เหมยชิงเกอเงียบงันไปครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า “คำพูดของท่านจริงใจใช่ไหม”
“แน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นล้วนเป็นความผิดพลาดจริงๆ หากข้ารู้ว่าเจ้ายังอยู่ในตำหนักเทพ แม้ต้องทำลายสถานที่นี้จนพังทลาย ข้าคงจะพาเจ้าออกไปจากยอดเขาบรรจบสวรรค์นี้ให้ได้”
เมื่อคิดถึงความทุกข์ทรมานที่เหมยชิงเกอต้องทนมานานกว่าสิบปี เฮ่อยวนก็ตาแดงก่ำอย่างอดไม่ได้
“ชิงเกอ หากเจ้าเต็มใจที่จะเชื่อข้าสักครั้ง ข้าจะใช้ทั้งชีวิตที่เหลือชดเชยความสุขที่เราสูญเสียไปอย่างแน่นอน”
เมื่อมองไปที่เส้นผมสีเทาของเฮ่อยวน แววตาของเหมยชิงเกอก็เริ่มไหวหวั่น
นางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าท่านมีความตั้งใจเช่นนี้จริงๆ เช่นนั้นเราก็สามารถร่วมกันบริหารต่อ เพียงแต่ว่าทั้งสองสำนักต่างตั้งตารอการประลองยุทธ์ที่จะเกิดขึ้นทุกๆ ห้าสิบปี หากพูดออกไปตอนนี้ เกรงว่าจะทำให้ศิษย์รับไม่ได้ เช่นนั้นก็ให้ดำเนินการประลองยุทธ์ครั้งนี้ตามปกติ เมื่อประลองจบแล้ว ค่อยหาโอกาสพูดคุยเรื่องการบริหารต่อ ก็ถือว่ามีช่วงเวลาให้ปรับตัว”
เฮ่อยวนกล่าวชมอย่างความสุขว่า “ชิงเกอคิดได้รอบคอบที่สุด เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าพูด”
เหมยชิงเกอพยักหน้า แล้วสีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป “ที่เหลือคือเรื่องผู้บงการเบื้องหลัง หากท่านต้องการให้ข้ายกโทษให้ท่านจริงๆ ท่านต้องหาคำอธิบายให้แก่ข้า ความเจ็บปวดที่ข้ากับชิงเสวียนสองแม่ลูกต้องพลัดพรากจากกัน ไม่อาจปล่อยไปเช่นนี้ได้”
เฮ่อยวนกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ชิงเกอวางใจ ไม่ว่าผู้บงการจะเป็นใคร ข้าก็ไม่มีวันปล่อยปละเด็ดขาด”
เหมยชิงเกอเม้มริมฝีปาก แล้วถามอีกครั้งว่า “อาการบาดเจ็บของท่านดีขึ้นหรือยัง”
เฮ่อยวนวางหวีลง แล้วพูดด้วยท่าทางอ่อนโยนว่า “ขอเพียงแสงดาวในเส้นลมปราณถูกปล่อยออกมาก็คงไม่เป็นไร คนผู้นี้น่าจะยังซ่อนตัวอยู่ในอิ๋นเฉิง ข้าจะกลับไปดูเดี๋ยวนี้ ในเมื่อนางรู้ทุกอย่าง เช่นนั้นต้องมีความเชื่อมโยงกับนักฆ่าที่ไล่ล่าเจ้าแน่ๆ”
“ดีแล้ว”
เหมยชิงเกอหันกลับมา แล้วเป็นฝ่ายจับมือของเฮ่อยวน
“คนคนนี้โหดเหี้ยมอำมหิต มีนิสัยเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก ท่านต้องระวังตัวด้วย อีกเรื่องหนึ่ง ช่วยทักทายน้องหญิงกงซวินแทนข้าด้วย”
คำพูดแสดงความห่วงใยของเหมยชิงเกอทำให้ดวงตาของเฮ่อยวนฉายแววยินดี เขาจับนิ้วอันบอบบางของเหมยชิงเกอตอบ และพูดเบาๆ ว่า “ชิงเกอไม่ต้องกังวล ข้าจะนำตัวผู้กระทำผิดมาที่ตำหนักเทพ โดยเร็วที่สุดอย่างแน่นอน”
“อื้ม ข้าจะไปส่งท่าน”
เมื่อเห็นว่าจ้าวเอ๋อร์ได้รับความรักความเอ็นดูจากหลายคนเช่นนี้ อินชิงเสวียนที่เป็นแม่ย่อมรู้สึกเป็นเกียรติอยู่แล้ว
“ท่านพ่อจะออกไปข้างนอกหรือเจ้าคะ”
เฮ่อยวนพยักหน้าและกล่าวว่า “พ่อจะกลับไปที่อิ๋นเฉิงก่อน ไปตามหาฆาตกรที่ฆ่าแม่ของเจ้า ช่วงนี้มีการแอบโจมตีตำหนักเทพหลายครั้ง พวกเจ้าสองสามีภรรยาพักอยู่ที่นี่ก่อน ปกป้องความปลอดภัยของแม่เจ้า”
เย่จิ่งอวี้รีบประกบมือคารวะไว้แล้วพูดว่า “ท่านพ่อไม่ต้องกังวล ข้ากับเสวียนเอ๋อร์จะปกป้องความปลอดภัยของท่านแม่อย่างแน่นอน”
ยิ่งเฮ่อยวนเห็นลูกเขยคนนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกชอบเขามากขึ้นเท่านั้น ไม่เพียงแต่รูปงามเท่านั้น แต่ยังเชี่ยวชาญวรยุทธ์ด้วย และบุคลิกก็ยิ่งมีเหตุมีผลชัดเจน เรียกได้ว่าหายากที่จะเจอแบบนี้
เขาก้าวไปข้างหน้า ตบไหล่ของเย่จิ่งอวี้เป็นความหมายว่ายอมรับ
“เมื่อทุกอย่างยุติลง เราสองคนต้องดื่มกันให้เต็มที่อีก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...