“ชิงเกอ!”
เหมยชิงเกอได้ลงมือนำไปก่อนแล้ว เฮ่อยวนจึงทำได้เพียงลงมือตามเท่านั้น
เมื่อฝ่ามือทั้งสี่ข้างปะทะกัน ทั้งสามต่างก้าวถอยหลังพร้อมกัน
ในระยะไกล มีร่างสองร่างซ่อนอยู่ในความมืด เฝ้าดูสถานการณ์การต่อสู้ที่นี่
สองคนนี้คืออินชิงเสวียนและเย่จิ่งอวี้
“อาอวี้ ทำไมเรายังไม่ลงมืออีก นี่เป็นวิชาต้องห้ามของอิ๋นเฉิงเชียวนะ”
เย่จิ่งอวี้พูดอย่างสงบไม่ตื่นตระหนก “ไม่จำเป็น เสวียนเอ๋อร์คงเคยได้ยินคำที่ว่าในความทุกข์ยาก จะเห็นความจริงใจ ขอเพียงท่านพ่อท่านแม่ร่วมมือกันเอาชนะศัตรูได้ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็จะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน”
“นี่...ไม่อันตรายจริงหรือ”
อินชิงเสวียนมีสีหน้าเป็นกังวล
เย่จิ่งอวี้ยื่นนิ้วออกมา แล้วเกาสันจมูกของนางเบาๆ
“เจ้าคิดว่าเจ้าสำนักหลักทั้งสองในยุทธจักรล้วนเป็นคนขายผักในตลาดงั้นหรือ พวกเขาไม่ได้แย่อย่างที่เจ้าคิดหรอก”
อินชิงเสวียนมองไปข้างหน้าอย่างกังวล
“แต่ท่านแม่ข้าเพิ่งโดนวรยุทธ์นั้นมา ถ้าไม่โดดเด่นจริงๆ แล้วจะเรียกว่าวิชาต้องห้ามได้อย่างไร”
เย่จิ่งอวี้กล่าวด้วยรอยยิ้มที่ชัดเจน “อย่ากังวล แม้ว่าวิชาต้องห้ามจะร้ายกาจ แต่เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมจึงเป็นวิชาต้องห้ามก็เพราะศาสตร์นั้นใช้ทางลัด ท่านพ่อบอกไว้ไม่ใช่หรือว่า ยิ่งฝึกฝนวรยุทธ์นี้สูงเท่าไหร่ ยิ่งตายเร็วเท่าไหร่ สาเหตุที่อิ๋นเฉิงจัดว่าเป็นวิชาต้องห้าม ก็คงเป็นเพราะข้อบกพร่องนี้”
อินชิงเสวียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็รู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นสมเหตุสมผล
ถึงอย่างไรก็น้ำพุวิญญาณอยู่ เว้นแต่พวกเขาจะถูกโจมตีคนสิ้นลมหายใจ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางตาย และฉีอวิ๋นจื่ออาจไม่มีความสามารถพอที่จะฆ่าทั้งสองคนได้
แต่ในอิ๋นเฉิงมีวรยุทธ์มากมาย ไม่รู้ว่าทำไมนางถึงฝึกฝนวรยุทธ์ที่ทำร้ายศัตรูแปดร้อย ทำร้ายตัวเองหนึ่งพันเช่นนี้
ทันใดนั้น ร่างสีดำที่เห็นในคืนนั้นก็แวบขึ้นมาในใจอีกครั้ง อินชิงเสวียนแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด เพียงแต่คนนั้นคือใครกันแน่ เกี่ยวข้องกับฉีอวิ๋นจื่อหรือไม่
ฉีอวิ๋นจื่อไม่ทันระวังตัว นางตกลงไปที่ก้นหุบลึกทันที
เหมยชิงเกอคิดจะไล่ตามนางไป แต่ก้าวเดินสะดุดเสียก่อน เฮ่อยวนเอื้อมมือมากอดนาง
“ชิงเกอ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
เมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าของเฮ่อยวนก็เต็มไปด้วยเลือด เหมยชิงเกอก็รู้สึกปวดใจเล็กน้อย
ทว่าน้ำเสียงยังคงเย็นชาพูดว่า “ไม่ตายหรอก ยังไม่รีบตามข้าไปรักษาตัวที่ที่ห้องโถงจื่อชี่ตงไหลอีก”
“น้อมรับคำสั่งขอรับ”
เฮ่อยวนอุ้มเหมยชิงเกอขึ้นทันที มุ่งหน้าไปยังห้องโถงจื่อชี่ตงไหล เมื่อเปรียบเทียบระหว่างความเป็นความตายของฉีอวิ๋นจื่อแล้ว เขาใส่ใจความรู้สึกของเหมยชิงเกอที่มีต่อเขามากกว่า
อย่างไรก็ตามอินชิงเสวียนกับเย่จิ่งอวี้ไม่สามารถยืนดูอยู่ข้างๆ ได้ ฉีอวิ๋นจื่อเป็นตัวหายนะ สามารถฉวยโอกาสนี้กำจัดได้พอดี
ทั้งสองมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างเข้าใจความคิดของกันและกัน ครั้นจึงกระโดดลงหน้าผา เพื่อไปจับตัวฉีอวิ๋นจื่อทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...