สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 451

เพราะว่าคำพูดนั้นของยวี่จิ้นเหวิน เสิ่นหลิวซูถึงได้ยืนอยู่ท่ามกลางความมืดอยู่นานสองนาน จากนั้นถึงค่อยกลับไป

ใคร ๆ ต่างก็พูดกันว่าเขาคือคนที่ประสบความสำเร็จ แต่ว่าพอถึงวัยกลางคนเขาก็ถูกภรรยาหอบลูกหนีไป นับเป็นคนที่ประสบความสำเร็จด้านไหนกัน?

หัวใจของเสิ่นหลิวซูปวดหนึบ พอเขาเดินไปที่รถ อยู่ ๆ ก็เกิดปวดขึ้นมาอีก เขาเกาะที่ประตูรถแล้วเอามือขึ้นมากุมหน้าอกเอาไว้ ใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีซีด

คนขับรถลงมาจากรถ เพื่อที่จะเข้ามาช่วยพยุงเขา "คุณผู้ชาย ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?"

เขาโบกมือ ใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่ถึงจะหายจากความเจ็บปวดนั้นได้ ริมฝีปากซีดของเขาขยับ "ไม่เป็นไร คงจะทำอะไรเกินตัวมากไปหน่อย ก็เลยเหนื่อย"

หลังจากที่ขึ้นรถ เขาก็พิงตัวแล้วนั่งหลับตา อยู่อีกครู่หนึ่ง จากนั้นถึงได้หยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดเครื่อง

สายที่ไม่ได้รับจากโจ๋เยว่ มีประมาณสิบกว่าสาย

ใบหน้าของเสิ่นหลิวซูเผยสีหน้ารำคาญออกมา เขากดล็อกหน้าจอ แต่ว่าโทรศัพท์ของเขาก็เกิดดังขึ้นมาอีก ครั้งเป็นคุณหมอฟังจากโรงพยาบาลที่โทรเข้ามา

คิดอยู่แป๊บหนึ่ง เขาก็เลือกที่จะกดรับสาย

หลังจากที่รับสายเรียบร้อยแล้ว ท่าทีของเขาก็ยังคงนิ่งเฉยดังเดิม เขาบอกกับคนขับรถว่า: "ไปโรงพยาบาล"

หลังจากที่ไปถึงโรงพยาบาล เห็นได้ชัดว่าโจ๋เยว่นั้นผ่านการร้องไห้มา ดวงตาทั้งสองข้างของเธอแดงก่ำ มีแววตาหวาดกลัวแล้วก็น้อยใจ แล้วก็ยังได้เห็นความอ่อนแอที่ไม่ได้เห็นจากเธอมาหลายปีอีกด้วย

ไม่ใช่ที่เธอเล่นละคร แต่เป็นความอ่อนแอจริง ๆ

อย่างไรเสียก็เป็นผู้หญิงที่อยู่กับเขามาตั้งหลายปี ให้พูดว่าไม่ผูกพันเลยก็ดูจะโกหก ยิ่งไปกว่านั้นเด็กในท้องของเธอก็คือลูกของเขา

เสิ่นหลิวซูเดินไป ยื่นมือไปลูบใบหน้าเธอเบา ๆ ราวกับกำลังปลอบใจ

โจ๋เยว่ไม่พูดอะไรออกมา เธอน้ำตาไหลเงียบ ๆ ร้องไห้ต่ออย่างไร้เสียง

"ทำไมถึงร้องไห้จนกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?"

มือที่อยู่บนใบหน้าของเธอหยุดขยับ ในใจของเขาก็เกิดคิดเรื่องบางอย่างขึ้นมาทันที "หรือว่าลูก......"

สายตาของเขาเบนไปมองหน้าท้องของเธอ เห็นว่ามันยังคงนูนอยู่เหมือนเดิม หัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้น

"ไม่ใช่!" โจ๋เยว่รีบบอกออกมาทันที เป็นจังหวะที่แพทย์ที่ประจำตัวเดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยพอดี เพื่อเรียกเสิ่นหลิวซูให้ไปคุยถึงอาการของเธอด้านนอกห้อง

"หญิงตั้งครรภ์จะมีอารมณ์ที่ไม่มั่นคง เพราะฉะนั้นอาจจะมีภาวะซึมเศร้าระหว่างการตั้งครรภ์ได้ง่ายมาก จะต้องคำนึงถึงสภาวะร่างกายของเธอในตอนนี้ด้วย แล้วยิ่งเป็นผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ตอนอายุเยอะ ๆ อีก เพราะเดิมทีการตั้งครรภ์ก็เป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงมากอยู่แล้ว ให้ดีที่สุดก็คืออย่าขัดใจเธอ จะต้องเอาใจเธอหน่อย ถ้าเกิดเธอต้องการอะไร หรือว่ามีอาการงอน งอแง เอาแต่ใจ ก็ขอให้พยายามตามใจเธอ"

เสิ่นหลิวซูรับฟังอย่างนอบน้อม และในตอนสุดท้ายก็ต้องพยักหน้ารับคำแนะนำของคุณหมอ

ตอนค่ำของคืนนี้ เขาขึ้นไปนอนบนเตียง แล้วกอดโจ๋เยว่เอาไว้

โจ๋เยว่พลิกตัวลำบาก ก็เลยต้องฝืนพิงศีรษะของตัวเองเอาไว้กับไหล่ของเขา แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลต่อไป

เริ่มจากบอกเขาเรื่องความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขาในช่วงหลายปีมานี้ แล้วต่อด้วยการบอกว่าความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาไม่เคยเปลี่ยนไป "ฉันรู้ ว่าคนอย่างฉัน ถ้าไปอยู่ในสังคมคือคนที่ทุกคนจะเข้ามารุมต่อว่ารุมตบตีว่า 'เมียน้อย' แต่ฉันเองก็มาจากครอบครัวที่ดี แล้วก็ไม่ใช่คนที่ร้ายตั้งแต่กำเนิด แค่ดันมาชอบผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว แต่ว่าฉันรักคุณจริง ๆ จะให้ฉันทำยังไงล่ะ? ฉันไม่เคยคิดจะทะเลาะหรือแย่งกับพี่เจียวเลย แต่เป็นเธอต่างหากที่ไม่ยอมรับฉัน ไม่ยอมให้อภัยฉัน ถ้าฉันยังยอมต่อไป ฉันไม่ต้องสละชีวิตของฉันเพื่อให้เธอหยุดหรือยังไงกัน?"

และหลังจากนั้น เธอก็เริ่มพูดถึงสิ่งที่เธอกังวล "ฉันรู้ ว่าคนที่หวนหย่าไถมีท่าทีเหมือนเคารพฉัน เรียกฉันว่า 'ภรรยาผู้อำนวยการเสิ่น' แต่ว่าแท้ที่จริงแล้วก็ไม่มีใครมองว่าฉันเป็นภรรยาผู้อำนวยการเสิ่นจริง ๆ ฉันไม่เคยต้องการชื่อเสียงหรือหน้าตา สำหรับฉันแล้วของพวกนั้นคือของปลอม ฉันโดนด่ามาตั้งหลายปี ฉันยังจะต้องสนใจเรื่องพวกนั้นอีกเหรอ? แต่ว่า พวกเราก็ต้องนึกถึงลูกของพวกเราด้วยสิ 'หน้าที่ของพ่อแม่ คือการเลี้ยงลูกให้ดี' ฉันไม่อยากให้ลูกที่ฉันดูแลมาอย่างดี ต้องกลายเป็นลูกนอกสมรส ที่ไร้เกียรติไร้ชื่อเสียง ต้องโดนคนอื่นต่อว่า อาซู เข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดไหม?"

เสิ่นหลิวซูนอนอยู่ตรงนั้น เขาลืมตามองฝ้าเพดาน

ในข่าวบอกว่าโจ๋เยว่นั้นไปที่คฤหาสน์เก่าตระกูลยวี่เพื่อไปเยี่ยมคุณหญิงยวี่เฟิ่งเจียว แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทั้งสองคนเกิดทะเลาะกัน ทำให้เธอนั้นมีความเสี่ยงที่จะแท้ง

พอข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ถูกค้นหาจนขึ้นเป็นการค้นหาที่ร้อนแรงทันที มีชาวเน็ตปล่อยเรื่องราวความรักที่ทั้งสองคนทะเลาะกันเพราะแย่งผู้ชายคนเดียวกันออกมา

หลายปีมานี้โจ๋เยว่โลดแล่นอยู่ในหน้าจอทีวีอยู่บ่อย ๆ แล้วเธอก็แสดงภาพลักษณ์ที่ดีสูงส่งให้คนอื่นได้เห็น ทำให้ได้รับความนิยมจากคนในประเทศเป็นจำนวนมาก มีแฟนคลับกลุ่มใหญ่ ที่ออกมาปกป้องเธอ ก่นด่าลูกสาวคนโตของตระกูลยวี่ว่าทำร้ายคนท้อง ทำให้โจ๋เยว่เป็นเหมือนกับคนดีที่มักจะถูกคนนิสัยไม่ดีทำร้าย จนทำให้เธอนั้นจัดการเรื่องต่าง ๆ เองไม่ได้ ได้เห็นแล้วก็รู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ

เวลาเช้าตรู่ พอได้เห็นข่าว ยวี่เจียหางกับยวี่เจ๋ออวี่ก็โมโหจนทนไม่ได้ต้องเริ่มด่าคนไปทั่ว

"เธอไม่รู้เรื่อง เธออ่อนแอ? โลกใบนี้ไม่มีใครร้ายไปกว่าเธออีกแล้ว โอเคไหม? เด็กน้อยพวกนี้ไม่มีตาหรือยังไงกัน?"

"ไหนจะมาว่าคุณป้าของเราใช้อำนาจในการรังแกคนอื่นอีก แต่เกิดว่าพวกเราใช้อำนาจในการรังแกคนอื่นจริง ตอนนี้พวกเสิ่นหลิวซูกับโจ๋เยว่ก็คงไม่ได้อยู่สุขสบายดีแบบนี้หรอก คงจะตายไปตั้งนานแล้ว!"

ทั้งสองคนผลัดกันด่าคนละคำ แต่หนานซ่งกลับไม่ใช่คนที่ชอบพูดมาก นิ้วทั้งสิบนิ้วกำลังพิมพ์อะไรบางอย่างลงแป้นพิมพ์

"พี่หนาน กำลังทำอะไรอยู่น่ะครับ?" ยวี่เจียหางกับยวี่เจ๋ออวี่ขยับเข้าไปใกล้เธอ

หนานซ่งพูดออกมาด้วยใบหน้าไม่พอใจ "การกระทำในครั้งนี้ของโจ๋เยว่ เป็นการกระทำที่น่าสะอิดสะเอียนของคนขี้แพ้ที่ชอบเปิดศึกก่อน เธอจ้างคนมาด่าน้ายวี่ ถือโอกาสว่าใครเป็นคนเริ่มก่อนจะได้เปรียบ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะลืมไปแล้ว โลกอินเทอร์เน็ตมีการบันทึกไว้ตลอด เรื่องชั่ว ๆ พวกนั้นที่เธอเคยทำเอาไว้ พวกเด็กน้อยนี่ไม่รู้ ฉันก็จะทำให้พวกเขารู้! เธอจ้างคนมาด่า เราเองก็จ้างคนไปด่าได้เหมือนกัน ฉันจะด่าให้เธอตายไปเลย!"

"ใช่! ใครทำอะไรก็สมควรจะได้รับแบบนั้น ด่าเธอไปเลย!" ยวี่เจียหางกับยวี่เจ๋ออวี่เอ่ยสมทบแล้วเริ่มด่าทอ

แต่ไม่ไกลนักกลับมีเสียงดังขึ้น

"พวกเธอไร้สาระมากรู้ไหมเนี่ย?"

หนานซ่งเงยหน้าขึ้น เห็นว่ายวี่จิ้นเหวินกำลังพาลั่วอินกับหนานหนิงซงเข้ามาด้านใน ด้านหลังยังมีพี่เขยคนที่สี่ เฉิงเซี่ยนเดินตามเข้ามาด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา