สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 297

เมื่อเธอตั้งคำถามนี้ขึ้นมา เธอเชื่อว่าไม่ว่าพี่ชายคนไหนต่างก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง

แต่พี่ใหญ่ก็คือพี่ใหญ่

ลั่วจวินหังครุ่นคิดครู่หนึ่งและถามเธอว่า "ใครพูดอะไรกับเธอ?"

"เฉียวเหลิ่ง"

หนานซ่งไม่ปกปิดพี่ใหญ่

ลั่วจวินหังถามอีกครั้ง "เขาพูดว่าอะไร?"

“ฉันบันทึกเสียงไว้ ฉันจะส่งให้พี่ฟัง”

หนานซ่งปาดน้ำตา เธอบันทึกเสียงบันทึกและส่งไปให้ลั่วจวินหังจากนั้นเธอก็ฟังมันด้วย

สันนิษฐานว่าพี่ใหญ่ฟังจบแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า "ใช่ไหม? ฉันไม่ได้เข้าใจผิดใช่ไหม? เขากำลังพูดว่าพ่อและแม่ของฉันยังไม่ตาย ใช่ไหม?"

ตอนนี้จิตใจของหนานซ่งอ่อนแอมาก เธอต้องการใครสักคนมาบอกเธอว่าพ่อแม่ของเธอยังไม่ตาย

หนานหนิงซ่งและลั่วอินยังไม่ตาย!

"ซ่ง ใจเย็นหน่อย"

ลั่วจวินหังเอ่ยด้วยน้ำเสียงลุ่มลึกและเยือกเย็น "คำพูดของเขาคือ---มีชีวิตอยู่หรือไม่ฉันไม่รู้ แต่ฉันไม่ได้ฆ่าพวกเขา"

เขาหยุดไปชั่วขณะและพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนว่า "เขากำลังซื้อใจเธอ"

หัวใจของเธอร่วงหล่นลงไปถึงตาตุ่ม

ไม่ง่ายเลยที่หนานซ่งจะมองเห็นแสงสว่าง แต่สุดท้ายเธอก็กลับจมสู่ความมืดมิดอีกครั้ง

เรี่ยวแรงในขณะนั้นของเธอได้สูญสิ้นไปจนหมด

แต่อย่างไรก็ตามเธอจะไม่ยอมแพ้

"แล้วถ้าหากว่าเป็นไปได้ล่ะ?"

สีหน้าของหนานซ่งเย็นชา "ถ้าร่างทั้งสองที่ถูกไฟไหม้ในรถเมื่อสามปีก่อนไม่ใช่ร่างของพวกเขาล่ะ เผื่อว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่..พี่ใหญ่ ช่วยให้ความหวังฉันหน่อยเถอะ!"

เธอหลับตาลง น้ำตารินไหลลงมาอย่างไม่ขาดสาย ร่างกายของเธอไร้ซึ่งแรงกำลัง แม้แต่โทรศัพท์เธอก็ไม่อาจจะคว้ามันไหว

เมื่อโทรศัพท์กำลังจะร่วงหล่นจากฝ่ามือ เสียงของลั่วจวิ้นเหิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง

เขาพูดว่า "ฉันจะส่งคนไปตรวจสอบ"

"ตรวจ ตรวจสอบ!"

ในที่สุดเรี่ยวแรงของหนานซ่งก็ฟื้นคืน "ถึงแม้จะมีความหวังริบหรี่ เราก็ยอมแพ้ไม่ได้ใช่ไหม!"

เธอเริ่มรู้สึกกระตือรือร้น

"ใช่"

เสียงลั่วจวินหังนุ่มนวลจนไม่อาจอธิบายได้ จากนั้นเขาเอ่ยถามว่า "เฉียวเหลิ่งโทรหาเธอ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?"

หนานซ่งตอบอย่างเชื่อฟัง "ระหว่างทางกลับบ้านสวนกุหลาบ"

"อีกนานแค่ไหนกว่าจะถึง?"

หนานซ่งเหลือบมองนอกกระจกรถ "ประมาณห้านาที"

"โอเค"

ลั่วจวินหังเอ่ยอีกว่า "หลังจากนี้ไป เธอไม่ต้องพูดอะไรแล้ว สงบสติอารมณ์"

"อื้อ"

หนานซ่งตอบรับและรีบเอ่ยว่า "พี่ใหญ่ พี่อย่าวางสาย!"

ลั่วจวินหัง "อืม ไม่วาง"

หลังจากที่เขาพูดจบ หนานซ่งก็จำได้ว่าเขาดูเหมือนจะยังอยู่ในที่ประชุม "ช่างเถอะ พี่รีบไปจัดการธุระเถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้"

"ห้านาที ยังมีเวลาอยู่"

เสียงของลั่วจวินหังนั้นแผ่วเบา แต่มันทำให้ผู้คนมีความสงบในใจอย่างไม่อาจอธิบายได้ "พี่ใหญ่จะอยู่เป็นเพื่อนเธอ"

หนานซ่งย่นจมูกของเธอ "อื้ม"

เธอเอนตัวพิงเบาะนั่ง หน้าต่างที่แตกร้าว เป็นช่องว่างที่ทำให้ลมเย็นพัดเข้ามาและจิตใจของเธอก็ค่อยๆสงบลง

"พี่ใหญ่" เธอเอ่ยอย่างอ้อนๆ "ฉันอยากได้ยินพี่เล่นเปียโน"

ลั่วจวินหังตอบรับทุกคำขอ “ตกลง”

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงเพลงเปียโนที่นุ่มนวลก็ค่อยๆดังขึ้นจากปลายสาย เมื่อได้ฟังสัมผัสได้ทั้งความเงียบและความเศร้า

ชีวิตหนานซ่งไม่สมบูรณ์ตั้งแต่ยังเล็ก เธอเป็นคนที่ไม่ชอบเสียงเพลง แต่กลับชอบและจำเสียงเปียโนเพลงนี้ได้ ชื่อเพลงว่า TheSoundofSilence เป็นเพลงแรกที่พี่ชายของเธอเล่นให้เธอฟัง

ในตอนนั้นเธอยังเด็กมาก เธอถูกพี่สองและพี่เล็กกลั่นแกล้ง เธอไม่อาจจะชนะพวกเขาได้ เธอตกลงไปในบ่อและกระโปรงใหม่ของเธอก็เปื้อนดินโคลน

เธอร้องไห้เอาแต่ใจ ร้องไห้ไม่หยุด พี่เล็กเกือบจะคุกเข่าลงและอ้อนวอนไม่ให้เธอร้องไห้

พี่ใหญ่อุ้มเธอไว้และให้เธอนั่งลงข้างเปียโน จากนั้นเขาก็เล่นเปียโนให้เธอฟัง เมื่อเธอได้ฟัง เธอก็หยุดร้องทันที

มีความเจ็บปวดไหนบ้างที่เสียงเปียโนของพี่ใหญ่ไม่สามารถจัดการกับมันได้?

ลั่วจวินหังเล่นเปียโนให้เธอฟังตลอดทาง เป็นเวลาราวๆห้านาที

จนกระทั่งกู้เหิงเอ่ยกับเธอว่า "ประธานหนาน ถึงสวนกุหลาบแล้ว"

จากนั้นเสียงเพลงก็ได้หยุดลง

หนานซ่งชำเลืองมองกู้เหิงและพูดอย่างไม่พอใจ "ให้เวลาฉันอีกสักนาทีหนึ่งมันจะเป็นอะไรไป ขี้งกเสียจริง"

เธอตักขนมปังชิ้นสุดท้ายเข้าปาก จิบน้ำผลไม้และพูดกับกู้เหิง "หลังจากพิธีเปิดวันนี้ นายก็เลิกงานได้เลย พาหลินหลินออกไปเที่ยวหน่อย"

กู้เหิงไม่ได้คาดหวังว่าเจ้านายจะมีพระคุณได้มากถึงเพียงนี้ เขารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก

ระหว่างทางไปฟาร์มม้า ข่าวในกลุ่มก็ได้อัพเดทอย่างไม่หยุดหย่อน

หนานซ่งขมวดคิ้ว หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเห็นกลุ่มพี่น้องของเธอนั้นคึกคักเป็นอย่างมาก

อันดับแรกพี่สี่จี้อวิ๋นได้มอบแหวนหมั้นให้กับเฉิงเซี่ยนในช่วงเช้า แหวนเงินแบบเรียบหรู แต่เพราะว่าทั้งสองนั้นนิ้วเรียวยาวจึงทำให้ดูงดงามมาก

เหล่าพี่ๆต่างก็ได้แสดงพฤติกรรมที่ไม่ดี ต่างก็เหม็นความรัก จากนั้นทุกคนก็มอบคำอวยพร

หนานซ่งส่งข้อความ:[รอดื่มไวน์งานฉลองของพวกพี่]

หลังจากนั้น พี่สามเฮ่อเซินก็ส่งรูปช่อดอกไม้ลงในกลุ่ม

ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูด ไป๋ลู่ยวี๋ก็แย่งตอบว่า:[พี่สาม ช่วงนี้ไม่มีงานถ่าย ว่างมากจนต้องขายดอกไม้ลงในกลุ่มเลยเหรอ?]

พี่สามอารมณ์ดีและเพิกเฉยต่อเขา

[เตรียมเก็บช่อดอกไม้ให้แฟน ฉันมาที่ร้านดอกไม้เพื่อเลือกดอกไม้ พวกนายคิดว่าอันไหนดีที่สุด? การลงคะแนนเสียงเริ่มต้นขึ้น]

พี่เล็ก :[ฉันเลือกข้อ 2 แน่นอนว่าฉันต้องเลือกกุหลาบแดงให้แฟน]

พี่สี่ :[เห็นด้วย]

พี่สอง :[ผู้หญิงของฉันบอกว่าดองกุหลาบแดงเชยเกินไป ข้อ3 ดอกกุหลาบสีชมพูงดงามที่สุด]

พี่สาม :[น้องหก เธอว่าไง? @เสี่ยวซ่ง]

น้องหก :[ข้อ3แล้วกัน]

เฮ่อเซินตัดสินใจทันที :[งั้นก็3]

พี่เล็ก :[มองบน งั้นจะถามพวกฉันทำไม ถามน้องหกไปก็จบแล้ว!]

พี่สาม :[ควรจะทำอย่างไรก็ต้องทำอย่างนั้น ถามพวกนายก็เพื่อเลี่ยงคำตอบที่ผิดพลาดยังไงล่ะ]

พี่เล็ก :[มองบน]

พี่สี่ [มองบน]

มุมปากของหนานซ่งเผยรอยยิ้มที่มีความสุข เหล่าพี่น้องของเธอนี่คือความสุขของเธอจริงๆ

เดิมทีคิดว่าเธอจะต้องต่อสู้เพียงลำพังในวันนี้ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเมื่อเธอมาถึงฟาร์มม้า เหล่าทวยเทพก็ได้มาถึงแล้ว ฟู่ยวี่กำลังหาวอย่างเกียจคร้าน

ยวี่จิ้นเหวินแต่งตัวสบายๆ เขาสวมเสื้อแขนสั้นสีขาวและกางเกงขายาวสีดำและหมวกกันแดดสีขาวบนศีรษะของเขา

เขายืนท่ามกลางแสงแดด

และส่งรอยยิ้มให้กับเธอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา