หวังผิงเข้าไปอ้วกในห้องน้ำอยู่นาน ตอนที่ออกมาหน้าซีดไปหมด
เฮ่อเสี่ยวเหวินหันหน้าไปมองเขาอย่างเห็นใจ แล้วพูดกับพวกหนานซ่ง “เห็นแล้วยังล่ะ เป็นแบบนี้แหละ ตั้งแต่ที่ผลตรวจออกมา เขาก็เริ่มอ้วกไม่หยุด ทั้งเวียนหัวทั้งคลื่นไส้ ฉันคิดว่าเขาเป็นอะไร ก็เลยพาเขาไปตรวจที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าเขาแพ้ท้องแทนภรรยา ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจ”
ลั่วอินหัวเราะน้องชาย “ผู้หญิงตั้งครรภ์ ผู้ชายไม่มีทางแพ้ท้อง เขาน่าจะมีความตึงเครียดวิตกกังวลทางจิตใจที่เกิดจากปัจจัยทางจิตวิทยา เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง ตอนที่ฉันท้องน้องเล็ก อ้วกหนักมาก อาซงก็อ้วกพร้อมกับฉัน บางครั้งอ้วกหนักกว่าฉันอีก ฉันคิดว่าดีซะอีก ให้พวกเขาได้รับรู้ถึงความยากลำบากของผู้หญิงบ้าง”
หวังผิงนั่งเม้มปากไม่พูดไม่จาอยู่ข้างเฮ่อเสี่ยวเหวิน เฮ่อเสี่ยวเหวินก็ไม่พูดอะไร แต่แววตาคู่นั้นเผยความในใจ: ฉันก็คิดว่าเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
ยวี่จิ้นเหวินฟังจบดวงตาเป็นประกาย เขาบีบมือของหนานซ่ง “ถ้าอาการแพ้ท้องสามารถถ่ายโอนกันได้ก็ดีสิ พวกผู้ชายหนังหนา ทนทาน”
“ไม่ได้ ฉันไม่ทนทาน”
ไป๋ลู่ยวี๋ยกมือขึ้นแสดงความคิดเห็น
ทุกคนมองไปทางเขา ลั่วอินตบท้ายทอยของเขา แล้วพูดอย่างโมโห: “นายหาเมียให้ได้ก่อน ค่อยคิดถึงเรื่องทนทานไม่ทนทานเถอะ”
ไป๋ลู่ยวี๋: “...”
“เป็นโสดเพราะมีเหตุผล” หนานซ่งเหลือบมองไป๋ลู่ยวี๋ “พี่เล็ก พี่ต้องปรับปรุงความเป็นลูกผู้ชายของพี่หน่อย ไม่อย่างงั้นคงจะต้องใช้ชีวิตคนเดียวตลอดไป”
ไป๋ลู่ยวี๋ไม่อยากฟังแล้ว “พูดมั่ว พี่เล็กของเธออยู่ข้างนอกเป็นที่แย่งชิงของทุกคนเหอะ เพียงแต่ครอบครัวของเราเก่งเกินไป เก่งจนกลายเป็นอะไรไปแล้ว...”
เขาคับข้องใจ
แต่ละคนหล่อและดีเลิศขนาดนี้ไม่ว่า แถมยังเป็นพวกลุ่มหลงความรักอีก
ไป๋ลู่ยวี๋ถอนหายใจ เขากินอาหารหมามาตั้งแต่เด็ก หนานหนิงซงกับลั่วอินแสดงให้พวกเขาเห็นว่าการเป็น “คู่รัก” คืออะไร พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ใหญ่ขยายความให้พวกเขาเห็นว่ารักแท้หน้าตาเป็นยังไง เวลาสั้น ๆ แต่วิจิตรตระการตา...เขายึดหลัก “ขาดดีกว่าเกิน” มาโดยตลอด เชื่อว่าความรักสุดท้ายก็ต้องเกิดขึ้น เพียงแต่อาหารอร่อย ก็ไม่กลัวว่าจะช้า
ด้านนอกฝนตก ทุกคนรวมตัวกันอยู่ในห้องเดียว ทำให้อากาศอบอ้าวมาก
ลั่วจวินหังและเหยียนยวนอยู่ในห้องยังไม่ออกมา หนานซ่งและคนอื่น ๆ ไม่กล้าไปรบกวน หนานซ่งพาเฮ่อเสี่ยวเหวินไปที่ห้องของตัวเอง สองเพื่อนสาวแอบคุยกัน
ไป๋ลู่ยวี๋หิวแล้ว เขาลงไปทานอาหารด้านล่าง
ยวี่จิ้นเหวินเล่นหมากรุกเป็นเพื่อนหนานหนิงซงอยู่ที่ข้างหน้าต่าง
ลั่วอินกลับดึงตัวหวังผิงไว้แล้วถามเขา “ต่อไปนายจะวางแผนยังไง? จะแต่งงานกับเสี่ยวเหวินเมื่อไหร่?”
หวังผิงพูดอย่างเรียบเฉย “ไม่รีบร้อน”
“ยังไม่รีบร้อนอีก?” ลั่วอินรู้สึกว่า “ฮ่องเต้ไม่รีบร้อนขันทีร้อนใจจนตาย” เธอถลึงตามองเขา “ลูกก็มีแล้ว นายอยากจะท้องก่อนแต่งเหรอ?”
ถึงแม้หวังผิงกับเฮ่อเสี่ยวเหวินจะเคยแต่งงานกันมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนี้เด็กในท้องของเสี่ยวเหวินคือลูกของหลานอวี้...แค่ก ๆ คนที่เข้าใจก็คงเข้าใจ
หวังผิงมองดูลั่วอิน ดวงตาสีน้ำตาลเข้มแฝงไปด้วยความอ่อนโยน
“พี่ ผมไม่อยากให้เฮ่อเสี่ยวเหวินคิดว่า เป็นเพราะเด็กในท้องของเธอถึงได้แต่งงานกับเธอ ผมอยากแต่งงานกับเธอ เป็นเพราะเธอมีค่า”
ลั่วอินเข้าใจความหมายของเขา “นายคิดว่า ขาดช่วงเวลาที่เหมาะสม? หรือว่านายคิดว่าความรักของพวกนายยังไม่มั่นคง?”
“ทั้งสอง”
หวังผิงหยุดนิ่ง เม้มปาก จากนั้นก็พูดขึ้น “ตอนนี้เธอยุ่งมาก ยุ่งจนไม่มีเวลาให้ผม ผมรู้สึกว่าในใจของเธอ ผมไม่ได้สำคัญขนาดนั้น”
“???”
เห็นเธอเข้าใจความหมายผิด เฮ่อเสี่ยวเหวินก็รีบพูด: “เด็กไม่มีปัญหา แข็งแรงมาก แต่ฉันนี่แหละที่มีปัญหา”
หนานซ่งมึนงง “เธอมีปัญหาอะไร?”
เฮ่อเสี่ยวเหวินถอนหายใจเบา ๆ “ตอนนี้ฉันคิดเยอะมาก หลัก ๆ คือกลัวว่าเกิดลูกออกมาฉันจะเลี้ยงรอดไหม เด็กสมัยนี้ไม่ได้เลี้ยงง่ายเหมือนกับพวกเราเมื่อก่อน เพียงแค่ป้อนข้าวป้อนน้ำก็มีชีวิตรอด เด็กสมัยนี้มีคุณค่ามาก อีกอย่างเธอเกิดเขามาพาเขามาถึงโลกนี้ต้องรับผิดชอบต่อเขา ต้องให้ความรักเพียงพอกับเขา แถมยังต้องให้สิ่งของพอเพียงกับชีวิตเขา ต้องเลี้ยงดูเขาให้สุขภาพสมบูรณ์เป็นคนดี...นี่เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย ฉันกำลังคิดว่า ฉันจะทำได้จริง ๆ เหรอ? ฉันจะเป็นแม่ที่ดีได้จริง ๆ เหรอ?”
นี่คิดเยอะ...ไปหน่อยจริง ๆ
หนานซ่งฟังถึงปมปัญหาออกแล้ว “เธอคิดถึงแต่ตัวเอง งั้นพ่อของเด็กล่ะ? ลูกเป็นของพวกเธอสองคน เธอคงไม่ได้คิดที่ทิ้งพ่อเก็บลูกไว้หรอกนะ?”
เฮ่อเสี่ยวเหวินส่ายหน้า แล้วตบท้องเบา ๆ
“ทิ้งพ่อเก็บลูก ฉันก็ต้องมีความสามารถในการเลี้ยงดูเขาถึงจะได้”
เธอเงยหน้ามองหนานซ่ง “ฉันยังไม่ได้เจรจากับพี่อวี้ถึงเรื่องของลูก ถ้าหากเขาเลี้ยงได้ ฉันก็จะเกิด ถ้าหากเขาไม่อยากได้ ฉันก็ต้องคิดให้ดี ว่าจะเก็บลูกเอาไว้ หรือจะเอาออก ถ้าเก็บไว้ ฉันอาจจะต้องหาพ่อให้เขาอีก”
เฮ่อเสี่ยวเหวินครุ่นคิด จู่ ๆ ก็หัวเราะเยาะตัวเอง “ตั้งท้องแล้วแต่งงาน พ่อคนนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ คงต้องพึ่งพาตัวเองแหละ ตอนนี้เกลียดตัวเองที่ไม่มีความสามารถพอ เงินก็ไม่พอ”
ถึงตอนนี้ฉันจะมีงานพากย์เสียง แต่เงินเดือนแค่นี้เลี้ยงตัวเองให้รอดก็ยังลำบากเลย ไม่ต้องพูดถึงเลี้ยงลูกเลย
ช่วงนี้หลายบริษัทมาหาเธอให้เธอไปเป็นพิธีกรถ่ายทอดสด ก่อนหน้านี้เนื่องจากภูมิหลังครอบครัวและสถานะของหวังผิงจึงไม่เคยคิดที่จะทำงานหน้าฉาก แต่ตอนนี้ยุคอินเทอร์เน็ต เน็ตไอดอลหาเงินได้ง่ายมาก ถ้าหมดหนทางจริง ๆ เธอก็คงไม่สนอะไรเยอะแยะแล้ว ศักดิ์ศรีอะไร ก็เทียบกับเงินไม่ได้
หนานซ่งฟังเฮ่อเสี่ยวเหวินพึมพำอยู่นาน เธอยังอยากเก็บลูกไว้ แต่การวางแผนของเธอทั้งหมด เป็นความคิดของ “แม่เลี้ยงเดี่ยว” ทั้งหมด
คุณอาทำอะไรอยู่กันแน่!
มัวชักช้าต่อไป อาสะใภ้ไม่เพียงแค่ “ทิ้งพ่อเก็บลูก” แม้แต่พ่อของเด็กก็จะเปลี่ยนคนแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...