ผืนหนึ่งเป็นสีเขียวมรกต ส่วนอีกผืนเป็นสีน้ำ บนผืนผ้ามีการปักดอกไม้ ซึ่งดูมีรสนิยมมาก
เฮ่อยวนรู้สึกไม่พอใจ
“ชิงเกอไม่ใช่เด็กๆ แล้ว ผ้าพวกนี้ให้ชิงเสวียนใส่ค่อยพอไหวหน่อย”
กงซวินอวิ๋นเฟิ่งทำหน้าผิดหวัง ถอนหายใจเบาๆ “ดูเหมือนว่าข้ายังไม่เข้าใจพี่หญิงเหมยเท่าท่านพี่ งั้นพรุ่งนี้ข้าจะเลือกม้าเพิ่มอีกสองตัว”
เฮ่อยวนส่ายหัว
“ไม่ต้องหรอก ไว้ค่อยคุยกันหลังจบการประลองยุทธ์เถอะ!”
กงซวินอวิ๋นเฟิ่งถามอีกครั้ง
“ท่านพี่จะสู้กับพี่หญิงไหม ในเมื่อเราในอิ๋นเฉิงไม่ได้ตั้งใจที่จะครอบครองวิถีแห่งสวรรค์เพียงลำพัง ทำไมท่านพี่ไม่พูดกับพี่หญิงเหมยให้ชัดเจนล่ะ แบบนี้เราจะได้หลีกเลี่ยงความลำบากจากการลงมือได้ คำโบราณว่าไว้ว่า กระบี่ไร้ตา ถ้าเกิดท่านพี่ทำร้ายพี่หญิงเหมย นางจะไม่โทษท่านอีกหรือ”
เฮ่อยวนหยิบถ้วยน้ำชาบนโต๊ะ แล้วจิบเบาๆ
“ไม่ การประลองยุทธ์นี้เป็นเพียงพิธีการ ข้าจะไม่สู้กับนาง”
กงซวินอวิ๋นเฟิ่งวางผ้าลง เติมชาให้เขา แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “แบบนี้ก็ไม่ดี พี่หญิงเหมยมีนิสัยเย่อหยิ่ง ถ้าท่านพี่จงใจยอมแพ้ พี่หญิงเหมยคงไม่รู้สึกดีเท่าไหร่”
เฮ่อยวนขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วถามว่า “แล้วฮูหยินงคิดว่าเราควรทำอย่างไร”
กงซวินอวิ๋นเฟิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ทั้งอิ๋นเฉิงและตำหนักเทพต่างก็รู้อดีตระหว่างท่านพี่กับพี่หญิงเหมย หากให้ท่านพี่ลงมือ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ก็รังแต่จะส่งผลร้าย ถ้าพี่หญิงเหมยชนะ ชาวเมืองอิ๋นเฉิงจะต้องคิดว่าท่านพี่ไม่ได้ตั้งใจสู้เพื่อพวกเขา ถ้าท่านพี่ชนะ พี่หญิงเหมยก็จะเสียหน้า ด้วยนิสัยของนาง กลัวว่าจะยอมรับได้ยาก”
นางหยุดชั่วครู่แล้วพูดว่า “ทำไมไม่ให้ข้าต่อสู้แทนท่านพี่ล่ะ ทักษะวรยุทธ์ของข้าต่ำ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพี่หญิงเหมยอย่างแน่นอน ย่อมต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย แบบนี้ทั้งสามารถไว้หน้าพี่หญิงเหมยได้ และไม่ทำหืท่านพี่อับอาย”
ก่อนที่เฮ่อยวนจะทันได้เอ่ยปาก กงซวินอวิ๋นเฟิ่งก็ยิ้มแล้วพูดว่า “เช่นนี้แล้ว แม้ว่าชาวเมืองอิ๋นเฉิงจะบ่นบ้าง แต่ก็จะไม่พูดอะไรมาก จะตีความการประลองยุทธ์ที่ต่อเนื่องนี้ว่าเป็นสงครามระหว่างผู้หญิง ซึ่งถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว”
“ท่านแม่ฉลาดที่สุดอีกแล้ว”
เฮ่อฉางเฟิงเดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยท่วงท่าที่อิสรเสรี พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
“ข้าจะคิดเรื่องนี้ดู ก่อนการประลองยุทธ์ เจ้าไม่ควรไปที่ตำหนักเทพจะดีกว่า”
กงซวินอวิ๋นเฟิ่งยิ้มและกล่าวเป็นเชิงสัพยอกว่า “กลัวว่าข้าจะพูดผิดหู ทำให้พี่หญิงเหมยโกรธหรือเปล่า”
เฮ่อยวนไอเบาๆ
“ไม่แน่นอน นางกับลูกสาวพรากจากกันมานานหลายปีแล้ว ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งที อย่าไปรบกวนจะดีกว่า”
“ได้เจ้าค่ะ ข้าเชื่อท่านพี่ ข้าจะไปทำอาหารก่อน ท่านสองพ่อลูกคุยกันไปก่อนเถอะ”
กงซวินอวิ๋นเฟิ่งหันหลังจากไป เฮ่อฉางเฟิงยังคงกลัวเฮ่อยวนมาก ดังนั้นเขาจึงรีบพูดว่า “ข้าก็จะกลับไปฝึกซ้อมเหมือนกัน”
หลังจากพูดจบก็ประกบมือคารวะเฮ่อยวน จากนั้นจึงสะบัดเสื้อคลุมวิ่งหนีไป
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของสองแม่ลูก ดวงตาของเฮ่อยวนก็ไหววูบเล็กน้อย และเพียงครู่เดียว ก็กลับมาเป็นปกติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...