สิบห้านาทีต่อมา
เหมยชิงเกอปรากฏตัวที่ประตูถ้ำหินที่พักชั่วคราวของอิ๋นเฉิง นางมองเห็นเฮ่อยวนยืนอยู่ใต้ต้นไม้ไกลๆ
เขายืนไพล่หลัง มองขึ้นไปบนยอดต้นไม้ คิ้วทั้งคู่ขมวดเล็กน้อย สีหน้าเศร้าสร้อย
เหมยชิงเกอไอเบาๆ
“ดึกมากแล้ว ท่านยังไม่นอนหรือ”
เมื่อได้ยินเสียงของเหมยชิงเกอ เฮ่อยวนก็ตัวชา หันขวับกลับมาทันที
“ชิงเกอ เจ้ามาได้อย่างไร”
เหมยชิงเกอหยุดเดิน น้ำเสียงเปลี่ยนจากความรุนแรงครั้งก่อน เป็นอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย
“ข้านอนไม่หลับ เลยแวะมาดู”
นางก้าวไปข้างหน้า ถอนหายใจเบาๆ “เฮ่อยวน บางที...ข้าผิดเองที่ไปโทษท่าน”
เมื่อเห็นสีหน้าอันนุ่มนวลของเหมยชิงเกอ และท่าทางอ่อนโยน หัวใจของเฮ่อยวนก็เต้นรัว ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว กอดเหมยชิงเกอไว้ในอ้อมแขน
“ขอบใจนะชิงเกอ ในฐานะเจ้าแห่งอิ๋นเฉิง ข้าไม่สามารถหนีความผิดของเหตุการณ์นี้ได้ ยามนี้ศิษย์คนนั้นได้หลบหนีไปแล้ว คงอยู่เฉยไม่ได้นานนักหรอก ข้าได้คิดแผนล่องูออกจากรูแล้ว อีกไม่นาน เหตุการณ์นี้จะคลี่คลายความจริงจะปรากฏ”
เมื่อพิงท่อนอกที่มั่นคงของเฮ่อยวน ร่างกายอันตึงเครียดของเหมยชิงเกอก็ค่อยๆ ผ่อนคลาย
นางมาที่นี่เพราะลูกสาวเกลี้ยกล่อม เมื่อได้ฟังเสียงนุ่มทุ้มของเฮ่อยวน เหมยชิงเกอก็ไม่รู้จริงๆ ว่านางยังสามารถเชื่อใจชายคนนี้ได้หรือไม่
“อ้อ แล้วท่านจะใช้วิธีอย่างไรล่ะ”
เหมยชิงเกอรู้อยู่แล้วว่าร่างของศิษย์คนนั้นถูกพี่น้องตระกูลเย่ขโมยไป ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้
นางเงยหน้าขึ้น มองเฮ่อยวนด้วยท่าทางงุนงง
เฮ่อยวนกอดร่างของเหมยชิงเกอแน่นขึ้น แทบทำให้ซุกตัวอยู่ในอก เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ค่อยๆ ลดศีรษะลง ราวกับว่าเขาต้องการจูบเหมยชิงเกอ
การแสดงออกของเหมยชิงเกอเปลี่ยนไปเล็กน้อย แม้ว่าคนสองคนจะรักกัน แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่ปรารถนาจะสัมผัสกันทางกาย แต่เฮ่อยวนไม่ใช่คนเหลาะแหละ ทำไมจู่ๆ ถึงทำเช่นนี้ เขาไม่กลัวกงซวินอวิ๋นเฟิ่งจะมองเห็นหรอกหรือ
“ท่าน ท่านจะทำอะไร”
ใบหน้าของเหมยชิงเกอเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย วางมือดันอกของเฮ่อยวน
ทันใดนั้นการหายใจของเฮ่อยวนก็หนักขึ้น ดวงตาพร่าเลือนหลงใหลเล็กน้อย
“ชิงเกอ ข้าคิดถึงเจ้ามากว่าสิบปีแล้ว จะให้เจ้ากลับไปที่อิ๋นเฉิงกับข้าพรุ่งนี้”
เหมยชิงเกออดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธและหงุดหงิด หากอยู่ในห้องส่วนตัวจะพูดอะไรที่เกินขอบเขตก็ไม่เป็นไรหรอก แต่จะมาพูดจาเหลวไหลที่นี่ได้อย่างไร
ใบหน้าของเหมยชิงเกอแดงเถือก พูดอย่างค้อนๆ ว่า “อายุอานามก็ขนาดนี้กันแล้ว ยังไม่เคร่งอีก”
เฮ่อยวนได้จับแขนของนาง แล้วอุ้มเหมยชิงเกอขึ้นขี่หลังอย่างเอาแต่ใจ
“เจ้าและข้าเป็นสามีภรรยากัน ไม่มีอะไรต้องอายแล้ว”
เหมยชิงเกอตีเขาเบาๆ หัวเราะเหมือนเด็กสาว
เมื่อเห็นคนสองคนเดินไปไกล รอยยิ้มบนใบหน้าของกงซวินอวิ๋นเฟิ่งก็ค่อยๆ หายไป หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ก็กลับมาสู่ความอ่อนโยนดังเดิม หันหลังกลับแล้วเดินกลับไปที่ห้องหิน
ในป่า บนต้นไม้ใหญ่ขนาดสองคนโอบ เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนยืนอยู่บนกิ่งไม้ด้านซ้ายและขวา
เย่จิ่งอวี้กระซิบ “คราวนี้ท่านแม่แสดงได้ดี กงซวินอวิ๋นเฟิ่งชักสีหน้าแล้ว ต่อไปต้องมีการลงมืออีกแน่นอน”
เขาหยุดแล้วพูดว่า “เดาว่าท่านพ่อก็สงสัยเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่เป็นแบบนี้”
อินชิงเสวียนตอบอืม พฤติกรรมและวิธีการของเฮ่อยวนยังดูล้าสมัยอยู่เลย ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นสิ่งที่เขาจะทำ
“ตราบใดที่เราจับตาดูกงซวินอวิ๋นเฟิ่ง ก็ต้องพบเบาะแสบางอย่างแน่นอน”
ทันทีที่อินชิงเสวียนพูดจบ นางก็เห็นชายขาเป๋คนหนึ่งเดินกะโผลกกะเผลกมาจากถ้ำใกล้ๆ
เขามาที่ห้องหิน โค้งคำนับแล้วพูดว่า “ฮูหยิน ข้าน้อยมีเรื่องสำคัญจะรายงาน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...