สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1260

ใบหน้าของเฮ่อยวนมืดลงทันที

“อวิ๋นเฟิ่ง เจ้าสะเพร่าขนาดนี้ได้อย่างไร”

กงซวินอวิ๋นเฟิ่งหิ้วร่างของคนผู้นั้น แล้วพูดด้วยความโกรธว่า “ไม่ว่าคนผู้นี้จะเป็นใคร หากกล้าทำลายมิตรภาพระหว่างอิ๋นเฉิงและตำหนักเทพ ก็ไม่อาจปล่อยให้รดอได้ ท่านพี่ไม่ต้องกังวล ข้าจะสืบหาต้นตอของเขาอย่างแน่นอน หาคำอธิบายให้พี่หญิงเหมย”

เดิมทีทุกคนในตำหนักเทพเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่ออิ๋นเฉิง แต่เมื่อเห็นกงซวินอวิ๋นเฟิ่งฆ่าศิษย์คนนั้นด้วยมือตัวเอง ความโกรธของทุกคนก็ลดลงอย่างมาก

อินชิงเสวียนหรี่ตาลงเล็กน้อย นางต้องบอกว่ากงซวินฮูหยินมีกลอุบายบางอย่าง สิ่งที่นางพูดนั้นสมเหตุสมผล เป็นเรื่องยากที่จะจับผิดได้ แต่ถ้าสังเกตให้ละเอียดรอบคอบแล้ว เมื่อบุคคลนี้เสียชีวิต ระหว่างเหมยชิงเกอกับเฮ่อยวนก็ยิ่งมีเรื่องราวสับสนซึ่งยากต่อการคลี่คลาย

“ชิงเกอ ข้า...”

เฮ่อยวนต้องการอธิบาย แต่เมื่อเห็นท่าทางโกรธจัดของเหมยชิงเกอ เขาก็กลืนคำพูดกลับคืนทันที

เหมยชิงเกอสะบัดเสื้อคลุม แล้วพูดกับทุกคนว่า “สำหรับวันนี้พอเท่านี้ การประลองยุทธ์จะดำเนินต่อไปในวันพรุ่งนี้ ชาวยุทธ์ทุกคนสามารถพักอยู่ที่ตำหนักเทพอีกหนึ่งวัน เรื่องที่อยู่ที่กิน ตำหนักเทพจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ อวิ๋นลี่ พาฮั่วเทียนเฉิงไปกลับไปที่ห้องโถงจื่อชี่ตงไหลก่อน”

เฟิงเอ้อร์เหนียงพยักหน้าทั้งน้ำตา ออกจากสนามประลองยุทธ์พร้อมกับฮั่วเทียนเฉิงพรร้อมด้วยเหล่าลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดอีกหลายคน

เมื่อมองดูที่แผ่นหลังของเหมยชิงเกอ เฮ่อยวนก็พูดด้วยใบหน้าที่เขียวขุ่นว่า “ชิงเสวียน เรื่องนี้...พ่อจะสืบให้กระจ่าง เจ้าไปเกลี้ยกล่อมแม่ของเจ้าหน่อยเถอะ”

อินชิงเสวียนถอนหายใจ คิดไม่ถึงว่าสิ่งต่างๆ จะกลายเป็นเช่นนี้

“ท่านน้ากงซวินไม่ควรฆ่าคนคนนี้จริงๆ เรื่องนี้หากไม่ทำให้เข้าใจชัดเจน จะเกิดเป็นปมความแค้นแน่นอน”

กงซวินอวิ๋นเฟิ่งก็มีสีหน้าหมดหนทางเช่นกัน

“ศิษย์ตำหนักเทพเดือดดาลเช่นนี้ ถ้าข้าไม่ลงมือทำ เกรงว่าจะเกิดความวุ่นวาย ถึงวาระนั้นสถานการณ์จะไม่ง่ายเหมือนกับการตายของเพียงคนเดียว ไปช่วยแม่เจ้าสงบสติอารมณ์เกิด แล้วข้าจะไปขอโทษนางด้วยตัวเอง!”

แม้ว่าอินชิงเสวียนจะไม่พอใจ แต่นางก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก จึงพูดกับศิษย์ที่ดูแลแผนกต้อนรับว่า “ตอนนี้พาคนไปพักผ่อนยังที่พักก่อนเถอะ อย่าละเลยแขกผู้มีเกียรติเหล่านี้เด็ดขาด”

“ขอรับ”

เย่จิ่งหลานแค่นเสียงและพูดว่า “จะไปคิดอะไรให้ยุ่งยาก แค่ฆ่าคนปิดปาก ข้าว่ากงซวินอวิ๋นเฟิ่งไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ยิ่งผู้หญิงมีความอ่อนโยนและมีคุณธรรมมากเท่าไร ก็ยิ่งหลอกคนเก่งขึ้นเท่านั้น ข้าไม่เชื่อ ว่านางจะไม่มีความริษยาแค้นเคืองแต่อย่างใด”

อินชิงเสวียนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“เจ้าพูดถูกจริงๆ แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐานของหลักฐาน ท้ายที่สุดแล้วมันไม่ใช่ความบาดหมางระหว่างของเพื่อนบ้าน นี่เป็นถึงสองสำนักที่มีอิทธิพลมากที่สุดในยุทธจักร หากไม่จัดการให้ดี ผลที่ตามมาจะตามมาจะเป็นความหายนะ”

เมื่อคิดถึงแม่ที่อารมณ์รุนแรง อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะปวดหัว

ดวงตาของเย่จิ่งหลานเป็นประกาย และเขาก็มีแผนอยู่ในใจแล้ว

“แล้วทำไมเราไม่ทดสอบกงซวินอวิ๋นเฟิ่งดูล่ะ”

เย่จิ่งอวี้หันกลับมาแล้วถามว่า “จิ่งหลานมีความคิดดีๆ อะไรงั้นหรือ”

เย่จิ่งหลานเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “แน่นอน พี่ใหญ่ลืมไปแล้วหรือว่า เรายังมีหวังซุ่นอยู่ ตราบใดที่พี่ใหญ่สามารถขโมยศพมาได้ ข้าย่อมทำให้กงซวินอวิ๋นเฟิ่งเปิดเผยตัวตนได้อยู่แล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์