะ แม่เลอะเลือนใหญ่แล้ว แค่เมิ่งหว่านชูมีชีวิตอยู่หนึ่งวันก็เป็นอุปสรรคสำหรับหนูที่จะแต่งงานเข้าตระกูลฉิงแล้ว นอกจาก...นอกเสียจากแม่จะทำให้มันกลายเป็นผัก!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ เสียงของหลีอวิ่นเอ๋อร์ก็ดังขึ้น เธอร้อนใจแล้ว
เมิ่งหว่านชูที่ยืนอยู่นอกประตูได้ยินคำพูดครบทุกคำไม่มีตกหล่น ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียวสันหลังวาบ รู้สึกเพียงเลือดภายในร่างกายวิ่งพุ่งขึ้นสู่สมอง
สองเดือนก่อน หลีฟู่อานสองสามีภรรยาปรากฏตัวต่อหน้าเธอ บอกว่าจะพาเธอกลับตระกูลหลี แต่ต้องบริจาคไขกระดูกให้น้องชายที่ป่วยเป็นลิวคีเมียเสียก่อน
เพราะไขกระดูของหลีอวิ่นเอ๋อร์และน้องชายไม่เข้าคู่กัน พวกเขาจึงต้องมาหาเธอ
แน่นอนว่าเมิ่งหว่านชูปฏิเสธ
ดังนั้น ประมาณเดือนที่แล้ว หลังจากที่พ่อแม่บุญธรรมเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน หลีฟู่อานสองสามีภรรยาก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง โดยขอให้เธอบริจาคไขกระดูกให้ลูกชายคนเล็กของตระกูลหลี แล้วพวกเขาจะช่วยรักษาพ่อแม่บุญธรรมของเธอให้ฟรีๆ
ในเวลานั้น เมิ่งหว่านชูสงสัยว่าหลีฟู่อานสองสามีภรรยาจะเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุในครั้งนี้
แต่ในท้ายที่สุด เธอคิดว่าอย่างไรพวกเขาก็เป็นพ่อแม่แท้ๆ คงจะไม่ใช้วิธีการโหดเหี้ยมแบบนี้
แต่แล้ว...
ยังคงเป็นเธอที่อ่อนต่อโลก
เมิ่งหว่านชูโกรธจัดจนสั่นไปทั้งตัว เธอจับลูกบิดประตูแน่นและคิดจะพุ่งเข้าไปเผชิญหน้ากับสองแม่ลูก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานตัวร้ายกับยัยจอมแสร้ง