สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1261

ในยามราตรี

ร่างสองร่างปรากฏตัวขึ้นในที่พักชั่วคราวของชาวเมืองเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง

ภายในถ้ำ ผู้อาวุโสกงซวินมองดูศพบนพื้นด้วยสีหน้ากังวล

“ศิษย์คนนี้ใช้สิ่งของของอิ๋นเฉิงจริงๆ แต่เรากลับไม่รู้จัก เรื่องนี้ค่อนข้างน่าสงสัยไปหน่อย”

ผู้อาวุโสฉางชิวเฟิงพยักหน้าและกล่าวว่า “ฮั่วเทียนเฉิงยังเป็นศิษย์สายตรงของตาเฒ่าจิน มีสถานะที่สูงมากในตำหนักเทพ เกรงว่าเจ้าตำหนักเหมยจะไม่หยุดแค่นี้”

เขาเหลือบมองเฮ่อยวนแล้วพูดว่า “ถ้าหากต้องการแก้ไขความขุ่นเคืองนี้ เกรงว่าเจ้าเมืองจะต้องออกหน้าด้วยตนเองแล้ว”

เฮ่อยวนพูดด้วยสีหน้ายุ่งยากใจว่า “เดิมทีชิงเกอก็มีอารมณ์รุนแรงอยู่แล้ว ถ้าข้าไปตอนนี้ ไม่เพียงจะไม่ส่งผลดี แต่กลับทำให้นางพาลโกรธมากขึ้น มีแค่ต้องรอหลังการประลองยุทธ์ค่อยว่ากันอีกที พรุ่งนี้ข้าจะส่งลูกศิษย์ที่เชื่อถือได้ ส่วนคนผู้นี้ เมื่อกลับอิ๋นเฉิงแล้วต้องตรวจสอบอย่างละเอียด”

ผู้อาวุโสหลักอีกสองคนพยักหน้าพร้อมกัน การมีบุคคลที่ไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามเช่นนี้มาปะปนในอิ๋นเฉิง มันไม่ใช่เรื่องเล็กเลย

ผู้อาวุโสกงซวินมองดูท้องฟ้าแล้วพูดว่า “นี่ก็ดึกแล้ว วันนี้เราสงบสติอารมณ์และพักผ่อนให้สบายกันก่อนเถอะ อวิ๋นเฟิ่ง เจ้าออกมาข้างนอกกับพ่อหน่อย”

จากนั้นผู้อาวุโสหลักอีกสามคนก็ทยอยถอนตัวออกจากที่พักหิน

เมื่อเห็นสีหน้าเย็นชาของเฮ่อยวน เฮ่อฉางเฟิงก็ไม่กล้าหาเรื่องซวยให้ตัวเอง รีบชวนหยวนเป่าโค้งคำนับ และกลับไปพักผ่อนยังที่พักของตนเอง

ครั้นทุกคนเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ร่างสีดำทั้งสองบนภูเขาพยักหน้าให้แก่กันและเดินไปที่ประตูหินที่เปิดแง้มอยู่ครึ่งหนึ่งอย่างเงียบๆ คนชุดดำป้องปากแล้วตะโกนว่า “เจ้าตำหนักเหมย ที่หน้าผาตรงนั้นน่ะ เจ้าตำหนักต้องระวังให้ดี”

คนชุดดำอีกคนจงใจกระแอมและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ออกไปซะ อย่าตามมา”

เฮ่อยวนนั่งอยู่บนเตียงหิน วันนี้ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไรก็รู้สึกไม่ถูกต้อง จึงอดไม่ได้ที่จะเดินไปดูที่ศพอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงจากนอกประตู ทันใดนั้นเขาก็เหาะออกไป

ร่างสองร่างพุ่งไปที่ประตูห้องหิน ขณะที่ศิษย์ของอิ๋นเฉิงกำลังจะขัดขวาง ก็เห็นดวงตาของหนึ่งในนั้นส่องแสงสีทอง

นางพูดอะไรบางอย่างด้วยเสียงแผ่วต่ำ

“ศพฟื้นคืนชีพ เดินไปเอง”

ดูเหมือนว่าคนทั้งสองจะสูญเสียจิตวิญญาณ พยักหน้าด้วยแววตาว่างเปล่า

คนชุดดำอีกคนหนึ่งโบกข้อมือ ศพที่อยู่บนพื้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากที่ทั้งสองทำงานเสร็จ พวกเขาก็ทะยานร่างขึ้นไป กระโดดขึ้นๆ ลงๆ ไม่กี่ครั้งร่างของทั้งคู่ก็กลืนหายไปกับความมืดมิด

“ท่านพ่อคงไม่ได้สงสัยว่าเรื่องในวันนี้เป็นฝีมือบงการของข้าหรอกกระมัง ในอิ๋นเฉิง ผู้ที่ข้าสามารถโยกย้ายระดมพลได้มีเพียงองครักษ์ส่วนตัวภายในจวนเท่านั้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้ไม่ใช่องครักษ์ เกรงว่าเรื่องนี้จะมีคนอื่นมาขัดขวาง”

ผู้อาวุโสกงซวินพยักหน้าและกล่าวว่า “ดีแล้ว ในเมื่อเจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าในใจของเฮ่อยวนมีคนอื่นอยู่ แต่ยังเต็มใจที่จะแต่งงานกับเขา เช่นนั้นต้องรับผลที่ตามมาเอง ตระกูลกงซวินของเรามีความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา ต้องไม่ใช้วิธีที่ไร้ยางอายเช่นนั้นเด็ดขาด”

“ท่านพ่อวางใจเถิด ข้าจะประลองครั้งที่สามด้วยตัวเอง เพื่อแก้ไขความบาดหมางระหว่างเหมยชิงเกอกับท่านพี่เจ้าค่ะ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่กงซวินอวิ๋นเฟิ่งพูด ผู้อาวุโสกงซวินก็กังวลเล็กน้อย

“เจ้าตำหนักเหมยมีทักษะวรยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม เจ้าต้องระมัดระวังด้วย”

“ท่านพ่อไม่ต้องกังวล แม้ว่าเจ้าตำหนักเหมยจะใจร้อน แต่ก็คงไม่ระบายความโกรธกับผู้อื่น ลูกไม่เป็นไรแน่เจ้าค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปพักผ่อนเถอะ พ่อไม่รบกวนพวกเจ้าแล้ว”

จากนั้นผู้อาวุโสกงซวินก็ใช้ท่าร่างและมุ่งหน้าไปยังที่พักของตนเอง

กงซวินอวิ๋นเฟิ่งมองดูแผ่นหลังของผู้เป็นพ่อด้วยสายตาเฉยชา เนิ่นนานหลังจากนั้น นางก็หันหลังกลับ และเดินไปที่ที่พักหินเมื่อครู่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์