สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1133

“ไม่รู้สิ หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นทุกวันนี้อธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้ เจ้าอย่าพึ่งวิทยาศาสตร์ไปทุกอย่าง”

เย่จิ่งหลานวางแผ่นตรวจมลง

“เจ้าอยู่นี่กับนางสักพัก ข้าจะไปดูว่าตัวอย่างเลือดออกมาหรือยัง”

อินชิงเสวียนทำอะไรไม่ถูก

“ได้”

นางยื่นมือออกไปประคองอินหลี พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เขาแค่ช่วยตรวจร่างกายของเจ้า พวกเราจะไม่ทำร้ายเจ้า”

อินหลีเป็นเหมือนหุ่นเชิดที่ไม่มีชีวิต ปล่อยให้อินชิงเสวียนเล่นตามสบาย

อินชิงเสวียนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

“ไปนั่งตรงนั้นเถอะ”

อินชิงเสวียนพยุงอินหลีไปที่ห้องนั่งเล่น นิ้วเผลอไปแตะข้อมือของนางโดยไม่ตั้งใจ ทันใดนั้นนางก็ตกใจกับกำลังภายในอันทรงพลังในร่างกายของอินหลี

อินหลีไม่เป็นวรยุทธ์ แล้วทำไมถึงมีพลังอันทรงพลังเช่นนี้อยู่ในร่างกาย

ขณะที่กำลังตกใจ เย่จิ่งหลานจึงเดินออกจากห้องทดลองพร้อมกับแผ่นทดสอบในมือ

“ดูเหมือนว่าข้าเดาถูก พวกเจ้าไม่ใช่ญาติกัน เหตุผลที่หน้าตาคล้ายกัน เป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น”

เขาชูผลการตรวจขึ้นสูง โบกไปมาต่อหน้าอินชิงเสวียน

ในนั้นมีข้อมูลเปรียบเทียบมากมายที่ระบุไว้ แต่อินชิงเสวียนดูไม่รู้เรื่อง เพียงแต่จำประโยคด้านล่างของรายงานได้เท่านั้น ซึ่งบอกว่าไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด

“ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้ในโลก”

อินชิงเสวียนรู้สึกประหลาดใจ

“โลกใหญ่ไพศาล ไร้พิสดารไม่มี ว่าแต่ว่า ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี หรือเจ้าอยากให้นางอยู่ในมิติ?”

เย่จิ่งหลานเหลือบมองอินหลีพลางเอ่ยถาม

“ตอนนี้มีอีกเรื่องหนึ่ง ในตัวนางมีกำลังภายในที่ทรงพลังอย่างยิ่ง บางทีอาจเป็นเพราะกำลังภายในนี้เอง จิตสำนึกถึงได้ถูกผนึกไว้”

“โอ้?”

เย่จิ่งหลานจับชีพจรของอินหลี หัวใจพลันเต้นไม่เป็นส่ำ

“ข้าไม่รู้ ผู้อาวุโสหันจับตาดูธิดาเทพอย่างแน่นหนาขนาดนี้ บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับพลังของนาง”

ประโยคเดียวของเย่จิ่งหลานทำให้คนเฉลียวใจขึ้นได้

อินชิงเสวียนกล่าวอย่างเห็นด้วย “เจ้าพูดก็มีเหตุผล และมีเพียงเหตุผลเดียวที่สามารถอธิบายได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ยิ่งไม่สามารถมอบธิดาเทพให้เขาได้ เจ้าให้นางอยู่ในมิติก่อน ข้าจะหาทางติดต่อเย่จั้น ให้เขาพาธิดาเทพออกไปจากตำหนักเทพ”

เย่จิ่งหลานพูดอย่างไม่อินังขังขอบ “ตามสบาย ถึงอย่างไรที่ของข้าก็ยังมีห้องหับมากมาย”

อินชิงเสวียนกล่าวเสริม “ยังมีอีกเรื่องที่อยากให้เจ้าช่วย เจ้าตามหาหวังซุ่นมาโดยเร็วที่สุด ช่วยข้าทำหน้ากากผิวหนังมนุษย์”

อินชิงเสวียนหยิบรูปของฉุยอวี้ออกมา แล้วส่งให้เย่จิ่งหลาน

“นี่คือเจ้าตำหนักของตำหนักเทพ?”

เย่จิ่งหลานแสดงความคิดเห็นต่อว่า “ก็ดูเป็นผู้วิเศษเหมือนกัน”

อินชิงเสวียนตอบอืมและพูดว่า “ใช่ ต้องทำโดยเร็วที่สุด ต้องจัดการกับโจรเฒ่าหันให้ได้ ก่อนที่จะเริ่มงานประลองยุทธ์สองสำนัก”

“ไม่ต้องห่วง ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”

“งั้นเราออกไปกันเถอะ หายไปนานจะเกิดความสงสัยได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์