สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1141

หลังจากที่ผู้อาวุโสหันพูดจบ หางเสียงก็อ่อนลงอีกครั้ง

“ที่ข้าต้องทำเช่นนี้ก็เพราะข้าไม่มีทางเลือกอื่น เพื่อประโยชน์ของชาวยุทธ์ในใต้หล้า ขอแม่นางอินโปรดมอบน้ำพุวิญญาณ ช่วยให้เราเลื่อนขั้นกำลังภายในด้วย”

อาคันตุกะทั้งหลายต่างกล่าวอย่างเห็นพ้องต้องกัน “ถูกต้อง หวังว่าแม่นางอินจะไม่เห็นแก่ตัว”

“หากได้รับทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ ก็สามารถปกป้องทางแห่งความถูกต้อง และต่อต้านศัตรูภายนอกได้”

“หากมีวิชาแพทย์อันล้ำค่าอยู่ในนั้น ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายเราด้วยซ้ำ”

“ทางสู่วิถีแห่งสวรรค์จำต้องเปิด ขอแม่นางช่วยให้สมหวังด้วย”

เมื่อมองดูสายตาอันเร่งรัดของคนเหล่านี้ อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะ

“พวกท่านรู้ได้อย่างไรว่ามีอะไรอยู่ในทางสู่วิถีแห่งสวรรค์”

อาคันตุกะคนหนึ่งกล่าวว่า “ไม่มีใครเคยเข้าสู่ทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ ว่ากันว่าภายในมีสิ่งต่างๆ อันน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย คราวนี้ตำหนักเทพจะต้องชนะอย่างแน่นอน”

เย่จิ่งหลานกลอกตามองบน

“ในเมื่อต้องการ ก็ใช้ความสามารถของตัวเองไขว่คว้ามาเองสิ การยืมแรงคนอื่นจะเรียกว่าเป็นความสามารถได้อย่างไร”

ผู้อาวุโสหันหัวเราะเบาๆ และกล่าวว่า “กล่าวเช่นนั้นไม่ถูกต้อง ตราบใดที่เป็นประโยชน์ต่อชาวบ้าน จะใช้แรงคนอื่นก็ไม่น่าละอาย แม่นางอิน เชิญเถิด”

อินชิงเสวียนยืนขึ้นอย่างช้าๆ

“หากต้องการก็ย่อมได้ ให้ข้าได้เจอกับเจ้าตำหนัก ขอเพียงแค่เขาเอ่ยปาก ข้าย่อมไม่ปฏิเสธ”

ผู้อาวุโสหันถอนหายใจ

“ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากให้เจ้าเจอ เจ้าตำหนักยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ เก็บตัวบำเพ็ญเพียรอยู่ในห้องลับมาโดยตลอด เว้นแต่เขาจะออกมาเอง ไม่เช่นนั้น ก็ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้”

อินชิงเสวียนพูดนิ่งๆ “ถ้างั้นก็พาข้าไปที่สถานที่เก็บตัวบำเพ็ญเพียรของเจ้าตำหนัก แม้เขาจะเก็บตัวบำเพ็ญเพียร แต่ก็ยังได้ยินเสียงจากภายนอก ขอเพียงเขาเอ่ยปากตอบรับ ข้าสัญญาว่าจะมอบน้ำพุวิญญาณให้”

“แม่นางอินบังคับใจคนอื่นชัดๆ”

ทันใดนั้นสีหน้าของผู้อาวุโสหันก็มืดลง ความกดดันก็พุ่งออกมาจากร่างกาย มืดฟ้ามัวดิน และท่วมท้นไปทุกมุมของห้องโถง

เขาไม่เห็นเย่จิ่งหลานอยู่ในสายตา

ข่าวจากฮั่วเทียนเฉิงบอกว่าเพียงว่า เย่จิ่งหลานเป็นเพียงแค่ศิษย์ระดับเริ่มต้นของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ และไม่ว่าทักษะวรยุทธ์จะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็คงไม่กระไรนัก

โดยไม่คาดคิดตอนนี้เย่จิ่งหลานไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป เพียงแต่เขายังไม่ต้องการที่จะเปิดเผยวรยุทธ์ของชาวเกาะตงหลิว จึงใช้วิชาฝ่ามือของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ในการต่อสู้

เสียงคำรามคล้ายพยัคฆ์คำรามแว่วออกมาจากวิชาฝ่ามือดังหวีดหวิว เมื่อประกอบกับกำลังภายในอันทรงพลังของโมริตะคาวาสึบาเมะ ความรู้สึกกดดันในอากาศพลันเข้มข้นขึ้นทันที

อาคันตุกะอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เย่จิ่งหลานอายุยังน้อยอยู่แท้ๆ แต่กลับมีความสามารถเพียงนี้ เป็นวีรบุรุษถือกำเนิดตั้งแต่เยาว์วัยจริงๆ

อินชิงเสวียนก็ค่อนข้างประหลาดใจเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าวิชาฝ่ามือของเย่จิ่งหลานจะมีความก้าวหน้าอย่างมาก หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ นางก็เข้าใจ

ด้วยกำลังภายในที่แข็งกร้าวเผด็จการของโมริตะคาวาสึบาเมะ แม้ว่าจะต่อสู้เหมือนนักเลงในตลาด แต่เขายังสามารถบดขยี้กลุ่มคนทั้งหมดได้

ขณะที่กำลังดู เซี่ยเฉียนคุนก็เดินไปหานางแล้ว

“ได้ยินมาว่าแม่นางอินมาจากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ข้าชื่นชมหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์มานานแล้ว ไม่ทราบว่าจะขอคำชี้แนะได้หรือไม่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์