“เหมยเหนียงเหนียง ท่านร้องไห้ทำไม ข้าทำให้ท่านโกรธหรือเปล่า”
เสี่ยวหนานเฟิงกะพริบตาคู่โตสีดำขลับ มองดูเหมยชิงเกอด้วยสีหน้างุนงง
เหมยชิงเกอรีบยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำตา
“จะเป็นไปได้อย่างไร จ้าวเอ๋อร์เป็นเด็กดีขนาดนี้ เหมยเหนียงเหนียงต้องชอบเจ้าอยู่แล้ว เป็นเพราะเหนียงเหนียงสุขภาพดีขึ้น ในใจมีความสุขมาก”
จู่ๆ เสี่ยวหนานเฟิงก็แสดงท่าทีเข้าใจ ยกมือเล็กๆ ขึ้นแล้วพูดว่า “ข้ารู้แล้ว เหนียงเหนียงร้องไห้ด้วยความดีใจ!”
เหมยชิงเกอมองไปที่เสี่ยวหนานเฟิงด้วยความประหลาดใจ
“เรื่องนี้แม่ของเจ้าก็สอนเจ้าหรือ”
เสี่ยวหนานเฟิงพยักหน้า พูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ “เด็จแม่รู้เรื่องตั้งหลายอย่าง รอให้เด็จแม่ว่างก่อน ค่อยให้นางสอนเหมยเหนียงเหนียงนะ”
เหมยชิงเกอสูดจมูกพูดว่า “ได้จ้ะ เหมยเหนียงเหนียงจะต้องตั้งใจเรียนอย่างแน่นอน”
“อื้ม งั้นท่านก็กินสาลี่นี้ก่อน พวกเรายังมีผลไม้อร่อยๆ อีกเยอะเลย”
เสี่ยวหนานเฟิงวาดมือเล็กๆ ออกมา ทำท่าทางจริงจัง
เหมยชิงเกอหยิบสาลี่ขึ้นมากัดอีกครั้ง มันหอมหวานมากจริงๆ
ขณะที่ก้มศีรษะลง ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นหน้าจอขนาดใหญ่แสดงอยู่หน้าเตียง บนหน้าจอมีผู้หญิงคนหนึ่งสวมกระโปรงคาดอกสีบัวกำลังวิ่งด้วยความเร็วสูงอยู่ในป่า ทิวทัศน์โดยรอบนั้น เป็นภาพที่เหมยชิงเกอคุ้นเคยเป็นอย่างมาก ซึ่งนั่นก็คือตำหนักเทพหอทองคำ
นางไปที่หน้าจอด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“นี่คือ...แม่ของเจ้าหรือ”
เสี่ยวหนานเฟิงเชิดหน้าเล็กๆ ขึ้น แล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ “ใช่แล้ว เด็จแม่สุดยอดมากใช่ไหม”
วิชาตัวเบานี้สุดยอดมากจริงๆ อาจเรียกได้ว่าสุดยอดยิ่งกว่ายุครุ่งเรืองของเหมยชิงเกอด้วยซ้ำ
“แม่เจ้าจะไปไหน ทำไมเราถึงเห็นนางได้”
ทันทีที่เหมยชิงเกอพูดจบ เสียงของอินชิงเสวียนก็ดังขึ้นในมิติ
อินชิงเสวียนกวาดสายตามองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นเย่จั้น นางจึงรู้สึกสบายใจทันที
ผู้ที่มาด้วยหนังสือสวรรค์ไร้อักษรนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีเจตนาไม่ดี ยอดฝีมืออาวุโสอย่างเช่นเจ้าสำนักเซี่ยวและเจ้าสำนักเฮ่อ พวกเขาไม่สนใจที่จะแย่งชิงมันด้วยซ้ำ
ในเมื่อพวกเขาไม่ใช่คนดี อินชิงเสวียนจึงไม่สนใจว่าพวกเขาจะเป็นหรือตาย นางมองหาก้อนหินเหมาะๆ แล้วขึ้นไปยืนอยู่บนนั้น ตราบใดที่อยู่ในระยะ ก็สามารถใช้ทักษะช่วงชิงโชคลาภกับพวกเขาทั้งหมดได้
ผู้ที่ถูกช่วงชิงทั้งหมดรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย ตามมาด้วยเกิดเรื่องแปลกๆ ขึ้น ถ้าไม่ทำอาวุธของตัวเองหล่นหาย ก็ได้รับบาดเจ็บจากพวกเดียวกันเอง บางคนก็เหยียบก้อนหินแล้วจู่ๆ ก็หน้ามืด ยิ่งกว่านั้นบางคนเมื่อเหวี่ยงกระบี่ก็รู้สึกว่าข้อแขนเคลื่อนทันที ศัตรูยังไม่ทันลงมือ ตัวเองก็ร้องโอดโอยอย่างอนาถแล้ว
อินชิงเสวียนก็ค่อนข้างประหลาดใจ
ปกตินางมักจะช่วงชิงโชคลาภของคนอื่น แต่ก็ไม่แสดงอาการชัดเจนขนาดนี้ อาจเป็นเพราะนางไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย หรือเป็นเพราะอีกฝ่ายลงมือ ถึงทำให้สูญเสียโชคลาภ เป็นเหตุให้เกิดความโชคร้ายมากมายเช่นนี้
แต่จนถึงตอนนี้ผู้อาวุโสหันยังไม่แสดงอาการชัดเจน หรือว่าสิ่งนี้จะมีแสดงอาการแตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับระดับสูงต่ำของวรยุทธ์?
น่าเสียดายที่ไม่มีการชี้แจงของทักษะนี้ อินชิงเสวียนจึงไม่มีทางรู้ ได้แค่รอดูไปตามสถานการณ์
ขณะที่กำลังเหม่อลอย จู่ๆ เงาสีขาวก็ปรากฏขึ้นในสายตาของอินชิงเสวียน และเข้ามาหานางในพริบตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...