อินชิงเสวียนขมวดคิ้วและถามว่า “ถ้าอย่างนั้นไม่เท่ากับว่าเราทำให้แหวกหญ้าให้งูตื่นหรอกหรือ”
เย่จิ่งอวี้ตอบอืม
“คงเป็นแบบนั้น”
อินชิงเสวียนขมวดคิ้ว
“คิดไม่ถึงว่ากงซวินอวิ๋นเฟิ่งที่อยู่ในเมืองจะลึกซึ้งขนาดนี้ หากเป็นเช่นนี้ ความสงสัยของนางจะเพิ่มขึ้นมาก”
เย่จิ่งอวี้มองดูภรรยาของเขาแล้วพูดว่า “ถึงสงสัยไปก็ไร้ประโยชน์ หากหาหลักฐานไม่ได้ เราก็จัดการกับนางได้ยาก ตระกูลกงซวินทำการรักษามาหลายปีแล้ว ไม่ว่าจะในใจของศิษย์อิ๋นเฉิง หรือในสายตาของชาวบ้าน พวกเขาล้วนอยู่ในสถานะสูงส่ง”
อินชิงเสวียนเริ่มรู้สึกท้อแท้
“แล้วเราควรทำอย่างไรดี หรือจะไม่ทำอะไรเลย รอให้นางเผยพิรุธเองงั้นหรือ”
ตั้งแต่มาอยู่ที่ต้าโจวนานขนาดนี้ อินชิงเสวียนเจอตัวร้ายมาไม่น้อย แต่ไม่เคยเห็นตัวร้ายอย่างกงซวินอวิ๋นเฟิ่งที่ไม่ยอมหลงกลอะไรเลย ชั่วครู่หนึ่งนางไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี
เย่จิ่งอวี้ยิ้มบางๆ พูดว่า “ไม่ต้องกังวล ข้ามีวิธีอยู่ บางทีอาจทำให้กงซวินอวิ๋นเฟิ่งเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงได้ แต่ต้องรอหลังการประลองยุทธ์ จึงจะสามารถทำได้”
“วิธีอะไร”
ดวงตาสีเข้มของอินชิงเสวียนเบิกกว้าง
“ในโลกนนี้ไม่มีแม่คนใดที่ไม่รักลูก บางทีเราอาจจะเริ่มจากพี่ชายของเจ้าดูได้”
หลังจากฟังคำพูดของเย่จิ่งอวี้แล้ว อินชิงเสวียนและเย่จิ่งหลานก็พยักหน้าพร้อมกัน
เย่จิ่งหลานกลอกตาแล้วพูดว่า “เราสามารถฉวยโอกาสตอนที่เฮ่อฉางเฟิงไม่ทันระวังตัว พาเขาเข้าไปในมิติ จากนั้นปลอมตัวเป็นเขา แต่งหน้าให้เหมือนคนถูกทรมานจริงๆ กงซวินอวิ๋นเฟิ่งต้องรู้สึกปวดใจแน่นอน ถ้าแบบนี้แล้วนางยังไม่พูดความจริง ข้าก็จนปัญญาแล้ว”
หวังซุ่นที่อยู่ข้างๆ พูดว่า “นายท่าน เรามีเครื่องพิมพ์ไม่ใช่หรือ สามารถพิมพ์นิ้วหรือหูของคุณชายเฮ่อส่งไปให้นาง นางจะเชื่อว่าเป็นความจริงแน่”
พวกเขาทั้งสามพยักหน้าพร้อมกัน วิธีนี้เป็นไปได้มาก
ถึงอย่างไรอยู่ในตำหนักเทพก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ไม่สู้หาอะไรทำเพื่อยกระดับชีวิตที่เรียบง่ายและน่าเบื่อดีกว่า
ห้องโถงจื่อชี่ตงไหล
เมื่อมองดูร่างที่ค่อยๆ แข็งทื่อบนพื้น เฟิงเอ้อร์เหนียงก็ร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ
เหมยชิงเกอกอดนาง กล่าวปลอบโยนนาง “เจ้าไม่ต้องห่วง ศิษย์พี่ใหญ่จะล้างแค้นให้เจ้าแน่นอน”
เฟิงเอ้อร์เหนียงคว้าแขนของเหมยชิงเกอ พูดเสียงสะอื้นว่า “ข้าไม่ต้องการให้เรื่องของศิษย์พี่ฮั่ว มาทำให้เกิดรอยร้าวระหว่างศิษย์พี่ใหญ่กับเจ้าเมืองเฮ่อ ข้าคิดว่านี่คือไม่ใช่สิ่งที่ศิษย์พี่ฮั่วต้องการเห็น ข้าแค่หวังว่าจะสืบเรื่องนี้ให้กระจ่าง คืนความยุติธรรมแก่เขา”
เหมยชิงเกอปล่อยมือ แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้ายังพูดแทนเฮ่อยวนอยู่ ศิษย์คนนั้นมาจากอิ๋นเฉิง เขายากจะหนีความผิดนั้นได้”
ทันทีที่พูดจบ ก็มีลูกศิษย์คนหนึ่งมารายงาน
“เจ้าตำหนัก กงซวินฮูหยินแห่งอิ๋นเฉิงต้องการขอพบ”
เหมยชิงเกอพูดอย่างเย็นชา “คืนนี้เป็นคืนเฝ้าศพศิษย์พี่ฮั่ว ข้าไม่พบใครหน้าไหนทั้งนั้น”
“พี่หญิงเหมย ข้ามารับผิด”
กงซวินอวิ๋นเฟิ่งเดินเข้ามาจากประตูแล้ว ตามมาด้วยเฮ่อฉางเฟิง
เมื่อเห็นเหมยชิงเกอ เฮ่อฉางเฟิงก็รีบยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลง กราบสามครั้งคำนับเก้าครั้งอันเป็นการทำความเคารพเต็มพิธีการ
“ฉางเฟิงคารวะท่านป้าเหมย”
ถึงอย่างไรตัวเองก็มีลูกสาวเหมือนกัน ใบหน้าของเหมยชิงเกอค่อยๆ อ่อนลง ช่วยประคองเฮ่อฉางเฟิงให้ลุกขึ้นด้วยตัวเอง
กงซวินอวิ๋นเฟิ่งมองดูนางด้วยความสงสาร พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ได้ยินมาว่าสายลมที่หน้าผาเฟิงเริ่นนั้นหนาวเสียดแทงกระดูก พี่หญิงอยู่ที่นั่งคงต้องทนทุกข์ทรมานทั้งวันทั้งคืน จะผ่านไปง่ายๆ ได้อย่างไร หากท่านไปที่อิ๋นเฉิง ต้องให้ท่านพี่ชดเชยให้ท่านอย่างดี”
นางถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า “เรื่องฉีอวิ๋นจื่อ ข้าจะให้คำอธิบายแก่พี่หญิงเอง แม้ว่าเด็กในท้องของนางจะเป็นลูกของท่านพี่จริงๆ ข้าก็จะไม่ยอมให้นางแต่งงานเข้ามาในอิ๋นเฉิงเด็ดขาด”
ทันใดนั้นสีหน้าของเหมยชิงเกอก็เปลี่ยนไป “หรือว่านางท้องกับเฮ่อยวนจริงๆ?”
กงซวินอวิ๋นเฟิ่งพูดอย่างเร่งรีบว่า “พี่หญิงเหมยอย่าเพิ่งวู่วาม เรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัด ต่อให้เป็นจริง ก็ต้องเป็นนางที่ใช้กลอุบายบางอย่างเอง อันที่จริง...ข้ารู้มานานแล้วว่าฉีอวิ๋นจื่อชอบท่านพี่ ถ้าท่านพี่มีใจให้แก่นาง เหตุใดนางต้องซุ่มซ่อนตัวอยู่ในอิ๋นเฉิงมาหลายปีเช่นนี้”
เมื่อนึกถึงท่าทางลำพองใจของฉีอวิ๋นจื่อ นัยน์ตาของเหมยชิงเกอก็ฉายแววเย็นชาอย่างอดไม่ได้
“ผ็ชายเป็นพวกเจอหญิงงามแล้วลืมศีลธรรมจริงๆ เฮ่อยวนก็ไม่ใช่คนดีอะไรนัก”
“พี่หญิงเหมยอย่าเพิ่งอารมณ์เสีย เมื่อท่านแต่งงานเข้ามาอยู่ในอิ๋นเฉิง ฉีอวิ๋นจื่อย่อมไม่กล้าก่อกวนอะไรอีก ถึงเวลานั้น ข้ากับท่านพี่เราสองคนพี่น้องจะได้อยู่เป็นเพื่อนกัน เรื่องของหมั้นน้องเตรียมไว้ครบถ้วนแล้ว ไม่ให้พี่หญิงเสียเกียรติอย่างแน่นอน”
ยิ่งเหมยชิงเกอคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งโกรธมากเท่านั้น ผุดลุกขึ้นยืนทันที
“ไม่จำเป็น ข้าจะไม่ก้าวเข้าไปในอิ๋นเฉิงย่างแน่นอน กงซวินฮูหยิน เชิญกลับเถอะ”
“พี่หญิงเหมย!”
กงซวินอวิ๋นเฟิ่งรีบลุกขึ้นยืน เอื้อมมือไปดึงเหมยชิงเกอ แต่เหมยชิงเกอได้เหาะไปไกลแล้ว
กงซวินอวิ๋นเฟิ่งหันกลับมา และบังเอิญเห็นเฮ่อยวนที่เดินมาทางนี้พอดี
“ท่านพี่ พี่หญิงเหมยนาง...”
เฮ่อยวนถอนสายตาที่มองตามเหมยชิงเกอ กระแสเสียงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
“ไปกันเถอะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...