สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1136

เพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง

เฮ่อฉางเฟิงยืนไพล่หลังอยู่ในสวนยา ถอนหายใจลึกๆ

เสียงอ่อนโยนดังมาจากด้านหลัง

“ยังคิดถึงแม่นางอินคนนั้นอยู่หรือ”

เฮ่อฉางเฟิงหันกลับมาทันที

“ท่านแม่ เปล่าขอรับ เพียงแต่เสียดายที่เห็นสมุนไพรทั้งหมดในสวนยา มอบให้กับชาวยุทธ์เหล่านั้น”

กงซวินอวิ๋นเฟิ่งยิ้มอย่างอ่อนโยน

“นี่เป็นความต้องการของพ่อกับตาของเจ้า พวกเราในอิ๋นเฉิงให้ความสำคัญกับความสงบสุขมาโดยตลอด ไม่อยากใจที่จะมีส่วนร่วมในข้อพิพาทต่างๆ การคลี่คลายความบาดหมางด้วยสมุนไพรก็นับว่าคุ้มค่า”

เฮ่อฉางเฟิงกล่าวว่า “ก็จริง แม้ว่าทุกคนในอิ๋นเฉิงจะฝึกฝนวรยุทธ์ แต่ก็สงบเงียบปรองดองมาโดยตลอด จะเรียกว่าแดนสุขาวดี ก็ไม่เกินจริง”

ในแง่ของความแข็งแกร่ง ถ้าอิ๋นเฉิงเรียกคนมาไม่กี่คน ก็สามารถเอาชนะชาวยุทธ์อันธพาลเหล่านั้นให้ร้องไห้เรียกหาบุพการีได้ เพียงแต่อิ๋นเฉิงไม่อยากเอาชนะพวกเขาด้วยกำลังเท่านั้นเอง

กงซวินอวิ๋นเฟิ่งพยักหน้า

“ใช่แล้ว ไม่รู้ว่าแม่นางอินอาศัยอยู่ที่ไหน ถ้าเจ้าชอบนางจริงๆ เราก็ไปเยี่ยมนางได้”

เฮ่อฉางเฟิงคิดในใจ นางแต่งงานแล้ว ไปเยี่ยมจะมีประโยชน์อะไร

“ลูกไม่รู้ ลูกไม่ได้คิดอะไรกับแม่นางอิน ท่านแม่อย่าได้คิดมากเลย”

กงซวินอวิ๋นเฟิ่งเหลือบมองลูกชายแล้วพูดว่า “ถ้าเจ้าไม่คิดจริงๆ งั้นก็ลองมองหาแม่นางในอิ๋นเฉิงเราดู เจ้าก็ไม่ใช่เด็กแล้ว ถึงเวลาแต่งงานแล้ว แม้พ่อของเจ้าจะไม่พูดอะไร แต่ในใจก็อยากอุ้มหลานมาโดยตลอด”

เฮ่อฉางเฟิงไอแห้งๆ แล้วพูดว่า “วรยุทธ์ของลูกยังไม่สำเร็จ เรื่องการแต่งงาน ยังไม่กล้าหวัง ท่านแม่โปรดอย่าพูดถึงอีกเลย”

กงซวินอวิ๋นเฟิ่งขยับศอกกระทุ้งลูกชายเบาๆ

หัวเราะและดุว่า “เจ้าเด็กนี่ ยังจะอายอะไรอีก ต่อไปเจ้าก็จะขึ้นเป็นเจ้าเมือง มีแต่ต้องสร้างครอบครัวก่อน ถึงจะตั้งหลักได้”

นางเปลี่ยนเรื่องและกล่าวอีกว่า “แต่คุณสมบัติของแม่นางอินนั้นพิเศษมากจริงๆ โดยเฉพาะใบหน้าอันกล้าหาญของนาง คล้ายกับน้าเหมยของเจ้ามาก”

“โอ้?”

ผู้หญิงโง่คนนี้ ไม่คู่ควรกับเฮ่อยวน ไม่ช้าก็เร็วนางก็จะผูกเฮ่อยวนไว้กับตัวเอง

แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ตำหนักเทพ ต้องไม่ให้เฮ่อยวนรู้เด็ดขาดว่าเหมยชิงเกอยังไม่ตาย นางกับเหมยชิงเกอได้เจอเฮ่อยวนพร้อมกัน แต่ทำไมเฮ่อยวนถึงชอบแค่นางเท่านั้น

นางแค่นเสียงเย็น แล้วค้อมหลังเดินจากไป

ในเวลานี้ เหมยชิงเกอกำลังกินข้าวกับเสี่ยวหนานเฟิงในมิติ

หลังจากปรับตัวหลายวัน นางก็สามารถใช้อุปกรณ์ทำอาหารทั้งหมดในมิติได้อย่างง่ายดาย รู้จักเครื่องปรุงรสและผักเกือบทั้งหมดด้วย ทั้งสองคนทำอาหารสองจาน ซึ่งเป็นมื้ออาหารที่อร่อยมาก

ไม่เจอกันหลายวัน เสี่ยวหนานเฟิงไม่เพียงแต่โตขึ้นมากเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ตะเกียบกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อยอีกด้วย

เมื่อเห็นท่าทางว่าง่ายของเด็ก เหมยชิงเกอก็รู้สึกอบอุ่นในใจ

ถ้านางไม่ต้องจัดการกับผู้อาวุโสหันและชายไร้หัวใจคนนั้น นางคงจะอยู่ในมิตินั้นกับเสี่ยวหนานเฟิงไปตลอดชีวิต มีความสุขกับครอบครัว

เมื่อนึกถึงคนร่างสูงสง่างามนั้น ความเกลียดชังก็พลุ่งพล่านในดวงตาของเหมยชิงเกอ

งานประลองยุทธ์ยังมีเวลาอีกหลายวัน นางต้องใช้น้ำพุวิญญาณเลื่อนขั้นตัวเอง เมื่อถึงเวลานั้น นางจะเผชิญหน้ากับเฮ่อยวนด้วยตัวเอง!