อินชิงเสวียนพยักหน้าอย่างยินดี ถามว่าอีก “ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสฟื้นฟูวรยุทธ์เป็นอย่างไรบ้าง”
เหมยชิงเกอกล่าวว่า “น่าจะฟื้นฟูได้ครึ่งหนึ่งแล้ว”
“ระหว่างผู้อาวุโสกับผู้อาวุโสหัน ถ้าเทียบกันแล้วผู้ใดอยู่ในระดับสูงต่ำกว่ากันเจ้าคะ”
หลังจากได้ยินคำพูดของอินชิงเสวียน ดวงตาของเหมยชิงเกอก็ฉายแววหวาดกลัว
“ผู้อาวุโสหันเป็นผู้นำของผู้อาวุโสทั้งสี่ของตำหนักเทพ ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนก็บรรลุถึงขั้นสูงสุดแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับเขาแล้ว ข้าย่อมเทียบไม่ติดอยู่แล้ว”
“แล้วถ้าเปรียบเทียบระหว่างเจ้าตำหนักกับผู้อาวุโสหันล่ะ?”
อินชิงเสวียนถามอีก
เหมยชิงเกอใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คงจะสูสีกันกระมัง เพียงแต่เจ้าตำหนักได้รับบาดเจ็บสาหัสในการประลองเมื่อห้าสิบปีก่อน หลายปีที่ผ่านมาก็็็ เก็บตัวบำเพ็ญเพียรมาโดยตลอด ไม่รู้ฟื้นคืนแล้วหรือยัง”
เหมยชิงเกอไม่ได้เกลียดเจ้าตำหนัก เส้นทางในวันนี้ เป็นนางที่เลือกทางเอง ไม่สามารถตำหนิผู้อื่นได้
“ผู้อาวุโสอยู่ที่ผาเฟิงเริ่นมาหลายปีขนาดนี้ ไม่เคยเห็นเจ้าตำหนักเลยหรือ”
“ไม่เคย”
น้ำเสียงของเหมยชิงเกอโดดเดี่ยว
ท่านอาจารย์คงต้องเกลียดนางมากแน่ๆ ไม่เช่นนั้นคงไม่หลบเลี่ยงไม่ยอมพบหน้าเช่นนี้
อินชิงเสวียนร้องอ้อขึ้นมาคำหนึ่ง มองดูนางแล้วพูดว่า “แบบนี้แล้ว ตำหนักเทพคงมีการเปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ ในบรรดาผู้อาวุโสทั้งสี่เหลือเพียงผู้อาวุโสหันแค่คนเดียว เจ้าตำหนักก็ไม่เคยปรากฏตัวเลย ช่างน่าสงสัยจริงๆ”
เหมยชิงเกอตกใจ
“มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ”
อินชิงเสวียนพยักหน้าและกล่าวว่า “เป็นเรื่องจริง หลายปีที่ผ่านมานี้ผู้อาวุโสหันได้ระดมพลอาคันตุกะมาจำนวนมาก เพื่อจัดการกับเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง หากสามารถผลักผู้อาวุโสหันลงจากเวทีได้ ศิษย์สายตรงของเจ้าตำหนักก็สามารถยึดครองตำหนักเทพได้อย่างถูกหลักทำนองคลองธรรม”
ดวงตาของเหมยชิงเกอสว่างวาบขึ้น
“งั้นก็ดีแล้ว ยังมีเวลาเหลืออีกกว่าหนึ่งเดือนสำหรับการต่อสู้ระหว่างทั้งสองสำนัก ทุกอย่างยังทันเวลา ในช่วงสองวันนี้ผู้อาวุโสก็ตั้งใจบำเพ็ญตน พยายามฟื้นฟูวรยุทธ์ให้ถึงจุดสูงสุด อีกไม่นาน ข้าจะให้ท่านได้เจอคนของตำหนักเทพ”
เมื่อเห็นท่าทางฮึกเหิมอวดดีของอินชิงเสวียน เหมยชิงเกอก็ยังเป็นกังวลอยู่บ้าง
“ให้ข้าออกไปดีกว่า ข้าคุ้นเคยกับตำหนักเทพ สามารถช่วยงานเจ้าได้”
“ไม่จำเป็น มีผู้อาวุโสฉุยกับผู้อาวุโสเฟิงอยู่ด้วย ก็สามารถช่วยข้าได้แล้ว ข้าจะเตรียมของกินของใช้ไว้ให้ผู้อาวุโสแล้วจะออกไป ผู้อาวุโสพักผ่อนเถิด”
อินชิงเสวียนโค้งคำนับเล็กน้อย แล้วเดินเข้าไปในร้านค้าคะแนนสะสม
ขณะมองไปที่แผ่นหลังของลูกสาว ขอบตาของเหมยชิงเกอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง
ในฐานะแม่ เดิมทีควรเป็นนางที่ต้องจัดการเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ตอนนี้กลับทำได้แค่ให้ลูกสาววิ่งวุ่นเพื่อตัวเอง ในใจรู้สึกทั้งชื่นใจและเสียใจพร้อมกัน ยิ่งไม่กล้าที่จะรับว่าเป็นแม่ลูกกับอินชิงเสวียนขึ้นอีก
ถ้าอินชิงเสวียนรู้ตัวตนของนาง คงจะเกลียดนางมากแน่ๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...