ผู้หญิงคนนั้นยกมือขึ้น นิ้วเรียวเล็กคีบจับถั่วปากอ้าไว้ได้ทัน
อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชมเชยว่า “เป็นวรยุทธ์ที่เยี่ยมยอดจริงๆ”
ผู้หญิงคนนั้นหูดีมาก ประกบมือคำนับขึ้นมาทางชั้นสอง
“แม่นางยกย่องเกินไปแล้ว”
อินชิงเสวียนกับเย่จิ่งหลานมองหน้ากัน และกระซิบว่า “ลงไปดูสิ”
ในเวลานี้มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมากมาย ทุกคนที่ปรากฏตัวล้วนน่าสงสัย
เย่จิ่งหลานพยักหน้า เขาก็อยากเห็นว่าผู้หญิงที่สวมผ้าคลุมนี้ มีใบหน้างดงามเพียงใด
“ข้าอินชิงเสวียน ขอคำนับแล้ว”
อินชิงเสวียนเดินช้าๆ ไปที่โต๊ะของหญิงสาว และแสดงท่าทางคำนับตามแบบชาวยุทธ์
ผู้หญิงคนนั้นยืนขึ้นอย่างกล้าหาญ ประกบมือคำนับแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้ามีนามว่าชิงลั่ว”
“ที่แท้ก็แม่นางชิง เชิญนั่งเถิด”
อินชิงเสวียนมีความประทับใจที่ดีต่อนาง นางเคยเจอหญิงแอ๊บแบ๊วตอแหลมามาก กิริยาท่าทางที่องอาจเช่นนี้ พอเห็นแล้วก็รู้สึกสนใจ
ชิงลั่วพยักหน้านั่งลง แล้วถามว่า “แม่นางอินเป็นคนที่นี่งั้นหรือ”
“มิได้ ข้ามาจากเมืองหลวง ที่เดินทางมาคราวนี้ก็เพื่อเยี่ยมญาติ”
อินชิงเสวียนพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว
ชิงลั่วยื่นชาให้นาง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าเข้าใจแล้ว ได้ยินมาว่าช่วงนี้มีปัญหามากมายเกิดขึ้น แม่นางอินกับบ่าวของเจ้า ระวังตัวหน่อยจะดีกว่า”
เย่จิ่งหลานหันกลับไปมอง ก็เห็นว่ามีเพียงเขาและอินชิงเสวียนเท่านั้น มีบ่าวที่ไหนกัน
อินชิงเสวียนหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “นี่คือน้องสามีของข้า ไม่ใช่คนรับใช้”
ตอนที่พูดคำนี้ ชิงลั่วมีนัยน์ตาล้อเล่น คิดว่าคงจงใจยั่วโทสะเย่จิ่งหลานกระมัง ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจจริงๆ
เย่จิ่งหลานกัดฟันกราม สุดท้ายก็สามารถอดทนได้ ต่อหน้าผู้หญิง จะตะโกนด่าทอได้อย่างไร เสียกิริยาแห่งราชวงศ์หมด
“วิถีแห่งสวรรค์ค่อนข้างแปลกจริงๆ โชคดีที่ทุกคนในเมืองถูกรับเข้าไปอยู่ที่อิ๋นเฉิงแล้ว จึงควบคุมสถานการณ์ได้ชั่วคราว”
เนื่องจากผู้หญิงคนนี้กล้าเดินทางคนเดียว ย่อมได้ข่าวเหล่านี้อยู่แล้ว อินชิงเสวียนจึงไม่ได้ปกปิด
ชิงลั่วกล่าวเสริมว่า “ได้ยินมาว่าอิ๋นเฉิงเชี่ยวชาญด้านการรักษา เจ้าเมืองก็มีเมตตามาก ที่ราษฎรได้อยู่ใกล้เขา ก็นับว่าโชคดีมาก เพียงแต่โลกกำลังเปลี่ยนแปลง ในอนาคตจะเป็นอย่างไรนั้น ผู้ใดก็ไม่อาจบอกได้”
อินชิงเสวียนเลิกคิ้ว
“เอ๋? เหตุใดแม่นางถึงพูดแบบนั้นล่ะ”
ชิงลั่วยิ้มจางๆ
“สถานการณ์ของโลก ยามแตกแยกย่อมรวมกัน ยามรวมกันย่อมแตกแยก นี่เป็นหลักการที่ไม่เปลี่ยนแปลงมาแต่โบราณ”
เย่จิ่งหลานเหลือบมองนาง กล่าวเสียงขึ้นจมูก “คิดไม่ถึงว่าแม่นางอายุยังน้อย แต่กลับห่วงใยเรื่องบ้านเมือง”
ชิงลั่วหัวเราะเบาๆ
“ในเมื่อเติบโตมาในแผ่นดินนี้ จะเมินเฉยไม่สนใจได้อย่างไร ข้าสังเกตเห็นว่าพี่ชายน้อยคนนี้มีท่าทางไม่พอใจ หรือว่ามีความคิดที่ลึกซึ้ง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...