ปริศนารักนัดบอด(จบ) นิยาย บท 2

โม่เซียวรับสายหยุนชีชีด้วยหน้าอ่อนโยนสุดแสน

ถึงแม้โม่เซียวจะอ่อนโยนกับเธอด้วยเช่นกัน

แต่คงจะเป็นเพราะสายตาอันอ่อนโยนของเขา มองดวงหน้าเธอแล้วถวิลหาผู้หญิงอีกคน

มันเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจไป๋ชิงที่สุด

จากวันนั้นถึงวันนี้ เขาไม่เคยเห็นเธอเป็นไป๋ชิงเลยสักครั้ง เขาเห็นเธอเป็นตัวแทนคนอื่นเท่านั้น

บางครั้งเธอจะรู้สึกเกลียดตัวเองที่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกันกับหยุนชีชี

ทั้งๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดเลย

“ไม่ต้องร้อง ผมจะไปเดี๋ยวนี้” เสียงอ่อนโยนของโม่เซียวดังขึ้น เขาวางสายเสร็จก็มองไปยังไป๋ชิงที่นอนอยู่ด้านข้าง “เดี๋ยวผมจะให้จ้าวเถิงพาคุณไปโรงพยาบาลนะ”

ไป๋ชิงตะลึง พลางบ่นกับเขาว่า “คุณไม่เชื่อฉันหรือเนี่ย?”

“อืม ไม่เชื่อ” โม่เซียวตอบอย่างไร้หัวใจ

ไป๋ชิงเม้มริมฝีปากที่เหมือนลูกเชอร์รี่อันสวยงาม แสงสว่างในนัยน์ตาจางหายทันที “ฉันรู้แล้วค่ะ”

“คุณเร่งเวลาไปคุยกับคุณย่าด้วยนะ” โม่เซียวเอ่ยด้วยใบหน้าเย็นชา

“ช่วงนี้คุณย่าไม่ค่อยสบาย คุณแน่ใจน่ะว่าจะให้ฉันพูดตอนนี้?” ไป๋ชิงจับจ้องใบหน้าหล่อที่สุดแสนเย็นชาของเขา

“อืม ชีชีรอไม่ไหวแล้ว” โม่เซียวเอ่ยเสียงราบเรียบ

หยุนชีชีรอไม่ไหว เขาเลยไม่สนใจว่าคุณย่าจะเป็นตายร้ายดียังไงงั้นเหรอ

ตรงกับคำที่ว่า หากรักหมดใจแล้วจะไม่สนใจญาติโกโหติกาอะไรทั้งนั้น

ไป๋ชิงรู้ว่าตัวเองแพ้แล้ว

แต่ไม่คิดว่าจะแพ้ราบคาบขนาดนี้

“ค่ะ” ไป๋ชิงพยักหน้าหงึกๆ “แต่คุณจะรีบแค่ไหนก็ต้องให้เวลาฉันสามวันหรือเปล่า”

“ได้” โม่เซียวกล่าวด้วยความเย็นเยียบ “หวังว่าคุณจะไม่ทำให้ผมผิดหวังนะ”

“ไม่หรอก” ไป๋ชิงยิ้มจนชวนให้สงสาร “ฉันในฐานะเมียของคุณ เคยทำให้คุณผิดหวังไหมล่ะ?”

โม่เซียวอึ้งไปชั่วขณะ

เธอพูดถูก

แต่งงานมาสามปี เธอไม่เคยทำให้เขาผิดหวังเลย เธอทำได้ดีหมดทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง

เธอจะสนองทุกความต้องการ ทุกลีลาเด็ดของเขา ลำพังจุดนี้ เขาก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย

“แบบนั้นก็จะดีมากเลย” โม่เซียวหมุนกายเข้าไปเปลี่ยนเสื้อในห้องแต่งตัว

ไป๋ชิงในผ้าหุ่มนั่งเหม่อลอย

จะจบแล้วจริงหรือ?

ถึงเธอจะไม่เต็มใจ แต่เธอรู้ดีว่าเธอไม่มีสิทธิ์เลือก

หลังจากที่โม่เซียวออกไป

ไป๋ชิงก็ลุกขึ้นจากเตียง

เธออาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ใส่กระโปรงตัวสวย เตรียมตัวจะไปเข้าพบคุณย่าโม่

ทว่าเธอพึ่งก้าวเท้าออกจากห้องก็เห็นจ้าวเถิงเสียแล้ว

ไป๋ชิงเอามือกอดอก ใบหน้างามจ้องจ้าวเถิงอย่างไม่สบอารมณ์ “ทำอะไรหนะ?”

จ้าวเถิงรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ

คุณนายท่านนี้ยากแท้หยั่งถึงจริงๆ

เธออยู่ต่อหน้าท่านประธานโม่ ก็จะทำตัวเป็นกระต่ายน้อยที่แสนเชื่อฟัง น่ารักและอ่อนโยน

แต่ต่อหน้าเขา เธอก็จะเหมือนคิตตี้ในมาดดุร้าย

“ประธานโม่ให้ผมพาคุณไปตรวจร่างกายครับ” จ้าวเถิงอธิบาย

“เหอะ!” ไป๋ชิงเอ่ยอย่างหัวเสีย “เขาไม่เชื่อฉันเลยเหรอ”

จ้าวเถิงไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อดี

“ไปที่โรงพยาบาลเหรินซิน” ไป๋ชิงเสนอชื่อโรงพยาบาล

คือเอกชนที่ดีที่สุดในเมืองหลวงแห่งนี้ มีอุปกรณ์ด้านการรักษาและแพทย์ผู้ชำนาญการที่สุดของประเทศ

จ้าวเถิงเอาแต่ยืนนิ่ง ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่

“ทำไม กลัวแพงเกินเหรอ?” ไป๋ชิงถามเสียงเย็นเยียบ

“ไม่...ไม่ใช่ครับ” จ้าวเถิงเลิ่กลั่ก คิดคำอธิบายไม่ออก “เชิญครับคุณนาย”

“หนูอาจจะต้องหย่าค่ะ คือหนูอยากเก็บลูกไว้ แต่สามีหนูคงไม่ยอม หนูเลยอยากให้คุณน้าช่วยหนูหน่อยค่ะ” ไป๋ชิงอ้อนวอน

“เหลวไหลกันใหญ่แล้ว” หวางชิงเมิ่งทั้งกรุ่นโกรธและสงสาร “การที่ผู้หญิงหลังหย่าต้องเลี้ยงลูกคนเดียว มันลำบากมากเลยรู้ไหม?”

ไป๋ชิงหลุบตาลง “หนูรู้ค่ะคุณน้า แต่หนูยังมีเงิน หนูเลี้ยงลูกได้ค่ะ”

“ไม่เกี่ยวหรอกว่าจะมีตังค์หรือไม่มีตังค์” หวางชิงเมิ่งอนาทรร้อนใจ “สามีของหนูเป็นใคร หนูเคยบอกว่าหนูแต่งงานแล้ว แต่ก็ไม่ยอมบอกว่าแต่งกับใคร ตอนนี้หนูบอกน้าเลยนะ ตกลงใครเป็นสามีของหนู เขาคิดว่าพ่อแม่หนูไม่อยู่แล้ว จะรังแกกันได้ง่ายๆ เหรอ?”

“คุณน้าหวางไม่รู้จะดีกว่า” ใบหน้าเล็กอันขาวผ่องของไป๋ชิงไม่ได้แสดงอารมณ์มากนัก “ก่อนที่หนูจะแต่งกับเขา หนูก็รู้ว่าต้องเป็นแบบนี้แล้วค่ะ เขาหย่ากับหนู หนูก็โทษอะไรไม่ได้ ดังนั้นคุณน้าหวางช่วยหนูด้วยเถอะค่ะ ถ้าหย่ากับเขาแล้ว หนูจะไปจากที่นี่”

ไม่ไปไม่ได้ ไม่งั้นโม่เซียวจะรู้ความจริงเข้าสักวัน

หวางชิงเมิ่งเห็นแล้วก็ทุกข์ใจ

เพราะไป๋ชิงไร้ญาติ ไร้คนหนุนหลัง อีกฝ่ายจึงข่มเหงรังแกเช่นนี้

“ชิงชิง ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ขอให้คุณหญิงโม่ช่วยสิ ท่านเห็นหนูเป็นหลานสาวแท้ๆ เลยนี่” หวางชิงเมิ่งไม่รู้สายสนกลใน “แล้วโม่เซียวคนนั้นก็เห็นหนูเหมือนน้องสาวแท้ไม่ใช่เหรอ เขาต้องช่วยหนูแก้เผ็ดผู้ชายคนนั้นแน่”

ไป๋ชิงหลบสายตาหมอ “คุณน้าหวางคะ เรื่องนี้หนูขอความช่วยเหลือจากตระกูลโม่ไม่ได้ค่ะ คุณน้ารับปากหนูเถอะนะคะ?”

หวางชิงเมิ่งเลิกคิ้วด้วยสีหน้าซับซ้อน “ก็ได้จ้ะ หนูนอนลง น้าจะตรวจดูก่อน”

“ค่ะ”

เมื่อทำการตรวจเสร็จสรรพ

หวางชิงเมิ่งดันแว่นตัวเอง ก่อนจะเอ่ยว่า “ตั้งครรภ์แปดสัปดาห์แล้ว แต่หนูมีภาวะเลือดจางนิดหน่อย ต้องกินของบำรุงเยอะๆ นะ”

“หนูเกิดก่อนกำหนดค่ะ สุขภาพจึงแย่แต่เกิด” ไป๋ชิงตอบอย่างช่วยไม่ได้

“แล้วสามีหนูไม่รู้เหรอ?” หวางชิงเมิ่งถามเสียงเข้มขรึม

“เขาไม่เคยถาม และหนูก็ไม่เคยบอกเขาค่ะ” ไป๋ชิงรู้สึกเศร้าหมอง

ถึงแม้โม่เซียวจะให้เธอใช้จ่ายเต็มที่ แต่เขาไม่เคยถามสารทุกข์สุขดิบ สั่งให้คุณน้าในบ้านจัดการแทน

เขาแค่รับผิดชอบด้านเงินเท่านั้น

หวางชิงเมิ่งทอดถอนใจหนึ่งเฮือก จากนั้นก็ยื่นเอกสารใบหนึ่งให้เธอ “นี่คือสิ่งที่หนูต้องการ คิดให้ดีๆนะ”

ไป๋ชิงมองผลตรวจในมือ ริมฝีปากแดงยกโค้งขึ้น “มันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่หนูค่ะ ระหว่างหนูกับเขา คำพูดของเขาถือเป็นคำขาดค่ะ”

ระหว่างที่พูด เธอลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกไป

หวางชิงเมิ่งเรียกเธอ “ชิงชิง หรือสามีของหนูคือ...”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปริศนารักนัดบอด(จบ)