“เมื่อวานเราดื่มเหล้าด้วยกัน นางเป็นผู้หญิงอิสระและไร้ข้อจำกัด”
เสียงของอินชิงเสวียนแผ่วต่ำ เจือความอิจฉาในน้ำเสียงเล็กน้อย
ได้เกิดมาบนโลกนี้ ใครบ้างจะไม่อยากมีชีวิตที่อิสระ อย่างไรก็ตามถ้าเจ้ามีความรู้สึกก็จะถูกผูกมัด หลายครั้งเจ้าก็ทำได้เพียงคิด แต่ก็ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้
เย่จิ่งอวี้อ่านความคิดของหญิงสาวออก จึงเอียงศีรษะแล้วพูดว่า “ถ้าเสวียนเอ๋อร์ต้องการ เราก็อยู่ต่ออีกหลายๆ ปี”
อินชิงเสวียนเม้มริมฝีปากยิ้ม “ไม่ต้องการ”
นางยกกระโปรงขึ้นแล้วเข้าไปในประตู ประกบมือคำนับแล้วพูดว่า “แม่นางชิง เจอกันอีกแล้ว”
“สวัสดีแม่นางอิน”
ชิงลั่วยืนขึ้น และโค้งคำนับตอบ
“ต้องการอาหารหรือเครื่องดื่มไหม”
อินชิงเสวียนมาถึงโต๊ะแล้ว
ไม่จำเป็นว่าคนแซ่เดียวกันจะต้องเกลียดกันเสมอไป สิ่งที่ดีๆ ทุกคนย่อมชอบ
ชิงลั่วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “มื้อเช้าไม่จำเป็นต้องมีสุราหรือกับแกล้ม แค่บะหมี่ชามเดียวก็พอแล้ว”
นางเงยหน้าขึ้นมองไปที่เย่จิ่งอวี้
“นี่คือ...”
อินชิงเสวียนจับมือเย่จิ่งอวี้ และแนะนำด้วยรอยยิ้ม “นี่คือสามีของข้า นามว่าเย่จิ่งอวี้”
“ที่แท้ก็เป็นคุณชายเย่ ชิงลั่วขอคำนับแล้ว”
ชิงลั่วยืนขึ้นและประกบมือคำนับ แสดงท่าทางใจกว้าง
เย่จิ่งอวี้ทักทายตอบ กวาดสายตาไปทั่วผ้าโปร่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “แม่นางชิงไม่จำเป็นต้องเกรงใจ ภรรยาของข้าชมเสมอว่าแม่นางแตกต่าง ตอนนี้ได้เห็น ก็ไม่ธรรมดาจริงๆ แต่แซ่นี้...ดูเหมือนจะหายาก”
ชิงลั่วกล่าว “หายากจริงๆ บรรพบุรุษเราไม่ได้แซ่ชิง แต่เซ่อเหอ บรรพบุรุษของเราอาศัยอยู่ริมแม่น้ำลั่วมาหลายชั่วอายุคน ชนเผ่าส่วนใหญ่ตั้งชื่อตนเองตามภูเขา แม่น้ำ และต้นไม้ ต่อมาน้ำใสและไร้ปลา ดังนั้นพวกเขาจึงย้ายออกจากแม่น้ำ ใช้แซ่ว่าชิง เพื่อเป็นการระลึกถึงแม่น้ำลั่วเหอ”
เย่จิ่งอวี้ตอบอ้อและพูดว่า “ในเมื่อเป็นการระลึกถึงแม่น้ำลั่วเหอ แล้วทำไมไม่ใช้แซ่ลั่วเล่า”
ชิงลั่วขยับนิ้วเล็กน้อย แต่น้ำเสียงยังคงสงบราวกับสายน้ำ
“ชื่อนี้เป็นเพียงคำเรียกขานเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นชิงหรือลั่ว ในความคิดของข้า ก็ไม่มีความแตกต่างเช่นเดียวกับนายสามหรือนางสี่”
ชิงลั่วเงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า “แม่นางอินต้องการสักชามไหม”
“เอาสิ เสี่ยวเอ้อร์ ให้ข้าอีกชามหนึ่ง”
อินชิงเสวียนนั่งลงด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าชิงลั่วอยู่ตรงหน้านางจะเป็นใครก็ตาม นางก็ไม่มีเจตนาร้ายต่อตัวเอง หากเป็นอย่างที่นางคิด ก็สามารถใช้โอกาสนี้ทำความรู้จักกันให้ดีขึ้น
เสี่ยวเอ้อร์ตอบรับ และลงมือทำ
เมื่อเปรียบเทียบกับผู้หญิงที่สง่างามในสมัยโบราณ อากัปกิริยาการกินของชิงลั่วก็ค่อนข้างกล้าแสดงออกและไร้การควบคุม ให้ความรู้สึกเหมือนชาวต่างชาติที่ดื่มสุราและกินเนื้อสัตว์คำใหญ่ๆ
“แม่นางชิงตั้งใจจะไปเที่ยวเล่นที่ไหนหรือ”
อินชิงเสวียนถามหยั่งหางเสียง
ชิงลั่วพูดเงียบๆ “เดินเที่ยวไปเรื่อยเปื่อย แม่นางอินอยากไปกับข้าไหม”
อินชิงเสวียนตกลงทันที
“ผู้ชายมักจะมีธุระที่ต้องทำ ข้าก็รู้สึกเบื่อที่ต้องอยู่ในโรงเตี๊ยมทั้งวัน ถ้าแม่นางชิงไม่ว่าที่ข้าเดินช้า เจ้ากับข้าก็สามารถไปเดินเล่นด้วยกันได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...