ทั้งสองออกจากมิติโดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต
อินหลีจะไม่ไปไหนมั่วซั่ว เจ้าโง่ถูกจูงจมูกสองคนนั้นก็ถูกเย่จิ่งหลานทำให้หมดสติ แม้ว่าพวกเขาจะตื่นขึ้นมา ก็ไม่ทำร้ายอินหลี
“เจ้าจะไปไหน” เย่จิ่งหลานถาม
อินชิงเสวียนอ้าปาก ทันใดนั้นก็คิดถึงความเป็นไปได้
“เจ้าเปิดมิติอีกหน่อย ข้าอยากเข้าไปดู”
ทันทีที่พูดจบ คนก็เข้าไปในมิติอีกครั้ง
อินชิงเสวียนเดินเข้าไปในห้องประชุมอย่างรวดเร็ว ใช้ทักษะช่วงชิงโชคลาภกับอินหลีโดยตรง
ทันใดนั้นวรยุทธ์กับพลังภายในส่วนหนึ่งก็ไหลเข้ามาในตัว ซึ่งรวมถึงกำลังภายอีกเล็กน้อยด้วย
อินชิงเสวียนแยกแยะทักษะวรยุทธ์เหล่านี้อย่างละเอียด และพบว่าทั้งหมดมาจากตำหนักเทพ
“เจ้าพบอะไรหรือเปล่า”
เย่จิ่งหลานเอนตัวพิงประตูอย่างไม่ใส่ใจ ยกมือขึ้นกอดอก
อินชิงเสวียนปิดประตูเดินออกมา สีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย
“ดูเหมือนว่าข้าจะค้นพบความลับเรื่องใหญ่แล้ว หากข้าเดาไม่ผิด พลังของอินหลีอาจมาจากเจ้าตำหนักของตำหนักเทพ”
“เจ้าตำหนัก?”
เย่จิ่งหลานมองไปที่อินชิงเสวียนด้วยสีหน้าแปลกใจ
“แล้วทำไมเขาถึงมอบพลังให้กับอินหลี?”
อินชิงเสวียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บางทีอาจเป็นเพราะเหตุผลที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถูกบังคับให้ถ่ายทอดพลังไป ตั้งแต่ข้ามาที่ตำหนักเทพ เจ้าตำหนักก็ไม่เคยปรากฏตัวเลย นี่คือสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุด”
“แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าตำหนักยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า”
“ไม่รู้ ทุกอย่างอาจเป็นไปได้ กลับไปก่อน แล้วข้าค่อยถามฉุยอวี้กับเฟิงเอ้อร์เหนียง”
“ได้”
ทั้งสองออกจากมิติอีกครั้ง แสร้งทำเป็นพูดคุยกันขณะเดินไปตามทาง ครู่หนึ่งก็แยกย้ายกันไป
อินชิงเสวียนขบคิดเรื่องนี้มาตลอด เมื่อกลับถึงที่พัก เฟิงเอ้อร์เหนียงและฉุยอวี้ก็ไม่อยู่ อินชิงเสวียนจึงนั่งขัดสมาธิ เอากำลังภายในที่ช่วงชิงจากอินหลีออกมาย่อยให้ตัวเองใช้
เฟิงเอ้อร์เหนียงรู้ว่านางไม่อยากช่วยงานตำหนักเทพ แต่ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ หากทำให้ผู้อาวุโสหันโกรธ อาจถูกเขาไล่ออกจากตำหนักเทพได้
ทั้งสองวนเวียนอยู่ที่นี่ ระงับโทสะ ก็เพื่อจัดการกับผู้อาวุโสหัน หากจากไปตอนนี้ แม้แต่ตัวนางเองก็ไม่ยินยอม
อินชิงเสวียนเห็นว่าทั้งสองคนไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้มากนัก จึงไม่พูดอะไรอีก
ทั้งสามต่างแยกย้ายกันบำเพ็ญตน ไม่รบกวนซึ่งกันและกัน
เย่จิ่งหลานไปยังที่พักของผู้อาวุโสหัน บอกว่าตัวเองจะพาผู้ติดตามขึ้นมาบนเขาด้วย ผู้อาวุโสหันกำลังต้องการใช้คน ย่อมไม่ปฏิเสธ ตอบตกลงด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
เมื่อเย่จิ่งหลานลงจากเขา เย่จิ่งอวี้ก็ออกจากวังไปพร้อมกับเจวี๋ยอิ่งและคนอื่นๆ โดยไม่เปิดเผยตัวตนแล้ว
“ฝ่าบาท เราจะไปที่ใดพ่ะย่ะค่ะ”
เย่จิ่งอวี้ขี่เฟยมั่ว ใบหน้าหล่อเหลานั้นแสนเย็นชาล้ำลึก
“เรื่องที่ข้าให้เจ้าสืบก่อนหน้านี้ พอมีเบาะแสหรือไม่”
เจวี๋ยอิ่งกล่าวด้วยความเคารพ “มีคนเห็นฮองเฮาเมื่อไม่กี่วันก่อน นางปรากฏตัวที่เทือกเขาเชื่อมเมฆา...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...