“ท่านตา!”
อินชิงเสวียนก็ร้องออกมาเบาๆ สถานการณ์นี้ทำให้นางตกใจมาก ดวงตาทั้งคู่เบิกโพลง ใบหน้าซีดเผือด
เมื่อไม่นาน ชายชราผู้นี้ยังมีร่าเริงมีชีวิตชีวา นัดกันไว้ดิบดีว่าวันหน้าต้องได้เจอกันอีกครั้ง คิดไม่ถึง วันที่ได้พบกันอีกครั้ง กลับกลายเป็นวันที่จากลาไปตลอดกาล
ถ้ารู้เช่นนี้แต่แรก ก็ยอมที่จะไม่เจอดีกว่า
เซี่ยวอิ่นหวนและคนอื่นๆ เห็นฉากที่น่าตกใจนี้ผ่านร่างอันสั่นเทาของเย่จิ่งอวี้ เซี่ยวอิ่นหวนรู้สึกว่าภาพเบื้องหน้าตัดเป็นสีดำมืด เกือบจะล้มพับลงไป ฮวาเชียนพุ่งเข้ามาประคองอย่างรวดเร็ว
“ผู้คุมตรา!”
เซี่ยวอิ่นหวนผลักฮวาเชียนออกไป เดินโงนเงนเข้าไปหาเจ้าสำนักเซี่ยว
“ท่านพ่อ ท่านพ่อ!”
ในชีวิตนี้ เจ้าสำนักเซี่ยวสะอาดเรียบร้อยมาโดยตลอด จะเคยมีสภาพสะบักสะบอมเช่นนี้ที่ไหน
เมื่อมองดูหนวดเคราที่เปื้อนเลือดและเลือดที่อาบไปทั่วร่างกาย เซี่ยวอิ่นหวนรู้สึกเหมือนหัวใจถูกมีดกรีด รู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก
แม้ว่านางกับเจ้าสำนักเซี่ยวจะไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาใกล้ชิดยิ่งกว่าพอ่ลูกแท้ๆ เจ้าสำนักเซี่ยวรักนางมาโดยตลอด ถ่ายทอดสั่งสอนทุกสิ่งที่รู้
เป่ยไห่ถูกทำลายลง ในที่สุดก็ไม่ต้องฝึกฝนเพลงพิณอีกต่อไป ในชีวิตนี้นางแค่อยากกตัญญู เพื่อตอบแทนพระคุณของชายชราที่เลี้ยงดูนาง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า การต่อสู้ครั้งนี้จะกลายเป็นการอำลาชั่วนิรันดร์!
ข้างหลัง ศิษย์ทุกคนคุกเข่าลง และหลั่งน้ำตาเงียบๆ
อินสิงอวิ๋นยืนอยู่ในฝูงชน อ้าปากไปทางอินชิงเสวียนเงียบๆ จากนั้นก็ทรุดตัวลงคุกเข่า
เย่จิ่งอวี้เดินโซเซลุกขึ้น อุ้มเจ้าสำนักเซี่ยวไว้ในอ้อมแขน
“เสวียนเอ๋อร์ รีบเอาน้ำพุวิญญาณออกมาเร็วๆ รีบเอามาให้ท่านตาดื่ม”
“ได้”
อินชิงเสวียนหยิบน้ำออกมาด้วยอาการอันสั่นเทา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็สามารถเทเข้าไปในปากของเจ้าสำนักเซี่ยวได้
น้ำพุวิญญาณไหลออกมาไม่หยุด สีของเสื้อผ้าด้านหน้าของเจ้าสำนักเซี่ยวก็เข้มขึ้นเล็กน้อย
เย่จิ่งอวี้กระตุ้นกำลังภายในทั้งหมดในตัว พยายามถ่ายทอดทั้งหมดเข้าไปในร่างของเจ้าสำนักเซี่ยว ชั่วครู่หนึ่ง ฟ้าดินพลันเปลี่ยนสี กลางวันกลายเป็นความมืดที่เห็นดวงดาว อย่างไรก็ตาม เจ้าสำนักเซี่ยวยังคงไม่มีวี่แววว่าจะหายใจ
ทุกคนต่างตั้งตารอให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ทว่า ในโลกนี้ไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นมากมายขนาดนั้น
หลังจากได้รับการยืนยันแล้วว่าเจ้าสำนักเซี่ยวเสียชีวิตแล้ว ทุกคนก็ต่างคุกเข่าลุกไม่ขึ้น ร้องไห้โศกเศร้า
ตำนานหนึ่งยุค จบลงเพียงเท่านี้ วีรบุรุษในยามบั้นปลาย ยังเป็นบทเพลงแห่งความเศร้าของยุคสมัย!
เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืด ทุกคนก็เตรียมที่จะจัดการงานศพของเจ้าสำนักเซี่ยว จากนั้นอินชิงเสวียนก็เห็นอินสิงอวิ๋นที่คุกเข่าอยู่ท่ามกลางฝูงชน
“พี่ใหญ่ ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่”
อินสิงอวิ๋นถอนหายใจ และอธิบายเหตุผลว่าทำไมทุกคนมาที่นี่
“หากพูดจนถึงที่สุดแล้ว เป็นข้าเองที่ทำให้เจ้าสำนักเซี่ยวตาย”
อินชิงเสวียนได้ยินเช่นนั้นก็ยากจะสงบใจได้ พูดด้วยตาแดงก่ำ สะอื้นไห้ “ไม่ใช่ท่าน แต่เป็นข้า ถ้าข้าไม่ได้เล่นเพลงลืมกลุ้มกับฝ่าบาท ท่านและท่านพ่อคงไม่ต้องจากเมืองหลวงไป และคงไม่เกิดเรื่องขึ้นมากมายขนาดนี้”
เสียงของเย่จิ่งอวี้ดังขึ้นข้างหลัง
“อย่าโทษทั้งหมดว่าเป็นความผิดของตัวเอง หากจะตำหนิ ต้องตำหนิผู้อาวุโสหันผู้ละโมบ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เจ้ากับข้าสองสามีภรรยาคงไม่ต้องออกจากเมืองหลวง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...