สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1066

เย่จั้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

“แม่นาง ข้า...คือข้า...”

เขากำลังจะบอกว่าเขาเป็นอาคันตุกะที่มาใหม่ แต่สตรีในชุดขาวก็เดินตรงผ่านเขาไป และหยุดที่ลำธาร

นางยืนตัวตรง ชุดผ้าโปร่งสีขาวราวกับหิมะปลิวไปตามสายลม ราวกับเป็นนางฟ้าที่ลงมาจุติยังโลกมนุษย์ เมื่ออยู่ภายใต้แสงจันทร์อันหนาวเย็น นางยิ่งดูประณีตไร้มลทินดุจเทพธิดาบนสรวงสวรรค์

ขณะมองดูนางยืน เย่จั้นก็ตกอยู่ในห้วงภวังค์โดยไม่รู้ตัว

หลายปีที่ผ่านมา เขาเคยเห็นผู้หญิงที่สง่างามเช่นนี้นอกวัดสุ่ยจิ้งในเมืองหลวง นางเป็นเหมือนดอกดารารัตน์ที่ชุ่มชื้นอยู่ริมน้ำ นางยืนเงียบๆ ใต้แสงจันทร์ เลิกคิ้วงามขึ้นน้อยๆ ประหนึ่งมีเรื่องกลุ้มใจที่แก้ไม่ตก

เย่จั้นไม่เคยเห็นผู้หญิงที่พิเศษเช่นนี้มาก่อน ชั่วขณะนั้นเอง จิตใจทั้งหมดเหมือนจะถูกคว้าไว้ด้วยมือที่มองไม่เห็น และไม่สามารถหลุดพ้นได้อีกต่อไป...

เมื่อนึกถึงสตรีที่เฝ้าคะนึงหามาตลอดหลายปี เย่จั้นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจ เดินไปหาสตรีในชุดขาวโดยไม่รู้ตัว

“แม่นาง”

เขาเรียกเบาๆ

ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ได้ยินอะไรเลย ดวงตาสุกใสดุจธารายังคงมองไปข้างหน้า

เย่จั้นกระแอมไอแห้งๆ

“แม่นางไม่ต้องกลัวนะ ข้า...ข้าไม่ใช่คนไม่ดี”

สตรีผู้นั้นยังคงไม่พูด ราวกับว่ามีสิ่งสวยงามที่อยู่ตรงหน้านางนั้น น่าตื่นเต้นมากจนไม่อาจละสายตาได้

เมื่อเห็นนางไม่สนใจเขา เย่จั้นก็รู้สึกประดักประเดิดอยู่ไม่วาย

ชายหญิงอยู่ตามลำพัง จู่ๆ ตัวเองก็ไปคุยกับคนเขาตามใจชอบเช่นนี้ เหมือนจะกะทันหันไปบ้าง

“ขออภัยด้วย ข้าไม่ควรรบกวนแม่นางจริงๆ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน”

เย่จั้นประกบมือคำนับลา แต่ทันทีที่หันหลังกลับ ก็เห็นสตรีผู้นั้นเดินเข้าไปในลำธาร

แม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงกลางฤดูร้อน แต่อุณหภูมิบนเขายังคงเย็นมาก น้ำในลำธารก็ยังหนาวเย็นเสียดกระดูกอยู่ดี เย่จั้นอดไม่ได้ที่จะร้องเรียก

“แม่นาง นี่เจ้า...”

“เจ้าคือ...อินหลี?”

เขาไม่สนใจเรื่องมารยาททางโลกอีกต่อไป รีบดึงผ้าคลุมหน้าของสตรีผู้นั้นออกอย่างรวดเร็ว เผยใบหน้าที่ขาวเนียนสง่างาม

สตรีผู้นี้ถือได้ว่าเป็นคนสวย ดวงตาดั่งใบหลิว ใสกระจ่างดุจธารา ลูกตาดำตัดกับตาขาวชัดเจน คิ้วโค้งถูกเขียนขึ้นอย่างบรรจง ริมฝีปากสีชมพูอ่อนเหมือนบุปผาแรกแย้ม เผยออกเล็กน้อย เห็นฟันขาวรางๆ เปล่งปลั่งอยู่ใต้แสงจันทร์

เย่จั้นนิ้วสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เป็นนาง!

ก็คือใบหน้านี้ ที่ทำให้เขาเฝ้าฝันหาทุกค่ำคืน ปวดใจดุจไม่ใช่หัวใจของตัวเอง

ตอนนี้เมื่อคนผู้นี้อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เย่จั้นแทบจะไม่เชื่อสายตาของเขา

เขาคว้าไหล่บางของอินหลีอย่างแรง ถามอย่างตื่นเต้น “อินหลี ข้าตามหาเจ้าอย่างยากลำบาก ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่ ทำไมจู่ๆ เจ้าถึงออกจากเมืองหลวง”

เมื่อเผชิญกับคำถามของเย่จั้น อินหลีก็แสดงสีหน้าไม่แยแสอีกครั้ง สายตาจ้องมองไปที่ลำธารอย่างแน่นิ่ง

จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนเด็กไร้เดียงสาเล็กน้อย “แม่ของข้า ชอบกินปลา”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์