สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 884

ได้ยินคำตอบของซูอิง ทุกคนเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง

ทุกคนมองไปทางลั่วอิน ใช้สายตาถามเธอว่าควรจะทำยังไง

ลั่วอินเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้น: “ดูจากเหตุการณ์ความเป็นมาก็พอให้อภัยได้ เสี่ยวซูพูดถูก ถ้าเป็นฉัน ฉันก็ไม่สามารถรับพ่อที่จากตัวเองไปตั้งแต่เด็ก มู่โจวไม่ได้รับผิดชอบใด ๆ การเติบโตมาของเสี่ยวซู บทบาทของเขาในฐานะพ่อได้หายไป เป็นธรรมชาติที่ไม่มีสิทธิ์ที่จะให้เสี่ยวซูรับเขาเพราะมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด เรื่องนี้เขาเตรียมใจไว้แล้ว พวกเราก็เคยคุยกับเขาแล้ว”

หนานหนิงซงพยักหน้าอยู่ข้าง ๆ แล้วมองไปทางเฮ่อเซิน “ใช่ ลูกไม่ต้องมีความกดดันอะไร พวกเรายืนอยู่ข้างเสี่ยวซูแน่นอน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเธอ ถ้าหากการรับเป็นพ่อลูกคือการทำร้ายเธอ งั้นก็ไม่ต้องให้เธอรับรู้ ทางด้านมู่โจว เดี๋ยวพวกเราไปคุยเอง”

“แต่ว่าอาจารย์มู่ป่วยขนาดนั้น จะมีชีวิตได้อีกนานแค่ไหน?”

เฮ่อเซินจำแววตาอ้อนวอนและจริงใจในสายตาของมู่โจวที่มองมาที่เขาได้ เหมือนกับได้เห็นดวงตาของซูอิง เขารู้สึกกลัดกลุ้มใจ “ผมไม่อยากให้เสี่ยวซูรู้สึกเสียใจเกี่ยวกับเรื่องพ่อ กัวโฮวทำร้ายเธอ ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยได้รับความรักของพ่อ นี่ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่ต้องการ อีกอย่างอาจารย์มู่ไม่ใช่ว่าไม่รับเธอ เขาก็เป็นผู้เสียหาย”

หนานซ่งถอนหายใจในใจ

พ่อลูกคู่นี้เป็นคนน่าสงสารที่ถูกพรหมลิขิตกลั่นแกล้ง ไม่มีใครผิด แต่สถานการณ์กลับกลายเป็นแบบทุกวันนี้ รับรู้แต่ยอมรับกันไม่ได้ พี่สามอยู่ตรงกลาง เขารู้สึกลำบากใจเป็นพิเศษ

“ไม่อย่างงั้นก็เอาแบบนี้” ยวี่จิ้นเหวินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยปากพูด: “ให้อาจารย์มู่ในฐานะครอบครัวของน้าฟางไปเยี่ยมพี่สะใภ้สามและลูก แค่ไปดูเฉย ๆ ไม่พูดอย่างอื่น แบบนี้ได้ไหม?”

ในฐานะที่เป็นนักเรียน ยวี่จิ้นเหวินรู้สึกสงสารอาจารย์จริง ๆ ไม่อยากให้เขาตายไปด้วยความเสียใจ

ลั่วอินพยักหน้า “อาจิ้นคิดเหมือนกับแม่เลย น้องสาม ลูกว่ายังไง?”

เฮ่อเซินค่อย ๆ พยักหน้า

***

เช้าวันรุ่งขึ้น มู่โจวจัดการตัวเองเรียบร้อย

“ฉันเป็นยังไงบ้าง?” เขายืนมองซ้ายมองขวาอยู่หน้ากระจก

กู้ฟางพูด: “หันมาให้ฉันดูหน่อย”

มู่โจวหันตัวไป พยายามยืดตัวตรงต่อหน้ากู้ฟาง เขาเชื่อฟังมากเหมือนกับเป็นนักเรียน

กู้ฟางเดินเข้าไปจัดแจงเนกไทให้เขา แล้วยิ้ม: “หล่อมาก”

มู่โจวลูบหัว แล้วถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ: “จริงเหรอ?”

“เอ๊ย อย่าไปจับ กว่าจะจัดแจงทรงผมได้ไม่ง่ายเลย ถูกคุณจับจนยุ่งอีกแล้ว”

กู้ฟางจับมือของเขาออก กำลังจะกำชับเขาสักหน่อย ด้านล่างก็ได้ยินเสียงดังขึ้น

“พวกเสี่ยวซ่งมาถึงแล้วเหรอ?”

กู้ฟางมองออกไปทางหน้าต่างก็เห็นหนานซ่งกับยวี่จิ้นเหวินลงจากรถ

หน้าประตูมีรถบรรทุกขนาดใหญ่จอดอยู่ หนานซ่งกับยวี่จิ้นเหวินเข้ามาในลาน ก็ถามกู้ฟาง “น้าฟางคะ หน้าประตูทำไมถึงมีรถบรรทุกจอดอยู่? จะย้ายบ้านเหรอ?”

“ไม่ใช่จ้ะ”

กู้ฟางพูด: “ในรถคือของที่เหล่ามู่ซื้อให้ซูอิงกับลูก”

หา?”

หนานซ่งกับยวี่จิ้นเหวินมองดูรถบรรทุกยาวคันนั้น บนหัวเกิดเครื่องหมายคำถามขึ้น ของใส่เต็มกันรถเลยเหรอ

พวกเขาเดินไป คนขับรถบรรทุกเปิดประตูหลังออก ก็เห็นด้านในอัดแน่นไปหมด ขอใช้แม่ลูกมากมาย หนานซ่งกับยวี่จิ้นเหวินถลึงตาราวกับแผ่นดินไหว นี่มันโกดังเหรอ?

มู่โจวโชว์ให้พวกเขาเห็นอย่างตื่นเต้น “หลายวันมานี้ฉันกับน้าฟางไปเดินห้างสรรพสินค้าใหญ่หลายแห่ง ไม่รู้ว่าซื้อของครบไหม เปลนี้กว่าฉันจะเลือกได้ พวกเธอดูสิ มันไม่เพียงแต่แกว่งซ้ายขวาได้ แถมยังดันไปหน้าหลังได้ ด้านบนยังมีดวงดาว เปิดไฟก็สว่างแล้ว เจ๋งไหม! เดิมทีฉันจะเอาผลงานท้องฟ้าเต็มดาวของแวนโก๊ะแขวนไว้ด้วย แต่ถูกน้าฟางห้ามไว้ บอกว่าอย่าทำให้เด็กตกใจ จะตกใจได้ยังไง? พรสวรรค์ทางศิลปะต้องปลูกฝังตั้งแต่อายุยังน้อย...”

ขณะพูด มู่โจวก็อดไอขึ้นมาไม่ได้ “ยังมีแพมเพิสพวกนี้ ไม่รู้ว่าพอไหม พนักงานพูดว่าใช้ครึ่งปีน่าจะพอใช้อยู่ ฉันยังทำบัตรช้อปปิ้งใบหนึ่งที่นั่น เติมเงินแล้วด้วย ถ้าใช้ไม่พอโทรให้ที่ร้านมาส่งของให้ถึงที่บ้าน ตอนนี้สะดวกสบายจริง ๆ! แค่กแค่กแค่ก...แล้วก็ยังมีเสื้อผ้าเด็กรองเท้าเด็ก น่ารักมาก ๆ เลย!”

มู่โจวประหม่าจนถูหัวเข่าตัวเองตลอดทาง กางเกงแทบจะถูกเขาถูจนขาดแล้ว เมื่อลงจากรถก็ยิ่งประหม่าจนแทบจะหายใจไม่ออก เขารีบสวมผ้าปิดปาก แล้วถามอย่างเป็นกังวล “ฉันคงไม่แพร่อาการป่วยให้ลูก ๆ หรอกนะ? เดี๋ยวฉันต้องอยู่ห่างจากพวกเขาหน่อย พวกเขาจะได้ไม่ต้องมีอาการป่วย...”

เขาบ่นพึมพำ

เฮ่อเซินเห็นรถบรรทุกใหญ่คันนั้น ก็ตกตะลึงครู่หนึ่ง หนานซ่งขยับเข้าไปใกล้บอกว่าอาจารย์มู่เตรียมให้พี่สะใภ้กับลูก เฮ่อเซินรู้ดี แต่ก็ยังรู้สึกโศกเศร้า

ซูอิงยืนอยู่ที่บันไดรอพวกเขา เพราะว่าโดนลมไม่ได้ บนหัวยังพันผ้าไว้ กู้ฟางเข้าไปกอดเธอ “ออกมาทำไม? รีบเข้าไปเร็ว”

“ค่ะ”

ซูอิงตอบรับ แล้วยิ้มให้กับมู่โจวที่อยู่ด้านหลังจากนั้นก็พยักหน้า “สวัสดีค่ะอาจารย์มู่”

มู่โจวตะลึงอยู่กับที่ ใช้เวลานานกว่าจะตอบกลับ เขารีบพยักหน้า “ดี ดี”

ซูอิงรู้สึกว่าท่าทางของเขาแปลกประหลาด ในฐานะนักแสดงมีความรู้สึกไว มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในสายตาของผู้คนและการแสดงออกเพียงเล็กน้อย ซูอิงแอบรู้สึกว่าครั้งนี้ที่กู้ฟางกับมู่โจวมาเยี่ยมเธอเพราะมีเรื่องอะไร แต่เธอไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วเชิญพวกเขาเข้าไป

เฟิงเอ่อร์กำลังนอนอยู่ เท้าน้อย ๆ ข้างหนึ่งยกสูงขึ้น ท่าทางนั้นเหมือนกับจะบิน

ทุกคนยืนล้อมเปลเด็ก รู้สึกว่าถูกเจ้าตัวน้อยน่ารักมาก

มีแต่มู่โจวที่ใส่ผ้าปิดปาก ยืนอยู่ไกล ๆ เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะยื่นหน้ามองมาทางนี้

“อาจารย์มู่เป็นอะไรคะ กลัวเด็กเหรอคะ?” ซูอิงถามอย่างสงสัย

มู่โจวรีบโบกมือ “ไม่ ไม่กลัวเด็ก ฉันกลัวว่า...กลัวว่าเด็กจะเหม็นเอา”

“ดูอาจารย์พูดเข้า จะเป็นไปได้ยังไงคะ เฟิงเอ่อร์ไม่กลัวคนค่ะ อาจารย์มาดูสิคะ”

มู่โจวจะปฏิเสธคำพูดของลูกสาวได้ยังไง เขาพยายามระงับอาการไอ แล้วขยับเข้าไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง เขามองดูเด็กทารกที่นอนอยู่บนเตียงน้อย เขายิ้มหรี่ตา รู้สึกหัวใจแทบจะละลายแล้ว

ซูอิงมองดูมู่โจว เธอรู้สึกว่าดวงตาและคิ้วของเขาคุ้นตามาก จากนั้นก็ก้มหน้ามองเฟิงเอ่อร์ ขนคิ้วดกดำเรียวยาวนั้น แทบจะเหมือนกัน...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา