ด้วยความดูแลเอาใจใส่ของยวี่จิ้นเหวิน ช่วงตั้งท้องหนานซ่งพึงพอใจเป็นอย่างมาก ทั้งครอบครัวประคบประหงมเธอเหมือนสมบัติ สิ่งของมีคมทุกอย่างในสวนกุหลาบถูกกำจัดทิ้งหมด ทุกที่ที่เธอเดินผ่านถูกปูด้วยพรมหนา ๆ แม้กระทั่งลั่วอินที่ปกติเมื่อไม่สบายใจก็จะต้องโต้เถียงกับเธอก็ยังอดกลั้นไว้
ตอนที่คันปาก เธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดกับตัวเอง: ฉันไม่เอาพิมเสนแลกกับเกลือ
อันที่จริงคุณนายลั่วอยากจะพูดว่า: ช่วงแรกสบายหน่อย ช่วงหลังเธอลองดู
สามเดือนแรกผ่านไปได้ด้วยดี หนานซ่งกินอย่างเอร็ดอร่อย เธอคิดว่าตั้งครรภ์ก็ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว ไม่ได้ร้ายแรงเหมือนที่ทุกคนพูดไว้ ลำพองใจได้ไม่กี่วัน อาการก็มาแล้ว กระเพาะปั่นป่วน กินอะไรก็อ้วกออกมา
ช่วงนี้เธอหลงรักเป็ดย่าง แต่ละวันไม่ได้กินสักตัวก็จะไม่พอใจ วันนี้ผลปรากฏว่าเป็ดย่างเพิ่งยกขึ้นโต๊ะ หนานซ่งได้กลิ่น ก็รู้สึกคลื่นไส้ เธอยังไม่ทันที่จะไปห้องน้ำ ก็อ้วกในถังขยะแล้ว
ที่บ้านกักตุนเป็ดเป็นสิบตัว ถูกลั่วอินแจกให้คนอื่นหมด
ลั่วอินพูดกับยวี่จิ้นเหวินที่น่าสงสาร: “นี่แค่เริ่มต้น ตอนนี้กินอะไรได้ก็รีบกิน อีกสักพักคงไม่อยากกินอะไรเลย”
ไม่ต้องพูดถึงคนที่มีประสบการณ์มาก่อน คุณนายลั่วพูดออกมา ด้านหนานซ่งสถานการณ์นับวันยิ่งเลวร้ายขึ้น
ตอนแรกแค่ไม่ชินกับกลิ่นเนื้อ คนที่ขาดเนื้อไม่ได้ก็เริ่มกินมังสวิรัติ ภายหลังแม้แต่ผักก็ไม่อยากกินแล้ว จึงกินผลไม้ หลังจากนั้นผลไม้วางอยู่ตรงหน้าก็ไม่อยากกินแล้ว แต่ละวันแทบจะอ้วกเป็นสิบรอบ
สามเดือนแรกกว่าจะอ้วนขึ้นมาได้ เวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนน้ำหนักลดลง ผอมลงเป็นอย่างมาก
ท้องค่อย ๆ เด่นชัดขึ้น
ยวี่จิ้นเหวินเห็นภรรยาทรมาน เขารู้สึกสงสารมาก เขาโทรถามคุณอา ด้านหวังผิงสถานการณ์ก็คล้าย ๆ กัน ช่วงนี้เฮ่อเสี่ยวเหวินอาเจียนหนัก สองวันก่อนยังบ่นว่าจะออกไปทำงาน ช่วงนี้สงบลงแล้ว
เพื่อแสดงถึงความห่วงใยที่มีต่อลูกสาวของตระกูลเฮ่อ เดิมทีพวกเขาอยากให้เฮ่อเสี่ยวเหวินรอคลอดที่คฤหาสน์ตระกูลเฮ่อ เพราะว่าทางฝ่ายตระกูลหวังไม่มีแม่สามีคอยดูแล เฮ่อเสี่ยวเหวินปฏิเสธ ถ้าหากเธออยู่ที่ตระกูลเฮ่อ จะต้องโมโหทุกวันแน่ ๆ เธอไม่อยากให้ลูกในท้องต้องกินความโมโหของเธอทุกวัน หลังจากเจรจากับหวังผิง จึงจ้างพี่เลี้ยงมาหนึ่งคน
พี่เลี้ยงสกุลหลิว เมื่อก่อนเคยดูแลแม่ของเธอ เธอเป็นคนละเอียดอ่อน และก็เชื่อถือเธอได้
หลังจากเฮ่อเสี่ยวเหวินกับหวังผิงแต่งงาน เธอจิตใจสงบลงเยอะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะออกไปทำงานแล้วรู้ว่าชีวิตยากลำบากแค่ไหน หรือเป็นเพราะลูกในท้องถึงได้เข้าใจคุณค่าชีวิต สรุปคือเปลี่ยนไปอ่อนโยนสุขุมขึ้นเยอะ เมื่อก่อนยังชอบถกเถียงกับหวังผิง ตอนนี้เชื่อฟังราวกับลูกแกะน้อย
ปากก็หวานกว่าเมื่อก่อนเยอะ สาวแซ่บเปลี่ยนเป็นสาวหวาน เรียก “สามี” “สามี” ไม่หยุด
เมื่อก่อนหวังผิงไม่รู้จักคำว่า “บ้าน” มาก่อน สำหรับเขาบ้านก็คือที่ที่สะอาดและรกร้างว่างเปล่า แต่ตอนนี้หลังจากถึงบ้าน เมื่อเข้าประตูก็ได้กลิ่นหอมลอยมาจากห้องครัว เห็นรูปพรีเวดดิ้งที่แขวนบนผนัง ในห้องรับแขกก็ยังมีคุณนายที่นอนดูโทรทัศน์อยู่ เมื่อเห็นเขาเข้าประตูมาก็พุ่งเข้ามาหอมแก้มเขา เรียกเขา “สามี” จากนั้นก็ดูโทรทัศน์ต่อ
ในบ้านมีกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิต
เฮ่อเสี่ยวเหวินก็ยุ่งมากหลังจากตั้งครรภ์ เธอยุ่งอยู่กับการติดตามละคร ฟังทอร์คโชว์ ฟังละครวิทยุ และช้อปปิ้งในไลฟ์สดดัง ทุกครั้งที่หวังผิงเลิกงานกลับบ้านก็เห็นพัสดุกองเต็มหน้าบ้าน เฮ่อเสี่ยวเหวินไม่ใช่ว่ากำลังแกะพัสดุ ก็กำลังรอแกะพัสดุ ห้องเก็บของเต็มไปด้วยของที่เธอซื้อจนไม่มีที่ให้เดิน
ผู้หญิงชอบช้อปปิ้ง เรื่องนี้หวังผิงได้รับบทเรียนจากตัวลั่วอินมาตั้งนานแล้ว เขาไม่มีทางถามคำถามน่าเบื่อไร้สาระพวกนั้นว่า “ทำไมซื้อของเยอะแยะขนาดนี้” แน่นอนว่าเป็นเพราะซื้อแล้วมีความสุข
ผู้หญิงของตัวเองสามารถใช้เงินซื้อความสุขได้ นี่เป็นต้นทุนที่ต่ำที่สุดแล้ว ทำไมถึงไม่ตามใจ?
*
ข่าวที่หนานซ่งตั้งครรภ์ ข้ามมหาสมุทร ก็ยังถึงหูของซ่งซี
“ตั้งครรภ์?”
ซ่งซีหัวเราะเย็นชา “เทวดาไม่ยุติธรรมจริง ๆ ฉันเกือบตายแล้ว หนานซ่งกลับมีทุกอย่าง ตอนนี้แม้แต่ลูกก็มีแล้ว เธอมีสิทธิ์อะไรกันแน่นะ? พูดอีกอย่างก็แค่เลือกเกิดเก่งกว่าฉันแค่นั้นแหละ”
เหยาอวี้ที่ถูกบังคับให้ทำงานถือถุงยา พูดขึ้น: “การเลือกเกิดเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งก็จริง แต่ประสบการณ์ชีวิตจะดีจะร้ายใครสามารถตอบตรงได้นะ? ฉันเกิดมาอย่างดี แต่โชคร้ายถูกพวกเธอลักพาตัวมาที่นี่ อีกอย่างตั้งครรภ์เกี่ยวอะไรกับความยุติธรรมไม่ยุติธรรมของเทวดา ถ้าหากเธอไม่หาเรื่องใส่ตัว เธอก็มีลูกได้”
นั่นก็คือห้องแถวชั้นสามด้านซ้ายของตึกหลักของปราสาทเป็นของหนานซ่งน้องสาวของลั่วจวินหัง
เธอเคยเข้าไปครั้งหนึ่ง ห้องแถวถูกทุบเป็นห้องชุดเดียว มีคนเก็บกวาดอยู่ตลอด ถึงหนานซ่งจะไม่อยู่ เสื้อผ้าเครื่องประดับก็ถูกเปลี่ยนใหม่อยู่บ่อย ๆ คนใช้ที่เป็นคนทำความสะอาดยิ้มแล้วพูด: “คุณหนูมาที่ปราสาทไม่บ่อย แต่ที่นี่ถูกเตรียมไว้ให้เธอตลอด เป็นคุณนายที่สั่งไว้ คุณนายกับคุณหนูสนิทกันมากที่สุดแล้วค่ะ”
เหยียนซีได้ฟัง สีหน้าเย็นชา “เหรอ? งั้นฉันก็ยิ่งใหญ่มากสินะ”
คนรับใช้เห็นคุณนายไม่มีรอยยิ้มเหมือนเมื่อก่อน เธอจึงไม่กล้ายิ้มแล้ว จากนั้นก็เก็บกวาดเงียบ ๆ
อันที่จริงไม่ใช่แค่หนานซ่ง ปราสาทเวทมนตร์มีห้องมากมาย ลั่วจวินหังก็เก็บห้องไว้ให้แม่และพวกน้องชาย เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้ชายที่ให้ความสำคัญกับครอบครัว ในใจของเขาครอบครัวสำคัญมาก
เช่นนั้นภรรยาของเขา ก็สำคัญเหมือนกันไหม?
เหยียนซีมองตัวเองในกระจก ไม่เข้าใจว่าปัญหาเกิดขึ้นตรงไหน
ลั่วจวินหังตามใจเธอมาก แต่สี่เดือนแล้ว เขาไม่เคยขึ้นเตียงกับเธอเลย ทำไมนะ?
“คุณชายคะ” คนรับใช้ทักทายอย่างสุภาพ แล้วเดินออกไป
ลั่วจวินหังปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูห้อง เมื่อเข้าห้องมาก็สบตากับดวงตาอ่อนโยนของเหยียนซี “คุณกลับมาแล้วเหรอคะ?”
เธอเดินเข้าไปต้อนรับเขา แล้วถอดเสื้อผ้าบนตัวเขาออก “ด้านนอกฝนตกอีกแล้วเหรอคะ?”
ลั่วจวินหังไม่ตอบเธอ เพียงแต่พูดขึ้นมาประโยคหนึ่ง
“แคทเธอรีน เหมยตายแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...