คนชุดดำตัวสูงใหญ่มากเกินไปจริงๆ รูปร่างอันใหญ่โตนี้เมื่อปรากฏอยู่เหนือหัว ก็เหมือนกับเนินเขาสูงใหญ่ แค่ความกดดันเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำให้ฉีอวิ๋นจื่อเหงื่อชุ่มโชกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้เห็นมือเหล็กประหลาดนี้ นางยิ่งไม่กล้าแม้แต่จะมีความคิดเพียงเล็กน้อยในการตอบโต้
“ผู้มีพระคุณโปรดไว้ชีวิตด้วย!”
ดวงตาของนางเหลือกโพลง พูดด้วยความยากลำบาก
ทันใดนั้นมือเหล็กก็ถูกดึงกลับ คนชุดดำใช้แขนเพียงข้างเดียวก็กระแทกนางให้ล้มลงกับพื้น
พูดอย่างเย็นชา “เศษสวะเช่นเจ้า สมควรที่จะตั้งคำถามกงซวินฮูหยินงั้นรึ”
ปากของฉีอวิ๋นจื่อเลือดออก ล้มลงกับพื้น เอาแต่พูดว่า “ข้าผิดไปแล้ว คราวหน้าจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว”
คนชุดดำแค่นเสียงหึอย่างเย็นชา และมองไปที่หันเจิงหมิง
“ถ้าข้าสามารถรักษาคนผู้นี้ได้ จะมีประโยชน์กับเจ้าและข้าหรือไม่”
ฉีอวิ๋นจื่อรู้ว่าทุกคนในอิ๋นเฉิงมีทักษะด้านการแพทย์ นางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าหันเจิงหมิงได้สติ เขาต้องล้างแค้นแทนผู้อาวุโสหันอย่างแน่นอน หากเขาโชคดีพอที่จะฆ่าเย่จิ่งอวี้ หรืออินชิงเสวียนได้ ก็สามารถกำจัดตัวช่วยของเหมยชิงเกอได้ แม้ว่าจะทำไม่ได้ แต่เขาก็สามารถเป็นพันธมิตรของเราได้”
คนชุดดำแค่นเสียงอย่างเย็นชา “ตามที่เจ้าพูด การค้านี้รับประกันผลกำไรและไม่มีขาดทุนใช่หรือไม่”
ฉีอวิ๋นจื่อก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “บุคคลนี้จะไม่ทำให้ผู้มีพระคุณผิดหวัง”
คนชุดดำพยักหน้า
“เฮ่อยวนกับเหมยชิงเกอได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า”
ฉีอวิ๋นจื่อลอบเหลือบมองเขา แต่ภายใต้หน้ากากอันเย็นชานั้น กลับมองไม่เห็นสีหน้าท่าทางมากนัก นางจึงพูดอย่างระมัดระวัง “ได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง”
คนชุดดำยิ้มอย่างเยาะเย้ย
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นคู่สามีภรรยารักกันหวานชื่นแล้วน่ะสิ”
ฉีอวิ๋นจื่อก้มศีรษะลงโดยที่ไม่กล้าปริปากพูดอะไร
คนชุดดำยื่นมือเหล็กออกมา แล้วหิ้วร่างของหันเจิงหมิงที่หมดสติขึ้น
“ตามข้ามา ข้าจะพาเจ้าไปยังสถานที่อันเงียบสงบเพื่อรักษาบาดแผล แต่ข้ามีข้อแม้หนึ่งข้อ ภายในสามวัน เจ้าต้องรายงานข่าวดีแก่ข้า ไม่ว่าเจ้าจะฆ่าใครก็ตาม ก็ถือเป็นผลงานของเจ้า แต่ถ้าเจ้าฆ่าใครไม่ได้แม้แต่คนเดียว เช่นนั้นคนที่ตายจะเป็นเจ้า”
คนชุดดำมีเสียงราบเรียบ แต่มีเจตนาฆ่าอย่างเยือกเย็นแฝงอยู่ในนั้น
ตัวตนและสถานะของเขาในอิ๋นเฉิง ต้องไม่อยู่ชั้นต่ำอย่างแน่นอน...
ขณะที่กำลังงุนงง คนชุดดำก็โยนหันเจิงหมิงลงไปที่พื้นแล้ว
“ภายในสามวันจะไม่มีใครมาที่นี่ สามวันนับจากนี้ ก็ไม่อาจบอกได้ จะทำอะไรได้มากแค่ไหนในสามวันนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้า ถ้าเจ้าทำให้ข้าพอใจ ข้าจะให้วิชาฝังโลหิตวิชาต้องห้ามอีกวิชาหนึ่งของอิ๋นเฉิงกับเจ้า”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของฉีอวิ๋นจื่อก็สว่างขึ้นด้วยความดีใจ
เมื่อมีวิชาฝังโลหิต ก็เท่ากับว่ามีชีวิตที่สอง อาจจะมีชีวิตที่สาม หรือชีวิตที่สี่ ฉีอวิ๋นจื่อมีหรือจะไม่หวั่นไหว
“ขอบคุณผู้มีพระคุณมาก”
“ไม่ต้องพูดมาก ถอดเสื้อคลุมของคนผู้นี้ออก แล้วช่วยพยุงเขาลุกขึ้น”
ฉีอวิ๋นจื่อช่วยพยุงร่างของหันเจิงหมิงขึ้นอย่างเชื่อฟัง และถอดเสื้อคลุมของเขาออก จากนั้นก็เห็นแสงสีเงินกะพริบวูบวาบหลายครั้ง มีเข็มเงินสิบแปดเล่มแทงเข้าที่ศีรษะและลำตัวของหันเจิงหมิง
“คนผู้นี้ถูกธาตุไฟเผาหัวใจจนเสียสติไปชั่วคราว ไม่ใช่โรคที่ยากหรือซับซ้อนอะไร ราวๆ สิบห้านาที เขาจะฟื้นขึ้นเอง ส่วนจะดึงเขาเข้ามาเป็นพวกด้วยวิธีการอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเจ้า”
หลังจากพูดจบคนชุดดำก็หายตัวไปในค่ำคืนอันมืดมิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...